ผมไม่แน่ใจว่านี่คือบรรยากาศปี 40 หรือ 47 หรือ 51

กระทู้สนทนา
ผมเข้าลงทุนในปลายปี 46 อย่างเม่าๆเหมือนกันหมดกับเม่าหน้าใหม่ เป็นปีที่ตลาดมีผลตอบแทนดีเลิศ แต่ผมขาดทุนเพราะปลายปีหุ้นเริ่มผันผวน
ช่วงปลายปี 46 - ต้นปี 47 (ผมพอจำได้ และตอนนี้ที่เขียนไม่ได้ดูกราฟ)
นักลงทุนหน้าใหม่เข้ามากัน ฝรั่งขายต่อเนื่อง, กิมเอ็งบอกว่าจะไป 1000 จุด, IPO +เกิน 100% บริษัทเข้ามาจดทะเบียนกันเยอะ
เป็นยุคทองของ หุ้นเดินเรือ, เหล็ก,อสังหา, หุ้นปั่น
จำได้ว่า N-park 12 บาท เมื่อย่อตัว 8 บาท โบรกเกอร์บอกว่าเข้าซื้อเลยคุณจะรวย ไม่นานมีคนโทรมาในรายการว่าติด n-park 8 บาท 1 ล้านหุ้นทำไง คำตอบคือ ถึงขนาดนี้แล้วถือไปเถอะ cut loss ไปก็เสียหายหนัก
หุ้นเล่นกันสวิง 20-30 จุดในหลายๆวัน เป็นจุดบอกว่ามันจะเปลี่ยนทิศทาง, บทวิเคราะห์หุ้นเป็นคำภีวิเศษ เริ่มเน่า
ต่างชาติขายแต่หุ้นขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมมัน ราคาหุ้นดิ่งลง 500 จุด ผมจำไม่ได้ว่าเดือนปีอะไร และมันก็ขึ้นๆลงๆกันหลายรอบแรงๆ

ผมผ่านปี 51 ไปได้เพราะโชคช่วย+กับต้นปี51กำไรเกิน100% และพอหุ้นจะลงก็คิดจะซื้อบ้านราคา 2 ล้านกว่า ต้องขายหุ้นออกมา
แต่สุดท้ายเห็นหุ้นดีกว่าบ้านเลยเอาเงินมาซื้อหุ้นช่วงปลายปี 51 จำได้ว่า ขาดทุน hmpro -30% ทุนอยู่ราวๆ 4 บาท(par เดิมและไม่รวมแจกหุ้น) และก็ถัวเข้าไปอีก ปันผลราวๆ 0.3บาทต่อหุ้น ราคาหุ้น 3 บาท, ซื้อ centel 3 บาท, eastw 2.7 และอีกหลายหุ้น ติดดอยแม้กระทั้ง intuch ราคา 20 บาท
ไม่นานหุ้นก็ขึ้นยาวไปถึงปลายปี 56 ปัจจัยหลายอย่างทำให้หุ้นดูมีผลประกอบการดีคือ
1.การฟื้นตัวอย่างแรงจากวิกฤติ 51
2.การได้ลดภาษีจาก 30 เหลือ 23 และ 20
3.การใช้จ่ายภาคประชาชนจากน้ำท่วมใหญ่
4.สภาพคล่องที่ดูจะเป็นปัจจัยสำคัญ

3 ข้อทำให้หุ้นหลายๆตัวดีเกินไป(ในสายตาผม) เช่น hmpro เพราะได้ ข้อ1+ข้อ2+ข้อ3+ข้อ4 ผลทำให้ปี 55 ดีเกินไป
ในปลายปี 55-56 ก็กลับมาเป็นยุคทองของหุ้นปั่น และเม่าก็บินเข้ากองไฟเหมือนทุกๆครั้ง
อีกไม่นาน ที่สุดแห่งเม่าก็จะจากไป, เม่าก็จะตามไป, เหลือนักลงทุนพอใช้ได้ที่ดู pe เป็นเกณฑ์ และก็จะจากไป, เหลือนักลงทุนจริงๆ ทีนี้ก็กินกันยากขึ้นและหุ้นก็เริ่มถูก........... แล้วมันก็จะเริ่มต้นใหม่
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่