[บทความผีแดง 2013-06-13] เบ็คแฮมประกาศยุติอาชีพค้าแข้ง & อัลบั้มรูปสวยๆ HD

เบ็คแฮมประกาศยุติอาชีพค้าแข้ง (พร้อมการให้สัมภาษณ์กับแกรี่ เนวิลล์ และสถิติ)

เดวิด เบ็คแฮม อดีตสตาร์ดังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อย นักเตะวัย 38 ปี ได้รับข้อเสนอให้อยู่เล่นต่อกับเปแอสเชต่ออีก 1 ฤดูกาล หลังจากที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีก เอิง มาครองได้หมาดๆ



อย่างไรก็ตามเบ็คแฮมซึ่งเคยลงเล่นในฐานะนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเกินทศวรรษในปี 1992-2003 ก็ได้ตัดสินใจยุติอาชีพค้าแข้งเอาไว้แต่เพียงเท่านี้

เขาบอกว่า "ผมรู้สึกว่ามันได้เวลาที่ผมจะต้องเลิกเล่นแล้ว ในช่วงเวลาที่ผมยังได้เล่นในระดับสูงสุด"

"หากคุณมาบอกผมในตอนที่ผมยังเด็กๆ ว่าผมจะได้เล่นและกวาดแชมป์มากมายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมให้ทีมชาติอังกฤษ ลงเตะในนามทีมชาติไปกว่า 100 เกม รวมถึงได้เป็นส่วนหนึ่งของสุดยอดทีมต่างๆ ของโลก ผมคงคิดว่าคุณคงจะพูดเพ้อเจ้อมากกว่า ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้ทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นจริงขึ้นมา"

เบ็คแฮมลงเตะนัดแรกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1992 คว้าแชมป์ลีกไป 6 ครั้ง และแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัย ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมเรอัล มาดริด และแอลเอ แกแล็กซี่ รวมถึงไปเล่นแบบยืมตัวกับเอซี มิลาน ด้วย

เขาติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี 1996 และต่อมาเขาก็สร้างสถิติเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ของทีมสิงโตคำรามที่ลงเล่นมากที่สุด 115 เกม เขาเป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษคนแรกที่สามารถยิงได้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 3 ครั้งติดต่อกัน



"จนถึงวันนี้ หนึ่งในสิ่งที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดก็คือการได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมให้กับทีมชาติของผม"

"ผมรู้ดีว่าทุกครั้งที่สวมเสื้อทีมสิงโตคำราม ผมไม่เพียงแต่จะได้มารับช่วงต่อจากนักเตะชั้นนำทั้งหลายเท่านั้น ผมยังเป็นตัวแทนของแฟนบอลที่มีความศรัทธาอย่างแรงกล้ากับทีมชาติอีกด้วย นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ทีมชาติอังกฤษทั้งในและนอกสนาม"



อดีตเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ซี้กับเบ็คแฮมมาเป็นเวลานานอย่าง แกรี่ เนวิลล์ ได้เดินทางไปยังกรุงปารีส เพื่อพบกับเพื่อนเก่าคนนี้ของเขา เขาได้ไปพูดคุยกับมิดฟิลด์รายนี้ถึงการตัดสินใจแขวนสตั๊ด และเขาก็ได้มาเปิดเผยความคิดบางส่วนของเบ็คแฮมผ่านทางสื่อ

"เขาแค่รู้สึกว่ามันถึงเวลาอันสมควรแล้ว" เนวิลล์บอกกับ Sky Sports News

"เขารู้สึกว่าเขามาไกลที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้แล้ว ตอนนี้เขาอยากกลับบ้าน เขาเดินทางในสายอาชีพนี้มา 22 ปี และเขาก็มาจนถึงสุดทางแล้ว"

"เขาคว้าแชมป์ได้อีกกับเปแอสเช นั่นคือการคว้าแชมป์ได้กับ 4 ทีมจาก 4 ประเทศเลยนะ และตอนนี้เขาก็อยากจะกลับบ้านแล้ว"

เนวิลล์ยังกล่าวถึงการที่เบ็คแฮมไม่ใช่แค่ทรงอิทธิพลต่อวงการลูกหนังเท่านั้น เขายังทำอะไรได้มากกว่านั้นอีกด้วย

"เมื่อคุณมองถึงมันคุณคงจะร้องว้าว เขาทั้งติดทีมชาติและคว้าเหรียญรางวัลมาอย่างมากมาย ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานอย่างน่าเหลือเชื่อ"

"เขาเคยเล่นร่วมกับสุดยอดแผงมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นด้วย มันมีเดวิดแล้วก็ ไรอัน กิ๊กส์, รอย คีน กับ พอล สโคลส์ เดวิดเป็นยอดนักครอสบอล ยอดนักจ่ายบอล เขามีความแข็งแรงและพละกำลังที่น่าทึ่ง เขาเป็นคนที่ถ้าคุณเล่นด้วยแล้วจะรู้สึกสนุก"

"เมื่อคุณมองย้อนกลับไปว่าวงการฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนในรอบ 22 ปีหลัง เขาคือนักเตะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงเวลานั้น และก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการฟุตบอลอังกฤษ"

"ในตอนนี้เขาย้ายออกจากประเทศไปที่มิลาน แอลเอ หรือปารีส เขาก็ยังนำความเป็นอังกฤษเผยแพร่ไปทั่วโลก นั่นคือสิ่งที่เขาตระหนักดีและต้องการจะทำมัน"

"เสื้อผ้าทุกๆ ชุดที่เขาใส่ และทรงผมทุกทรงของเขาต่างก็ส่งอิทธิพลไปทั่ว ไม่ใช่แค่ในสนามฟุตบอลเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงนอกสนามด้วย"

"นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงเห็นเขาทำงานเป็นทูตให้กับโอลิมปิกที่ผ่านมา"



สถิติการเล่นของ เดวิด เบ็คแฮม

(นับสถิติการเล่นให้แต่ละสโมสรเฉพาะเกมลีกเท่านั้น)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (กันยายน 1992 - กรกฏาคม 2003) 265 แมตช์, 62 ประตู
เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ (กุมภาพันธ์ 1995 - มีนาคม 1995) 5 แมตช์, 2 ประตู
เรอัล มาดริด (กรกฏาคม 2003 - กรกฏาคม 2007) 116 แมตช์, 13 ประตู
แอลเอ แกแล็กซี่ (กรกฏาคม 2007 - ธันวาคม 2012) 98 แมตช์, 18 ประตู
เอซี มิลาน (มกราคม 2009 - พฤษภาคม 2009) 18 แมตช์, 2 ประตู
เอซี มิลาน (มกราคม 2010 - พฤษภาคม 2010) 11 แมตช์ 0 ประตู
ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง (มกราคม 2013 - พฤษภาคม 2013) 9 แมตช์, 0 ประตู
ทีมชาติอังกฤษ (กันยายน 1996 - ตุลาคม 2009) 115 แมตช์, 17 ประตู

credit : www.redarmyfc.com   โดย Sir KeaNo
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่