สวัสดีสมาชิกพันทิพย์ทุกคนนะคะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ ชื่อส้มนะคะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลย ปกติจะอ่านหรือคอมเมนท์อย่างเดียวมาตั้งแต่ ม.หก ปัจจุบันเรียนป.โทแล้วคะ หลายปีแล้วเนอะ
เหตุผลที่ส้มตั้งกระทู้นี้คืออยากแชร์ แบ่งปัน ข้อมูลให้สาวๆ ที่กำลังตัดสินใจซื้อกระเป๋า และหาข้อมูลอยู่
ไม่ได้มีเจตนาจะโอ้อวดแต่อย่างใดนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วย พึ่งเคยรีวิวกับเค้าครั้งแรกเลยคะ
ก่อนที่ส้มจะซื้อกระเป๋าใบนี้ ส้มก็ได้ข้อมูลจากกระทู้รีวิวต่างๆ ทั้งจาก YouTube, SBN, Pantip เป็นตัวช่วยตัดสินใจ
แต่รุ่นที่ส้มมีเป็นรุ่นที่คนไทยยังไม่ค่อยนิยมเพราะเป็นหมุดเล็ก เลยยังไม่ค่อยมีรีวิวมากนัก
พอส้มได้ซื้อมาแล้วก็เลยอยากทำรีวิวอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลและไขข้อข้องใจสาวๆ ที่เล็งรุ่นนี้อยู่
คำเตือน: รีวิวนี้อาจจะยาวไปนิด เล่าตั้งแต่ช่วงตัดสินใจ ช่วงตามล่าหาเป๋า รีวิวตัวกระเป๋าและการใช้งาน ถ้าไม่อยากเสียเวลาก็ข้ามๆ ดูแต่รูปนะคะ
ขอเชิญพบกับ Balenciaga City Giant 12 สี Anthracite with Gold Hardware แต่นแต๊นน
ที่ใบเกิดนี้ขึ้นมาเพราะอยากได้ everyday bag ที่ไม่ต้องถนอมมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ซื้อ Prada Saffiano 30 สี Cameo
ตอนซื้อคือความชอบและอารมณ์ล้วนๆ ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเข้ากับตัวเองมั๊ย - -" พอเอามาสะพายมันก็สวยนะ แต่มันยังไม่ใช่เรา 100%
เพราะมันออกคุณหนูนิดๆ ด้วยสีและสไตล์ กระเป๋าก็เป็นทรง ลุยมากไม่ได้ เอาไว้สะพายไปทำงานพอได้แต่ถ้าจะให้เป็น everyday bag คงไม่รอดเพราะมันเลอะง่ายมาก โดยเฉพาะตรงยาแนวหูจับที่จะดูดสีทุกครั้งที่ใช้ ก็ต้องมานั่งขัดสีฉวีวรรณทุกครั้ง เลยอยากได้ใบใหม่เพราะอยากมีกระเป๋าลุยๆ เป็น everyday bag ที่ดูแลง่าย เข้ากับการแต่งตัว และเรียบๆ ไม่มีโลโกหรามาแต่ไกล ก็เลยมาจบที่ Balenciaga
ทีนี่พอเลือกแบรนด์ได้ก็เกิดคำถามตามมาอีกมากมาย ว่าสีอะไร หมุดอะไร เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่า Balenciaga เค้าเป็นแบรนด์ที่มี know-how ทางด้านการย้อมสีหนัง ใจนึงเลยอยากได้สีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Balenciaga ไม่ใช่สีที่หาได้จากทุกแบรนด์ แต่มีข้อแม้คือต้อง match กับเสื้อผ้าได้ง่าย เข้าได้กับทุกชุด แต่อีกใจนึงเนี่ยก็ยังอยากได้สีดำอยู่ เพราะมันเป็นสีเบสิค สี must-have ตอบโจทย์เรื่องเสื้อผ้าได้ตรง ถึงตรงนี้โจทย์เริ่มยากเงื่อนไขเริ่มเยอะ ก็เลยหารีวิวดูไปเรื่อยๆ ก็มาเจอสีนึงที่มัน unique มากๆ คือสี Anthracite ซึ่งเป็นสีที่ออกเทาเข้มอมน้ำเงิน เวลาอยู่ในที่มืดจะออกดำแต่ไม่สนิท แต่เวลาอยู่ในที่สว่างจะออกเทาเข้าอมน้ำเงิน ซึ่งมันเก๋ดี
แต่ Balenciaga เป็นกระเป๋าที่ดู rock ยิ่งสีดำมันจะยิ่งดู rock ไปใหญ่ แต่คือมันฝังเข้าไปในซีรีบรัมแล้วไงว่ากระเป๋าสีดำคืออมตะ
ก่อนซื้อก็เลยเก็บไว้ในใจ 2 สีคือ สีดำกับ anthracite
ถัดมาพอเลือกสีได้แล้วก็มาเลือกรุ่นและหมุด Balenciaga มีหลายรุ่นมากแต่รุ่นที่ขายดีที่สุดคือ City และ Part time
เลือก City เพราะชอบที่มันจะไม่ยาวเท่า Part time ส่วนตัวคิดว่า Part time ยาวไป ไม่ค่อยสวย ไม่ได้ตามกระแสจริงจริ๊งงง ฮ่าๆ
ส่วนหมุดตอนแรกกกเลยคืออยากได้ดำหมุดเงินเพราะมันเบสิคสุด แต่อีกใจก็ว่ามันเบสิคไปมั๊ย
ก็เลยหาดูรีวิวหมุด Rose gold ซึ่งในรูป ในยูทูป มันก็สวยแต่ยังไม่ขนาดนั้น ยังไม่ฟิน
วันดีคืนดีเลยโทรหาเพื่อนที่ใช้ Balen บอกว่าขอดูกระเป๋าได้มั๊ย อยากเห็นสีหมุดเพราะนางใช้ Anthracite City with Rose gold หมุดใหญ่ พอได้เห็นกับตาเท่านั้นแหละ โอโหเลย Rose gold มันสวยมากจริงๆ ก็ตกลงปลงใจว่าจะเอาสีนี้
ไม่แม้แต่จะนึกถึงหมุดทองเลยซักนิด..
มาถึงช่วงตามล่าหากระเป๋า
วันที่ไปซื้อก็เข้าลอนดอนไปที่ Selfridges ตรงดิ่งไปที่ Balenciaga ขอ SA ดู Black City with Rose gold อย่างไม่ลังเล
แล้วนางก็บอกว่า "หมุด Rose gold discontinued ไปแล้วตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว" ตึงงงงงงง!! คือตอนนั้น fail มาก พยายามถามว่าไม่มีจริงๆ หรอสาขาอื่นในลอนดอนละไม่มีเหลือเลยซักใบหรอ นางก็บอกว่าไม่มีจริงๆ มีลูกค้าหลายคนมาตามหาสีนี้หมุดนี้แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปทุกคน ก็เลยขอนางดู Black City with Silver Hardware ก็เอามาลองๆ คือมันก้สวยแต่ยังไม่สะพรึง เลยขอตัวไปทำใจ..
แต่ก็ไม่ลดละ โทรไปถาม Balenciaga สาขาใหญ่ ซึ่ง SA บอกว่าไม่มีเหมือนกัน T^T ถึงตอนนั้นเริ่มถอดใจจริงๆ แล้ว
แต่ยังเหลืออีกที่คือ Harrods แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีแล้วแหละ วันต่อมาเลยไปหาที่ Harrods แบบไม่หวังอะไร
พอเดินไปถึง ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถาม SA ก็เหลือบไปเห็นใบที่วางโชว์ส่องไฟ spotlight เขียนว่า New Season 2013
วินาทีนั้นคือตกหลุมรัก คือมันสวยมากกกกกกก อาจจะเป็นเพราะไฟ spotlight แต่มันสวยเด่น สวยทะลุ สวยสะพรึงจริงๆ
ก็เลยไปหยิบลงมาดูใกล้ๆ มันคือสี Anthracite with Gold Hardware ก็หยิบๆ จับๆ ลองๆ แปบนึง
พอตั้งสติได้ก็หันไปถาม SA ว่ามีใบที่เราตามหาอยู่มั๊ยนั่นคือ Black City with Rose gold hardware
นางไม่ตอบแต่เดินไปเปิดตู้เหมือนว่านางยังมีสต็อกแต่ไม่แน่ใจ และแล้วนางก็หยิบขึ้นมาแล้วบอกว่า "Yes, we still have it."
คือตอนนั้นกรี๊ดดดดดด(ในใจ) ไม่คิดว่าจะยังมีจริงๆๆ เหมือนปาฎิหารย์ (เว่อร์ไป) ก็เลยเอามาลอง
แต่..มันไม่สวยเหมือนที่หวังไว้ หมุดก็หม่นๆ เหมือนเก่าเก็บไม่วิ๊งเท่าที่ควร พอเอามาเทียบกับ Anthracite with GHW ความสวยความเด่นมันต่างกันจริงๆ ก็ลองอยู่นาน SA นางคงแอบรำคาณ ลองอยู่ครึ่งชั่วโมงสลับไปมาสองใบ แต่ตัดสินใจไม่ได้ รักพี่เสียดายน้อง
อารมณ์แบบว่าอุส่าพลิกแผ่นดินตามหา พอเจอแล้วก็ไม่อยากเสียเธอไป~
SA กับแฟนก็เชียร์ Anthracite อย่างออกนอกหน้า แต่เราก็ยังไม่อยากด่วนสรุป
สุดท้ายเลยขอ SA ถ่ายรูปแล้วส่ง Line ให้เพื่อนช่วยเลือก เพื่อนสองคนก็บอกว่า Anthracite
สรุปก็เลยตัดใจเอา Anthracite ในใจเราลึกๆๆแล้วก็ชอบ Anthracite มากกว่าจริงๆ
แต่ก็เสียดาย Black with RGHW ไงใบสุดท้ายของลอนดอน!! (สรุปไอ่ที่ทำการบ้านมาก็ไม่ใช่เลยสินะ - -")
ใบนี้ SA บอกได้ VAT 13% ตอนจ่ายตังก่อนรูดบัตรเลยถามนางเรื่อง Vat Refund แบบไม่หมดเม็ดว่า ถ้าให้เพื่อนที่มาเที่ยวทำรีฟันให้ได้มั๊ย (ส้มเรียนโท วีซ่านักเรียนทำรีฟันได้เฉพาะของที่ซื้อ 3 เดือนก่อนกลับไทย for good แต่วีซ่าหมดมกราคมปีหน้า ซื้อตอนนี้เลยทำเองไม่ได้) SA ก็บอกว่าได้ ให้เอา receipt ไปให้เพื่อนทำ refund form นะ เราก็โอเค เพราะก่อนหน้านี้เคยซื้อ Prada ที่อิตาลี
แล้ว SA เค้าทำ refund form ให้ตรงนั้นตอนจ่ายเงินเลย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น คนที่เป็นคนขอ VAT ให้เรา (กรณีนี้คือเพื่อน)
ก็ต้องอยู่ตรงนั้นและเอา passport มาโชว์ด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นคงอดเพราะเพื่อนยังมาไม่ถึงอังกฤษ 5555
ก็เลยได้ใบนี้มาแบบงงๆ แต่ชอบมาก ไม่ผิดหวังที่เลือกสีนี้
มาที่นางเอกของงานนี้
สี Anthracite จะออกเทาเข้มปนน้ำเงิน ถ้าเทียบกับดำจะเห็นว่ามันไม่ดำ แค่เกือบๆ แต่ถ้าโดนแสงจะออกเทาน้ำเงิน คล้ายสีโคลน
หนังของ Balenciaga จะยับ เงา และนุ่มมาก ที่สำคัญหอมกลิ่นหนังสุดๆ เมื่อก่อนเวลาอ่านรีวิวก็ไม่เข้าใจว่าที่เค้าบอกว่าหอมมันหอมยังไง หิมขนาดนั้น? แต่พอซื้อเองคอมเฟิร์มว่าหอมจริง!
ส่วนตัวคิดว่า Balenciaga เป็นกระเป๋าแบรนด์เดียวที่ก๊อปยาก ก๊อปยังไงก็ไม่เหมือน เพราะเอกลักษณ์ของสีและหนัง
ตะเข็บต่างๆ เค้าก้เนี๊ยบมาก รุ่น Giant 12 นอกจากหมุดที่เล็กกว่าหมุดแบบเก่า ซิปหน้าที่สั้นกว่าเล็กน้อย และสายสะพายที่เส้นเล็กลง (แบบเก่าใหญ่กว่า) ข้อแตกต่างอีกอย่างคือ
ช่องระหว่างหูจับของกระเป๋าจะแคบกว่ารุ่นหมุดใหญ่ทำให้เวลาสะพายจะเหลือที่น้อย และติดจั๊กนิดหน่อย แต่ถ้าใส่ของแล้วมันจะถ่วงลงมาทำให้สะพายได้สบายมากขึ้น ตอนแรกห่วงว่าจะสะพายแล้วติดจั๊กเกินไปแต่พอมาใช้จริงไม่ติดแล้วก็ไม่รำคาณด้วย ถ้าคนตัวเล็กแขนเล็กก็จะไม่มีปัญหาเลย เราสูง 163 แขนไม่เล็กไม่ใหญ่ กลางๆ แต่ถ้าคนแขนใหญ่อาจจะอึดอัดได้ทางที่ดีควรไปลองที่ร้านก่อนซื้อเนาะ
ซูมๆๆ หมุดเล็กกว่า ดูไม่เด่นเกินไป เก๋ไก๋กำลังดี ซิปจะสั้นกว่ารุ่นหมุดใหญ่เล็กน้อย
เท่าที่สังเกตหมุดทองรุ่นใหม่จะไม่เหลืองเท่ารุ่นเก่า จะทองอ่อนๆเวลาเจอแสง อันนี้ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รอกูรูมาคอนเฟิร์มดีกว่า
อีกรูป สังเกตสีหมุดว่ามันไม่ทองแบบทองคำ แต่ทองอ่อนๆ ซิปยังทองกว่า
Gold hardware ทองวิ๊งเงาวับ สวยพุ่งลืมมม และสายสะพายที่เส้นเล็กลงกว่ารุ่น Giant 21
ด้านข้างบ้าง
หันหลังก่อนหน่อย ย้อยเชียว
ด้านในคะ จุมาก ใส่ของได้เยอะจริงๆ
Tag จุดสังเกตุนึงสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อเองที่ shop นะคะ Balenciaga แท้
ด้ายด้านบนของ tag ต้องเป็นสีดำเท่านั้น!!
ไม่ว่ากระเป๋าจะเป็นสีแดง เหลือง ฟ้า เขียว น้ำเงิน ดำ เทา รุ้ง ฯลฯ ด้ายด้านบนที่เย็บ tag ติดกับตัวกระเป๋าต้องเป็นสีดำ ส่วนด้ายด้านข้างและด้านล่างจะเป็นสีเดียวกับตัวกระเป๋า ถ้าด้ายด้านบนเป็นสีเดียวกับสีกระเป๋าก็สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าเป็นของปลอม..
อันนี้ฟังมาจากกูรูใน YouTube Wendyslookbook ชอบสไตล์การแต่งตัวของนางมาก กิ๊บเก๋มีสไตล์
สรุป เอาไป 10/10 เทใจให้เลยยย
ข้อแตกต่างเทียบกับ City Giant 21 หมุดใหญ่
-หมุดเล็กกว่า
-ซิปหน้าสั้นกว่า
-หูจับแคบกว่า
-สายสะพายเล็กกว่า
(น่าจะลดราคาด้วยนะ)
ข้อดี
-it bag ไม่ out
-เบากว่ารุ่นหมุดใหญ่มาก
-สะพายไม่ปวดไหล่
-หมุดเล็กเก๋ คนยังใช้ไม่เยอะ ไม่โหล
ข้อเสีย
-ช่องหูจับแคบกว่ารุ่นหมุดใหญ่
-ไม่เหมาะสำหรับคนช่วงแขนใหญ่อาจจะอึดอัด
จบแล้วววว เหนื่อยเลย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ ที่อยากได้หรือกำลังตัดสินใจเลือก Balenciaga นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ
[CR] **CR-Review พลีชีพจัดเต็ม Balenciaga City New Season 2013 **
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลย ปกติจะอ่านหรือคอมเมนท์อย่างเดียวมาตั้งแต่ ม.หก ปัจจุบันเรียนป.โทแล้วคะ หลายปีแล้วเนอะ
เหตุผลที่ส้มตั้งกระทู้นี้คืออยากแชร์ แบ่งปัน ข้อมูลให้สาวๆ ที่กำลังตัดสินใจซื้อกระเป๋า และหาข้อมูลอยู่
ไม่ได้มีเจตนาจะโอ้อวดแต่อย่างใดนะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วย พึ่งเคยรีวิวกับเค้าครั้งแรกเลยคะ
ก่อนที่ส้มจะซื้อกระเป๋าใบนี้ ส้มก็ได้ข้อมูลจากกระทู้รีวิวต่างๆ ทั้งจาก YouTube, SBN, Pantip เป็นตัวช่วยตัดสินใจ
แต่รุ่นที่ส้มมีเป็นรุ่นที่คนไทยยังไม่ค่อยนิยมเพราะเป็นหมุดเล็ก เลยยังไม่ค่อยมีรีวิวมากนัก
พอส้มได้ซื้อมาแล้วก็เลยอยากทำรีวิวอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลและไขข้อข้องใจสาวๆ ที่เล็งรุ่นนี้อยู่
คำเตือน: รีวิวนี้อาจจะยาวไปนิด เล่าตั้งแต่ช่วงตัดสินใจ ช่วงตามล่าหาเป๋า รีวิวตัวกระเป๋าและการใช้งาน ถ้าไม่อยากเสียเวลาก็ข้ามๆ ดูแต่รูปนะคะ
ขอเชิญพบกับ Balenciaga City Giant 12 สี Anthracite with Gold Hardware แต่นแต๊นน
ที่ใบเกิดนี้ขึ้นมาเพราะอยากได้ everyday bag ที่ไม่ต้องถนอมมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ซื้อ Prada Saffiano 30 สี Cameo
ตอนซื้อคือความชอบและอารมณ์ล้วนๆ ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเข้ากับตัวเองมั๊ย - -" พอเอามาสะพายมันก็สวยนะ แต่มันยังไม่ใช่เรา 100%
เพราะมันออกคุณหนูนิดๆ ด้วยสีและสไตล์ กระเป๋าก็เป็นทรง ลุยมากไม่ได้ เอาไว้สะพายไปทำงานพอได้แต่ถ้าจะให้เป็น everyday bag คงไม่รอดเพราะมันเลอะง่ายมาก โดยเฉพาะตรงยาแนวหูจับที่จะดูดสีทุกครั้งที่ใช้ ก็ต้องมานั่งขัดสีฉวีวรรณทุกครั้ง เลยอยากได้ใบใหม่เพราะอยากมีกระเป๋าลุยๆ เป็น everyday bag ที่ดูแลง่าย เข้ากับการแต่งตัว และเรียบๆ ไม่มีโลโกหรามาแต่ไกล ก็เลยมาจบที่ Balenciaga
ทีนี่พอเลือกแบรนด์ได้ก็เกิดคำถามตามมาอีกมากมาย ว่าสีอะไร หมุดอะไร เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่า Balenciaga เค้าเป็นแบรนด์ที่มี know-how ทางด้านการย้อมสีหนัง ใจนึงเลยอยากได้สีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Balenciaga ไม่ใช่สีที่หาได้จากทุกแบรนด์ แต่มีข้อแม้คือต้อง match กับเสื้อผ้าได้ง่าย เข้าได้กับทุกชุด แต่อีกใจนึงเนี่ยก็ยังอยากได้สีดำอยู่ เพราะมันเป็นสีเบสิค สี must-have ตอบโจทย์เรื่องเสื้อผ้าได้ตรง ถึงตรงนี้โจทย์เริ่มยากเงื่อนไขเริ่มเยอะ ก็เลยหารีวิวดูไปเรื่อยๆ ก็มาเจอสีนึงที่มัน unique มากๆ คือสี Anthracite ซึ่งเป็นสีที่ออกเทาเข้มอมน้ำเงิน เวลาอยู่ในที่มืดจะออกดำแต่ไม่สนิท แต่เวลาอยู่ในที่สว่างจะออกเทาเข้าอมน้ำเงิน ซึ่งมันเก๋ดี
แต่ Balenciaga เป็นกระเป๋าที่ดู rock ยิ่งสีดำมันจะยิ่งดู rock ไปใหญ่ แต่คือมันฝังเข้าไปในซีรีบรัมแล้วไงว่ากระเป๋าสีดำคืออมตะ
ก่อนซื้อก็เลยเก็บไว้ในใจ 2 สีคือ สีดำกับ anthracite
ถัดมาพอเลือกสีได้แล้วก็มาเลือกรุ่นและหมุด Balenciaga มีหลายรุ่นมากแต่รุ่นที่ขายดีที่สุดคือ City และ Part time
เลือก City เพราะชอบที่มันจะไม่ยาวเท่า Part time ส่วนตัวคิดว่า Part time ยาวไป ไม่ค่อยสวย ไม่ได้ตามกระแสจริงจริ๊งงง ฮ่าๆ
ส่วนหมุดตอนแรกกกเลยคืออยากได้ดำหมุดเงินเพราะมันเบสิคสุด แต่อีกใจก็ว่ามันเบสิคไปมั๊ย
ก็เลยหาดูรีวิวหมุด Rose gold ซึ่งในรูป ในยูทูป มันก็สวยแต่ยังไม่ขนาดนั้น ยังไม่ฟิน
วันดีคืนดีเลยโทรหาเพื่อนที่ใช้ Balen บอกว่าขอดูกระเป๋าได้มั๊ย อยากเห็นสีหมุดเพราะนางใช้ Anthracite City with Rose gold หมุดใหญ่ พอได้เห็นกับตาเท่านั้นแหละ โอโหเลย Rose gold มันสวยมากจริงๆ ก็ตกลงปลงใจว่าจะเอาสีนี้
ไม่แม้แต่จะนึกถึงหมุดทองเลยซักนิด..
มาถึงช่วงตามล่าหากระเป๋า
วันที่ไปซื้อก็เข้าลอนดอนไปที่ Selfridges ตรงดิ่งไปที่ Balenciaga ขอ SA ดู Black City with Rose gold อย่างไม่ลังเล
แล้วนางก็บอกว่า "หมุด Rose gold discontinued ไปแล้วตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว" ตึงงงงงงง!! คือตอนนั้น fail มาก พยายามถามว่าไม่มีจริงๆ หรอสาขาอื่นในลอนดอนละไม่มีเหลือเลยซักใบหรอ นางก็บอกว่าไม่มีจริงๆ มีลูกค้าหลายคนมาตามหาสีนี้หมุดนี้แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปทุกคน ก็เลยขอนางดู Black City with Silver Hardware ก็เอามาลองๆ คือมันก้สวยแต่ยังไม่สะพรึง เลยขอตัวไปทำใจ..
แต่ก็ไม่ลดละ โทรไปถาม Balenciaga สาขาใหญ่ ซึ่ง SA บอกว่าไม่มีเหมือนกัน T^T ถึงตอนนั้นเริ่มถอดใจจริงๆ แล้ว
แต่ยังเหลืออีกที่คือ Harrods แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีแล้วแหละ วันต่อมาเลยไปหาที่ Harrods แบบไม่หวังอะไร
พอเดินไปถึง ยังไม่ทันจะเอ่ยปากถาม SA ก็เหลือบไปเห็นใบที่วางโชว์ส่องไฟ spotlight เขียนว่า New Season 2013
วินาทีนั้นคือตกหลุมรัก คือมันสวยมากกกกกกก อาจจะเป็นเพราะไฟ spotlight แต่มันสวยเด่น สวยทะลุ สวยสะพรึงจริงๆ
ก็เลยไปหยิบลงมาดูใกล้ๆ มันคือสี Anthracite with Gold Hardware ก็หยิบๆ จับๆ ลองๆ แปบนึง
พอตั้งสติได้ก็หันไปถาม SA ว่ามีใบที่เราตามหาอยู่มั๊ยนั่นคือ Black City with Rose gold hardware
นางไม่ตอบแต่เดินไปเปิดตู้เหมือนว่านางยังมีสต็อกแต่ไม่แน่ใจ และแล้วนางก็หยิบขึ้นมาแล้วบอกว่า "Yes, we still have it."
คือตอนนั้นกรี๊ดดดดดด(ในใจ) ไม่คิดว่าจะยังมีจริงๆๆ เหมือนปาฎิหารย์ (เว่อร์ไป) ก็เลยเอามาลอง
แต่..มันไม่สวยเหมือนที่หวังไว้ หมุดก็หม่นๆ เหมือนเก่าเก็บไม่วิ๊งเท่าที่ควร พอเอามาเทียบกับ Anthracite with GHW ความสวยความเด่นมันต่างกันจริงๆ ก็ลองอยู่นาน SA นางคงแอบรำคาณ ลองอยู่ครึ่งชั่วโมงสลับไปมาสองใบ แต่ตัดสินใจไม่ได้ รักพี่เสียดายน้อง
อารมณ์แบบว่าอุส่าพลิกแผ่นดินตามหา พอเจอแล้วก็ไม่อยากเสียเธอไป~
SA กับแฟนก็เชียร์ Anthracite อย่างออกนอกหน้า แต่เราก็ยังไม่อยากด่วนสรุป
สุดท้ายเลยขอ SA ถ่ายรูปแล้วส่ง Line ให้เพื่อนช่วยเลือก เพื่อนสองคนก็บอกว่า Anthracite
สรุปก็เลยตัดใจเอา Anthracite ในใจเราลึกๆๆแล้วก็ชอบ Anthracite มากกว่าจริงๆ
แต่ก็เสียดาย Black with RGHW ไงใบสุดท้ายของลอนดอน!! (สรุปไอ่ที่ทำการบ้านมาก็ไม่ใช่เลยสินะ - -")
ใบนี้ SA บอกได้ VAT 13% ตอนจ่ายตังก่อนรูดบัตรเลยถามนางเรื่อง Vat Refund แบบไม่หมดเม็ดว่า ถ้าให้เพื่อนที่มาเที่ยวทำรีฟันให้ได้มั๊ย (ส้มเรียนโท วีซ่านักเรียนทำรีฟันได้เฉพาะของที่ซื้อ 3 เดือนก่อนกลับไทย for good แต่วีซ่าหมดมกราคมปีหน้า ซื้อตอนนี้เลยทำเองไม่ได้) SA ก็บอกว่าได้ ให้เอา receipt ไปให้เพื่อนทำ refund form นะ เราก็โอเค เพราะก่อนหน้านี้เคยซื้อ Prada ที่อิตาลี
แล้ว SA เค้าทำ refund form ให้ตรงนั้นตอนจ่ายเงินเลย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น คนที่เป็นคนขอ VAT ให้เรา (กรณีนี้คือเพื่อน)
ก็ต้องอยู่ตรงนั้นและเอา passport มาโชว์ด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นคงอดเพราะเพื่อนยังมาไม่ถึงอังกฤษ 5555
ก็เลยได้ใบนี้มาแบบงงๆ แต่ชอบมาก ไม่ผิดหวังที่เลือกสีนี้
มาที่นางเอกของงานนี้
สี Anthracite จะออกเทาเข้มปนน้ำเงิน ถ้าเทียบกับดำจะเห็นว่ามันไม่ดำ แค่เกือบๆ แต่ถ้าโดนแสงจะออกเทาน้ำเงิน คล้ายสีโคลน
หนังของ Balenciaga จะยับ เงา และนุ่มมาก ที่สำคัญหอมกลิ่นหนังสุดๆ เมื่อก่อนเวลาอ่านรีวิวก็ไม่เข้าใจว่าที่เค้าบอกว่าหอมมันหอมยังไง หิมขนาดนั้น? แต่พอซื้อเองคอมเฟิร์มว่าหอมจริง!
ส่วนตัวคิดว่า Balenciaga เป็นกระเป๋าแบรนด์เดียวที่ก๊อปยาก ก๊อปยังไงก็ไม่เหมือน เพราะเอกลักษณ์ของสีและหนัง
ตะเข็บต่างๆ เค้าก้เนี๊ยบมาก รุ่น Giant 12 นอกจากหมุดที่เล็กกว่าหมุดแบบเก่า ซิปหน้าที่สั้นกว่าเล็กน้อย และสายสะพายที่เส้นเล็กลง (แบบเก่าใหญ่กว่า) ข้อแตกต่างอีกอย่างคือ ช่องระหว่างหูจับของกระเป๋าจะแคบกว่ารุ่นหมุดใหญ่ทำให้เวลาสะพายจะเหลือที่น้อย และติดจั๊กนิดหน่อย แต่ถ้าใส่ของแล้วมันจะถ่วงลงมาทำให้สะพายได้สบายมากขึ้น ตอนแรกห่วงว่าจะสะพายแล้วติดจั๊กเกินไปแต่พอมาใช้จริงไม่ติดแล้วก็ไม่รำคาณด้วย ถ้าคนตัวเล็กแขนเล็กก็จะไม่มีปัญหาเลย เราสูง 163 แขนไม่เล็กไม่ใหญ่ กลางๆ แต่ถ้าคนแขนใหญ่อาจจะอึดอัดได้ทางที่ดีควรไปลองที่ร้านก่อนซื้อเนาะ
ซูมๆๆ หมุดเล็กกว่า ดูไม่เด่นเกินไป เก๋ไก๋กำลังดี ซิปจะสั้นกว่ารุ่นหมุดใหญ่เล็กน้อย
เท่าที่สังเกตหมุดทองรุ่นใหม่จะไม่เหลืองเท่ารุ่นเก่า จะทองอ่อนๆเวลาเจอแสง อันนี้ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รอกูรูมาคอนเฟิร์มดีกว่า
อีกรูป สังเกตสีหมุดว่ามันไม่ทองแบบทองคำ แต่ทองอ่อนๆ ซิปยังทองกว่า
Gold hardware ทองวิ๊งเงาวับ สวยพุ่งลืมมม และสายสะพายที่เส้นเล็กลงกว่ารุ่น Giant 21
ด้านข้างบ้าง
หันหลังก่อนหน่อย ย้อยเชียว
ด้านในคะ จุมาก ใส่ของได้เยอะจริงๆ
Tag จุดสังเกตุนึงสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อเองที่ shop นะคะ Balenciaga แท้ ด้ายด้านบนของ tag ต้องเป็นสีดำเท่านั้น!!
ไม่ว่ากระเป๋าจะเป็นสีแดง เหลือง ฟ้า เขียว น้ำเงิน ดำ เทา รุ้ง ฯลฯ ด้ายด้านบนที่เย็บ tag ติดกับตัวกระเป๋าต้องเป็นสีดำ ส่วนด้ายด้านข้างและด้านล่างจะเป็นสีเดียวกับตัวกระเป๋า ถ้าด้ายด้านบนเป็นสีเดียวกับสีกระเป๋าก็สันนิษฐานไว้ได้เลยว่าเป็นของปลอม..
อันนี้ฟังมาจากกูรูใน YouTube Wendyslookbook ชอบสไตล์การแต่งตัวของนางมาก กิ๊บเก๋มีสไตล์
สรุป เอาไป 10/10 เทใจให้เลยยย
ข้อแตกต่างเทียบกับ City Giant 21 หมุดใหญ่
-หมุดเล็กกว่า
-ซิปหน้าสั้นกว่า
-หูจับแคบกว่า
-สายสะพายเล็กกว่า
(น่าจะลดราคาด้วยนะ)
ข้อดี
-it bag ไม่ out
-เบากว่ารุ่นหมุดใหญ่มาก
-สะพายไม่ปวดไหล่
-หมุดเล็กเก๋ คนยังใช้ไม่เยอะ ไม่โหล
ข้อเสีย
-ช่องหูจับแคบกว่ารุ่นหมุดใหญ่
-ไม่เหมาะสำหรับคนช่วงแขนใหญ่อาจจะอึดอัด
จบแล้วววว เหนื่อยเลย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ ที่อยากได้หรือกำลังตัดสินใจเลือก Balenciaga นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ