ถามท่านที่เคยไปเที่ยว Kanazawa หน่อยค่ะ ว่าไปที่ไหนกันบ้าง

กระทู้คำถาม
เราจะไปช่วงปลายพฤศจิค่ะ เท่าที่ดูในเว็บ japan-guide เห็นที่น่าไป มี สวน Kenrokuen  ตลาด Omicho  หมุ่บ้านนินจา  แต่ปราสาทคานาซาวะนี่ยังลังเล ดูในเว็บแล้วมันธรรมดา  ก่อนหน้าจะไปคานาซาวะ ว่าจะไปเที่ยวปราสาทมัทสึโมโตะ  ในกรุ๊ปเรามีอยู่คนที่เที่ยวปราสาทโอซาก้า กับฮิเมจิมาแล้ว เห็นบอกว่าเข้าปราสาทเดียวก็พอ เพราะเหมือนกันหมด เลยไม่แน่ใจว่าจะตัดปราสาทคานาซาวะออกดีมั้ย

   เราคิดว่าจะให้เวลาสองวันกับคานาซาวะน่ะค่ะ ไม่ทราบว่านอกจากที่เที่ยวดังกล่าวแล้ว ในคานาซาวะมีที่ไหนน่าไปอีกบ้างคะ?

   อยากถามท่านที่เคยไปมาแล้วหน่อยค่ะว่าไปเที่ยวที่ไหนในคานาซาวะกันบ้าง

   ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
พอดีเพิ่งกลับมาจากคานาซาวะค่ะ ไปเมื่อตอนต้นเดือน อยู่ทึ่นั่น 4 คืน ตรงกับงานฉลองใหญ่ประจำปีของเมือง เลยมีกิจกรรมดีๆให้ทำเยอะ เช่นตอนกลางคืนดูเค้าลอยกระทงทำด้วยผ้าไหมย้อมสีวาดลายแบบยูเซ็น 1500 ใบ ในแม่นํ้ากลางเมือง กลางวันดูขบวนพาเหรดย้อนยุคแบบอลังการมีซามูไรใส่ชุดเกราะขี่ม้าอาหรับตัวใหญ่ยักษ์ ตกคํ่าดูละครโน่ห์แบบตั้งเวทีกลางแจ้งในสนามหญ้าหน้าปราสาทและมีจุดคบเพลิงข้างเวทีแบบสมัยโบราณด้วย เหล่านี้เป็นกิจกรรมพิเศษที่มีปีละครั้ง

ในช่วงเวลาปกติก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองตามไกด์บุคแนะนำ ซึ่งเราว่ามันขึ้นอยู่กับรสนิยมและความสนใจส่วนตัวของแต่ละคนนะว่าชอบอะไร อยากดูแบบไหน บางคนอาจบอกว่าคานาซาว่าไม่เห็นมีอะไร เดินเที่ยววันเดียวก็ทั่ว
แต่ของเราชอบแบบสัมผัสให้ลึกซึ้ง ดังนั้น 4 คืน 5 วันจึงไม่พอ ที่เราจะแนะนำก็เช่น

-สวน kenroku-en ก็สวยดี นั่งเล่นชมใบไม้เขียวๆดอกไม้สีสดใส สูดอากาศบริสุทธิ์ ดื่มชาเขียวแท้ๆแกล้มเสียงนกในเรือนนํ้าชากลางสวน แบบนี้เมืองไทยเราหายาก เลยใช้เวลาที่นี่ไปหลายชั่วโมง เดินอ่านป้ายบอกประวัติที่มาต้นไม้ ก้อนหิน รูปปั้น อะไรต่างๆ แทรกเกร็ดประวัติศาสตร์เพิ่มความเข้าใจก็เพลินดี เสร็จแล้วจะเดินข้ามสะพานต่อไปที่ปราสาทคานาซาวะก็ได้ ใช้เวลาที่นั่นสัก 15-20 นาทีก็ไม่น่าเสียดายอะไร

-ตลาด omicho อยู่หน้าโรงแรมที่เราพัก เลยได้อาศัยกินมื้อสาย ชั้นล่างขายอาหารทะเลชั้นเยี่ยมสารพัด ชั้นบนเป็นร้านอาหารดีๆหลายร้าน ขายซูชิสดๆ อาหารทะเลปรุงแบบต่างๆ ราคาไม่ค่อยแพง ช่วงนี้มีหอยนางรมตัวเบ้ง แผงที่ขายเค้าจะแงะให้กินกันสดๆกับนํ้าจิ้มสไตล์ญี่ปุ่น สดหวานใหญ่ อร่อยมาก บางร้านก็ชุบโชยุย่างหอมฉุย เสียดายไม่ได้เอานํ้าจิ้มซีฟู้ดติดไปด้วยไม่งั้นคงจะฟินกว่านี้

-ย่าน higashi chaya เป็นย่านร้านนํ้าชาแบบห้องแถวไม้โบราณคล้ายที่เกียวโต ข้างในดัดแปลงเป็นร้านค้าสมัยใหม่บ้าง และคงรูปแบบดั้งเดิมไว้ให้ดูก็มี เป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านคาเฟ่เก๋ๆสลับกันไป ที่สำคัญที่นี่มีร้านขายงานหัตถกรรมลงรักปิดทองเอกลักษณ์ของคานาซาวะ อันมีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอยู่ถึง 2 ร้าน มีทั้งของใช้ในบ้านถ้วยจานชาม ถาด ตะเกียบปิดทอง เครื่องประดับสร้อยแหวนต่างหูกำไล เครื่องสำอาง-ขนมผสมอณูทองคำ ของไม่เชยแบบโอทอปนะคะ สวยปราณีตมากๆออกโมเดิร์นผสมกลิ่นอายญี่ปุนจางๆ ใช้งานจริงง่าย เราเสียตังค์ที่นี่ไปโขอยู่เหมือนกัน  ช็อปเมื่อยก็แวะดื่มชาแกล้มขนมซะหน่อย ถ้าไม่มีเวลามากแต่อยากได้ขนมหวานๆมาชาร์จพลังแนะนำว่าไปที่ร้านขายผลิตภัณฑ์ปิดทอง Hakuichi ที่อยู่ปากทางเข้าย่านนี่เลยค่ะ เค้ามีซอฟท์ครีมโรยผงทองคำแท้ให้ลิ้มรส โคนใหญ่ อร่อยหอมหวานมัน กินแล้วมีเรี่ยวแรงเดินต่อ

-บ้านซามูไรเก่า Nomura house มิชลินไกด์นำเที่ยวให้สองดาว สัมผัสบรรยากาศ ดูการออกแบบบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณให้สัมพันธ์กับสวนด้วยปรัชญาเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง บนชั้นสองในห้องนํ้าชาปูเสื่อตาตามิ มีชาเขียวมัจฉะกับขนมญี่ปุ่นให้เราจิบแกล้มวิวสวนด้วย(อันนี้เสียตังค์เพิ่มนะคะ)

-มิวเซียมต่างๆ ที่คานาซาวะนี้เด่นเรื่องงานหัตถกรรมชั้นสูง จึงมีมิวเซียมเยอะมาก แยกประเภทของและเรื่องราวที่จัดแสดงกันไป เช่นกิโมโน, งานเซรามิกแบบ kutani yaki ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง, งานลงรักปิดทอง, ศิลปะการแสดงแบบโบราณ เป็นต้นใครสนใจอะไรก็หาข้อมูลแล้วไปชมเลยค่ะ ที่ละซักชั่วโมงสองชั่วโมง เมืองนี้เล็ก ไปไหนก็นั่งแท็กซี่สะดวกไม่แพง กลางวันเริ่มต้นที่ 560 เยน กลางคืน 640 เยน เรานั่งทีไรไม่เกิน1000 เยน ถ้าแบบไกลข้ามฟากเมืองก็ 1200-1300 ไม่กี่นาทีก็ถึง นั่งกันหลายคนยิ่งคุ้มค่ะ  รอรถ loop bus จะเสียเวลามากไป

- อาหารพื้นบ้านสไตล์แคว้นคากะ แถบที่ตั้งคานาซาวะนี้เค้าเรียกว่าคากะ มีผักพื้นเมืองหลายชนิดเรียกว่า kaga yasai คล้ายที่เกียวโตมีผักเกียวโตเลยค่ะ ปรุงร่วมกับอาหารทะเลของขึ้นชื่อของคานาซาวะ มาถึงถิ่นเค้าแล้วต้องลองชิมอาหารเค้าด้วย อย่าพลาดเชียวค่ะ เรื่องอาหารพื้นถิ่นนี่สำหรับเราสำคัญมากๆเลย เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็ตามต้องเสาะหาให้ได้ ไม่งั้นเหมือนยังไปไม่ถึงที่ค่ะ

เมืองคานาซาวะเค้าค่อนข้างจะแข่งๆกันกับเกียวโตด้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จึงมีเว็บไซต์ภาษาอังกฤษให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวอย่างละเอียดทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ตามร้านค้าหรือโรงแรมมักมีแผ่นพับหรือแม็กกาซีนท่องเที่ยวให้หยิบฟรี คุณ จขกท.ลองเจียดเวลา หาข้อมูลที่ตรงกับความสนใจ ตรงกับความชอบของตัวเองดูนะคะ

แนะนำว่า วางแผนเลือกที่ไป และแบ่งเวลาให้ดีก่อนนะคะ เที่ยวเมืองวัฒนธรรมแบบนี้ รีบร้อนไม่ได้ค่ะ ของเค้าละเมียด ต้องใช้เวลาในการซึมซับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการเที่ยวแบบขี่ม้าชมสวนดอกไม้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่