มีใครเคยทำงานกับบริษัท recruitement ที่ชื่อ PRTR บ้างครับ

โอเคเปล่าครับที่นี่ ???? พอดีตดต่อมา ว่างๆๆๆ ลองไปสัมภาษณ์เล่นๆๆๆ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เห็นด้วยกับความเห็นที่12 เคยยื่นเอกสารหางาน พอเราได้งานที่แรกเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลโปรเจคนั้นเค้าดูแลดีอยู่ แต่พอรีครูทโทรมาเสนองานอีกที่นึงเพื่อให้เราอัพเงินเดือนให้มากกว่างานเดิมจาก 12k เป็น20k-25k คุณก็ต้องสนใจเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองในหน้าที่การงานใช่มั้ยหละ
ก็ไปสัมภาษณ์ตามขั้นตอนกับงานที่ใหม่ว่าเค้าโอเคกับเรามั้ย  สรุปผ่าน ได้เริ่มงานที่ใหม่ แต่ก็ยังเป็นเอาท์ซอทอยู่ดีกับองค์กรที่ส่งไป
แล้วที่สำคัญพนักงานจากPRTRเค้าก็จะเปลี่ยนคนดูแลเรา(เค้าจะเรียกเข้าใจกันในบริษัทตัวเองว่า คนดูแลโปรเจค)
เราเริ่มทำงานกับที่ใหม่ได้ประมาณสองเดือน มีช่วงที่ต้องลาป่วยเนื่องจากอาหารเป็นพิษ เลยต้องโทรแจ้งทั้งเจ้านายที่เราทำงานใหม่กับองค์กรนั้นๆให้ทราบ พร้อมกับแจ้งไปทางPRTRตามระเบียบเพื่อจะได้ลาตามเงื่อนไง ไม่ให้ถูกหักเงิน และทางPRTRจะต้องส่งพนักงานไปทำงานแทนเราตำระยะเวลาที่เราไม่สบาย ตัวเราเองก็เป็นห่วงงานที่ทำไว้บางส่วนที่ยังไม่เสร็จ เลยฝากข้อความบอกไว้กับพนักงานPRTRไว้ เพื่อจะให้คนที่มาทำแทนเราได้ทำต่อให้เสร็จ พอถึงวันที่กลับไปทำงาน  ก็เจอกับความจริงที่ว่า PRTRหาข้ออ้างวันแรกว่าหาคนไปทำแทนเราไม่ทัน พอวันที่สองก็อ้างกับเจ้านายที่องค์กรนั้นว่าน้องที่จะไปทำงานแทนเราเค้าท้องเสีย พอเรารู้ตอนนั้นก็คิดในแง่ดีเกินไปว่า เอออาจเป็นไปได้
แต่เจ้านายเราบอกว่า ไอ้บริษัทนี้มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่รับผิดชอบและไม่ทำตามกฎระเบียบและเงื่อนไขที่ตกลงกันเหมือนตอนที่มาเสนอหาคนมาทำงานเลย มีข้อแม้เยอะกับลูกค้า  (ลูกค้านี้รวมทั้ง บริษัทที่ต้องการหาคนไปทำ และลูกค้าที่ต้องการจะหางานทำ)
จนตอนหลังพอองค์กรที่เราทำงานด้วยกับเค้า เค้าเห็นใจเรามากเพราะสัญญาขององค์กรใกล้จะหมดกับPRTR และเจ้านายเราเค้าไม่ต้องการที่จะต่อสัญญากับที่PRTRอีก เพราะหลายๆปีที่ผ่านๆมาประสานงานได้แย่มาก และตัวเราเองที่เป็นคนทำงานให้กับองค์กรนี้เราก็เจอปัญหากับPRTRมาพอประมาณ ไม่ว่าจะไม่ส่งประกันสังคมมาให้ ไม่ส่งใบประกันสุขภาพมาให้ และไม่ส่งสลิปเงินเดือนมาให้ในเดือนหลังๆ โทรตามตัวก็ยาก ส่งอีเมลไปหาก็เงียบหาย  ดังนั้น เราเจอประสบการณ์การดูแลโปรเจคจากPRTRที่กล้าเรียกตัวเองว่าทำงานอย่างมืออาชีพนี้ไม่ไหว
อ่อๆ เคยเจอเคสกับคนที่รู้จัก พนักงานPRTRลืมโอนเงินค่าโอทีให้เอาท์ซอทอยู่โปรเจคนึงถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นโปรเจคแอลจี คนที่เค้าทำโอทีมาเพื่อรอเงินสิ้นเดือน เค้าก็รอ พอไม่ได้ค่าโอทีแล้วโทรไปทวงกับPRTR พนักงานงานดูแลโปรเจคกลับโบ้ยความผิดไปให้พนักงานคนอื่นแทนทั้งๆที่พนักงานPRTRคนที่รับสายเป็นคนจัดการเองมาโดยตลอด  
เจอมากับตัวเองแบบนี้ และเห็นเพื่อนก็เจอมาด้วย เลยตั้งสินใจว่า จะไม่ใช้บริการกับPRTRอีกต่อไป และเราเชื่อว่าคนทุกคนมีศักยภาพในการทำงานของเราเอง ถ้าไม่จำเป็นอย่าทำงานเป็นเอาท์ซอทเลย หรือไม่ก็หางานทำเองโดยไม่ต้องผ่านบริษัทจัดหางาน เพราะเงินเดือนคุณเองจะได้ไม่ต้องโดนหักค่าหัวจากบริษัทจัดหางาน (ฐานเงินเดือนที่เราควรได้คือ ไม่ต่ำกว่า44k แต่PRTRจับตัดค่าหัว เงินเดือนเราเลยเหลือ20k-25k หักเยอะดี) *สาเหตุที่ไม่เอ่ยชื่อองค์กรเก่าเนื่องจากเป็นองค์กรระหว่างประเทศ เป็นองค์กรที่ดีมาก รักเพื่อนร่วมงานที่นั่นรวมถึงเจ้านายมาก
แล้วตอนนี้เรากำลังรอเอกสารทวิ50 โทรไปขอแต่เช้า จนเย็นก็ไม่สแกนส่งมาสะที พอโทรไปทวง ก็อ้างว่า(ย้ำว่า ข้ออ้าง)กำลังให้น้องอีกคนกำลังส่งไปอยู่ รอตั้งแต่เช้าถึงตอน4โมงเย็นก็ยังไม่ส่ง แถมวางสายกระแทกหูโทรศัพท์ใส่
ใครไม่เจอก็โชคดี
แต่อยากให้ทุกๆคนที่กำลังทำงานเป็นเอ้าท์ซอทกับPRTR ช่วยตรวจเอกสารขอตัวเราเอง ตรวจดูสิทธิของเราเองว่าได้มาครบมั้ย
หนึ่ง บัตรประกันสุขภาพ
สอง บัตรประกันสังคม
และสาม สลิปเงินเดือนที่ทุกๆคนจะต้องได้ทุกๆเดือน
ทุกๆปีทุกคนต้องได้เอกสารทวิ50 ต้องได้มาช่วงระหว่างเดือนมกราคม จนถึงกุมภาพันธ์ ของปีถัดไป
เวลาโทรศัพท์ไปตามเรื่อง ตัวเราเองต้องบอกให้ระยะเวลาที่ต้องการเอกสารด้วย อย่าไปหลงเชื่อว่าจะรีบส่งให้ หรือจะเร่งให้ เพราะคำพูดนั้นมันเนียนๆแถๆไปได้เสมอ นี่ขนาดบอกให้ส่งวันนี้ยังแถได้จนจะห้าโมงเย็นก็ไม่ได้
แชร์ประศพ เอ๊ย ประสบการณ์แย่ๆบางส่วนให้ฟัง เอาไว้เป็นตัวอย่าง
*คนที่เจอบริการดีถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าใครเป็นหน้าม้าให้บริษัทPRTR  เค้าก็จะชงและชมจนดีแบบหาที่ติไม่ได้เชียว
ย้ำแก่ผู้อ่านว่า เราแชร์เรื่องที่เราเจอมาเองกับตัว ใครเจออะไรยังไงบ้าง ก็แชร์มา จะได้ให้คนอื่นๆเค้ามาอ่าน และถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตของเราเองไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่