"เบนซ์ พรชิตา" ยันไม่รู้จริงๆว่า "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" ไม่ปกติ เผยถามทีมงานแล้วอีกฝ่ายบอกโอเค แค่รู้สึกแปลกนิดหน่อย ส่วนเรื่องว่าจัดฉากไม่จัดฉาก คงต้องถามทางเวิร์คพอยท์ ก่อน ฝากขอโทษครอบครัวอีกฝ่าย พร้อมเชื่อเรื่องไม่รุนแรงจนทำให้รายการต้องถูกย้ายเวลา
กลายเป็นข่าวฉาวขึ้นมาจนได้สำหรับ บริษัทเวิร์คพอยท์ฯ กรณีนำเทปของหนึ่งในผู้เข้าประกวดเรียลิตี้โชว์ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ 2013" ที่ชื่อ "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" มาออกอากาศก่อนถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสมไม่เหมาะสมเนื่องจากเจ้าตัวนั้นดูเหมือนจะมีความไม่ปกติอยู่ ทำเอาเวิร์คพอยท์ต้องออกจดหมายยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นคนปกติด้วยการกล่าวอ้างยืนยันจากผู้เป็นมารดา
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกเมื่อทางมารดาของ "สิทธัตถะ" ได้ออกมายอมรับว่าลูกชายตนมีความผิดปกติแต่ถูกทีมงานเตี๊ยมไว้ ซึ่งล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เจอกับหนึ่งในคณะกรรมการของรายการ "เบนซ์ พรชิตา" เมื่อถามเจ้าตัวว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวที่กลายเป็นข่าวออกมา ทางด้านของสาวเบนซ์เผยว่า ...
"ก็เป็นอย่างที่เห็นแหละค่ะ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงก็อธิบายไม่ถูกเลย เพราะว่ากับซีซั่นที่แล้วเราไม่เสียใจเพราะว่าอันนั้นโกรธจริงๆ แต่ซีซั่นนี้ไม่รู้จริงๆ คือเราไม่รู้จริงๆ เพราะว่าเราถามทีมงานหลายครั้งแล้ว ทีมงานก็ยืนยันกับเราว่าทางบ้านยืนยันว่าก็ปกติดี เพราะฉะนั้นแล้วเราก็คิดว่าเขาก็คงปกติจริงๆค่ะ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นคนปกติ ก็คงจะแบบกวนๆน่าดูทีเดียว แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ถ้าเขาไม่ปกติแบบนี้เราก็รู้สึกแย่มาก ก็เครียดเหมือนกันนะถ้าเอาจริงๆ"
ยันเรื่องจัดฉากหรือไม่จัดฉากต้องไปถามทางเวิร์คพอยท์ ... "คืออันนี้ไม่รู้เลยจริงๆ ต้องคุยกับทางเวิร์คพอยท์เลยเรื่องจัดฉากอันนี้เราไม่รู้เรื่องเลย คราวที่แล้วเราก็ไม่รู้เรื่อง คืออย่างที่บอกว่าเราถามแล้วว่าโอเคใช่ไหม แต่เราก็ เอ๊ะ ! อยู่เหมือนกัน เพราะว่าทีมงาน อย่างที่พี่โญ (ภิญโญ รู้ธรรม) เขาให้สัมภาษณ์ไป ทีมงานเขาบอกว่าพี่คนนี้เค้าดูแปลกๆ หน่อยนะ ไม่ค่อยมีหางเสียงจะแปลกๆ นิดหนึ่ง เราก็บอกโอเคๆ เข้าใจ แต่เราไม่รู้ว่ามันอารมณ์ไหนไง แต่พออัดเสร็จแล้ว ก็ถามเหมือนกัน เขาโอเคใช่ไหม เขาก็บอกโอเคที่บ้านเขาบอกโอเค เราก็โอเค ไม่ได้คิดอะไร"
"ก็คือถ้าสมมติว่าเขาปกตินะ เราก็ยอมรับได้ เพราะว่าในการตัดสินของกรรมมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะว่ามันต้องมีคนที่พอใจและไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ว่าในมุมของเราเราก็มองแต่ว่าเขาคือคนปกติคนหนึ่งตามที่ทีมงานบอก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำออกไปก็คือโชว์มันแย่จังเลย นี่ก็คือการพูดตามความรู้สึกจริงๆ มันไม่ใช่โชว์นี้โชว์เดียวที่เบนซ์บอกว่ามันแย่หรือน่าเบื่อ มันก็มีโชว์อื่นๆ เพียงแต่ว่ามันก็ไม่มีประเด็นอื่นๆ หรือมีเรื่องอะไรแบบนี้ออกมา"
"จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหรือเปล่า ไม่รู้เลยค่ะ อันนี้ตอบยาก เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ก็ต้องไปถามกระบวนการของทางเวิร์คพอยท์ แต่ว่า ณ ที่ของเราก็คือทำตามหน้าที่แค่นั้นเอง ว่าเรามีหน้าที่ตัดสินว่าคนนี้ร้องดีไม่ดีต้องยังไง เพราะว่าตามรายการแล้วจริงๆ ก็คือว่าเขาจะต้องมีทั้งโชว์ดีที่สุดและแย่ที่สุด และตลกและอะไรแบบนี้รวม ๆ กันให้คนได้สนุกไปกับเรา มันเป็นความสนุกของรายการมากกว่า ก็ได้คุยกับพี่ตา (ปัญญา นิรัดร์กุล) ในมุมของเรา เขาก็มาให้กำลังใจมากกว่า แต่ว่าอื่นๆ ก็ไม่รู้ค่ะ เพราะว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวถึงคนอื่นค่ะ"
"เสียใจมากๆ แต่เรื่องที่เราคอมเมนท์ค่อนข้างจะแรงก็เข้าใจ นี่พูดตรงๆ เลย ถ้าเป็นเราเราก็ด่าเหมือนกัน เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเป็นเราแล้วเรารู้เลยนะ เพราะว่าเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องมันแย่มากเลยนะ แต่ในมุมเราคือเราไม่รู้จริงๆ คำถามถามว่า เราอยู่รายการนี้มา 2-3 ปี ถ้าเราเห็นว่าเขาไม่ปกติ อีนี่ใจดีจะตาย คนด่าแบบนางเอกมาก ร้องไห้ตลอดๆ แล้วจะไปด่าเขาเพื่อ? มันไม่มีความจำเป็นเลย"
เจ้าตัวบอกเข้าใจหลังรายการแพร่ภาพออกไปแล้วนั้นมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ
"ก็แล้วแต่เขาค่ะ เพราะว่าเราไปห้ามความคิดใครไม่ได้จริงๆ อย่างตัวเราเองเราเราทำนหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามหน้าที่ของเรา เรื่องถอนตัวจากรายการ อันนี้จริงๆ ก็คงต้องคิดดูก่อน มันไม่ได้ต้องขนาดนั้น แต่ว่าเราทำงานมานานก็เสียใจเหมือนกัน เพราะบางทีเราก็รู้สึกว่าแบบเราอยู่มานานถ้ามีคนเข้าใจมันก็ดี แต่ถ้าคนมองไม่ดีก็น่าจะเสียใจจริงๆ นะ เพราะว่ารู้สึกว่าเวลาที่เราทำอะไรแบบตั้งใจ แล้วมันออกมาไม่ได้อย่างที่คิด
"ไม่คิดเลยค่ะว่าผลจะออกมาแบบนี้ เชื่อไหมยังมาเล่าให้ทุกคนฟังเลยว่า เดี๋ยวรอดูน้องคนนี้นะมันกวนจริงๆ คือไม่รู้จริงๆ ยังมาบอกคอยดูคนนี้นะกวนจริงๆ ออกมานะจะต้องเรียกให้คนอื่น คิดดูสิไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) ยังเรียกให้เพื่อนมาดูเลย"
บอกเทปต่อไปจะคอมเมนท์ให้น้อยลง เพราะรู้สึกกดดันมาก ถือว่าเป็นบทเรียน จะได้ระวังเวลาที่จะทำอะไรออกไป ... "กดดันมาก แต่เอาจริงๆ เป็นคนระวังอยู่แล้ว จะพูดจะทำอะไรเพราะว่าเราอยู่มานานเราคิดว่าทุกครั้งที่จะพูดเราต้องระวังอยู่แล้ว คงไม่พูดเพราะความคึกคะนองหรือพูดเพราะอารมณ์หรือพูดเพราะอะไรแบบนี้ แต่บางครั้งที่เราจะพูดอะไรจะทำอะไรทุกอย่าง มันก็เป็นบทเรียนของเราเหมือนกัน เราจะได้ระวังในการที่เราจะทำอะไรต่างๆ"
"จะพูดค่ะคำเดียวเลย ค่ะ ค่ะ เชิญค่ะ แบบนี้เลย (หัวเราะ) ไม่รู้ พูดไม่ออก ถ้าจะคอมเมนท์คนต่อไป กดดันมาก แต่ว่าคือในความรู้สึก เบนซ์เป็นคนใจดีมากเลยนะ แต่ว่าถ้าในการตัดสินถ้าดีเราก็บอกว่าดี ถ้าไม่ดีเราก็บอกว่ามันไม่ดี แต่ว่ามันไม่รู้จริงๆ คือตอนนั้นทุกคนนั่งกันอยู่ แม้กระทั่งพิธีกร กรรมการไม่มีใครรู้เลย ถ้ามีใครรู้ก็ต้องมีสักคนหนึ่งที่ทักนะ ทักว่า เฮ้ย! อะไรแบบนี้ ถ้ารู้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนจริงๆ เพราะเราก็ไม่อยากจะโทษทีมงาน เพราะเราถามเขาหลายครั้ง เขาก็บอกว่าทางบ้านยืนยันว่าน้องปกติ เราก็อ้าวที่บ้านบอกปกติ ทีมงานก็คงมั่นใจว่าปกติ"
อยากจะขอโทษครอบครัวของ "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" หากเจ้าตัวพูดอะไรรุนแรงออกไป เพราะไม่รู้และไม่ได้ตั้งใจจริงๆ บอกต่อไปจะระวังให้มากกว่าเดิม ... "จริงๆ อย่างแรกเลยนะที่อยากจะบอก ถ้าวันนั้นคุณพ่อคุณแม่หรือตัวน้องเอง รู้สึกว่าเราไปพูดกระทบกระแทก หรือว่าเราไปทำอะไรที่ไปกระทบกระเทือนจิตใจ ก็ต้องขอโทษจริงๆ ขอโทษทั้งคุณพ่อคุณแม่จริงๆ ค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเบนซ์ไม่รู้เลยจริงๆ"
"และสำหรับคนที่อาจจะรอเบนซ์ออกมาขอโทษอยู่ ก็จริงๆ อยากจะออกมาขอโทษนานแล้ว คือตอนนั้นที่เบนซ์รู้สึกคือถ้าเราตั้งใจจะว่าเขา จะรู้สึกมากๆ เลย แต่อันนี้เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เพราะว่าเราไม่รู้ ตอนนี้ก็เลยรู้สึกคือยังไงล่ะ เบนซ์อยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง แต่เบนซ์ก็เข้าใจว่ามันก็อาจจะแบบว่ามันก็แก้ตัว แต่ว่าถ้าคนรู้จักเบนซ์แล้วอยู่กับเบนซ์มาน่าจะรู้จักเบนซ์มากพอสมควรที่เบนซ์จะไม่ไปว่าใคร เพราะว่าเป็นคนไม่ทะเลาะกับคนอื่นอยู่แล้ว"
"เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคุณแม่หรือหลายๆ คนที่รู้สึกหรืออะไรแบบนี้ก็ต้องกราบขอโทษตรงนี้ด้วยนะคะ แล้วเวลาพูดอะไรจะทำอะไรจะพยายามถามทีมงานบ่อย ๆ นะคะว่าโอเคไหม ถ้าไม่มั่นใจก็จะพยายามเบาๆ หน่อย แต่ถ้าสมมติว่ารายการมันออกไปแล้ว เบนซ์ดูเป็นนางเอกมากก็ต้องเข้าใจเบนซ์ด้วยนะ เพราะว่าบางทีเบนซ์ต้องระวังเพิ่มอีก เพราะปกติก็ระวังอยู่แล้ว ก็จะพยายามกว่าเดิม"
ลั่นขอทำหน้าที่ต่อไป แต่ให้ขอโทษอีกฝ่ายคงจะไม่ เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ... "ก็คิดว่าแบบนั้นค่ะ คิดว่าจะทำต่อ เรื่องลาออก คิดไปหลายรอบเลย ก็คิดอยู่ แต่คิดว่าคงทำค่ะจะต้องรับผิดชอบเพราะว่าโตๆ กันแล้วนะ เบนซ์คิดว่าเบนซ์ต้องรับผิดชอบหน้าที่ให้ถึงที่สุดก่อนค่ะ ส่วนเรื่องว่าจะติดต่อไปขอโทษสิทธัตถะไหม เบนซ์ว่าไม่ค่ะ เพราะเบนซ์คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ "
รับได้ยินข่าวรายการอาจจะถูกย้ายไปอยู่หลังเที่ยงคืนแต่เชื่อว่าไม่น่าจะรุนแรงขนาดนั้น ก่อนบอกคงต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ ส่วนกรณีที่บิ๊กบอสเวิร์คพอยท์ฯ ปัญญา นิรันดร์กุล ออกมาให้กำลังใจพนักงานโดยบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนกับ "หมาเยี่ยวรดภูเขาทอง" ก็ยังไม่วายมีคนติงว่าไม่เหมาะสมเพราะภูเขาทองเป็นบรรจุพระบรมสาริริกธาตุ นั้น เรื่องนี้สาวเบนซ์ตอบสั้นๆ ว่า... "คำถามยากขอไม่ตอบค่ะ"
เช่นเดียวกับการทำหน้าที่ของอีกสองกรรมการ "โจ จิรายุ วรรธนะสิน" กับ "ภิญโญ รู้ธรรม" ที่ว่ากันว่าเป็นไปตามสคริปต์ของทางรายการนั้น เรื่องนี้สาวเบนซ์เผยว่า ... "อันนี้ก็ต้องไปถามพี่โจเองแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าตรงนั้นเราก็ทำไปตามหน้าที่ค่ะ"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000071073
"เบนซ์ พรชิตา" ยันไม่รู้จริงๆ "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" ไม่ปกติ แค่รู้สึกแปลกนิดหน่อย เผยถามทีมงานก่อนแล้
กลายเป็นข่าวฉาวขึ้นมาจนได้สำหรับ บริษัทเวิร์คพอยท์ฯ กรณีนำเทปของหนึ่งในผู้เข้าประกวดเรียลิตี้โชว์ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ 2013" ที่ชื่อ "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" มาออกอากาศก่อนถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสมไม่เหมาะสมเนื่องจากเจ้าตัวนั้นดูเหมือนจะมีความไม่ปกติอยู่ ทำเอาเวิร์คพอยท์ต้องออกจดหมายยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นคนปกติด้วยการกล่าวอ้างยืนยันจากผู้เป็นมารดา
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกเมื่อทางมารดาของ "สิทธัตถะ" ได้ออกมายอมรับว่าลูกชายตนมีความผิดปกติแต่ถูกทีมงานเตี๊ยมไว้ ซึ่งล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เจอกับหนึ่งในคณะกรรมการของรายการ "เบนซ์ พรชิตา" เมื่อถามเจ้าตัวว่ารู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวที่กลายเป็นข่าวออกมา ทางด้านของสาวเบนซ์เผยว่า ...
"ก็เป็นอย่างที่เห็นแหละค่ะ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงก็อธิบายไม่ถูกเลย เพราะว่ากับซีซั่นที่แล้วเราไม่เสียใจเพราะว่าอันนั้นโกรธจริงๆ แต่ซีซั่นนี้ไม่รู้จริงๆ คือเราไม่รู้จริงๆ เพราะว่าเราถามทีมงานหลายครั้งแล้ว ทีมงานก็ยืนยันกับเราว่าทางบ้านยืนยันว่าก็ปกติดี เพราะฉะนั้นแล้วเราก็คิดว่าเขาก็คงปกติจริงๆค่ะ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นคนปกติ ก็คงจะแบบกวนๆน่าดูทีเดียว แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ถ้าเขาไม่ปกติแบบนี้เราก็รู้สึกแย่มาก ก็เครียดเหมือนกันนะถ้าเอาจริงๆ"
ยันเรื่องจัดฉากหรือไม่จัดฉากต้องไปถามทางเวิร์คพอยท์ ... "คืออันนี้ไม่รู้เลยจริงๆ ต้องคุยกับทางเวิร์คพอยท์เลยเรื่องจัดฉากอันนี้เราไม่รู้เรื่องเลย คราวที่แล้วเราก็ไม่รู้เรื่อง คืออย่างที่บอกว่าเราถามแล้วว่าโอเคใช่ไหม แต่เราก็ เอ๊ะ ! อยู่เหมือนกัน เพราะว่าทีมงาน อย่างที่พี่โญ (ภิญโญ รู้ธรรม) เขาให้สัมภาษณ์ไป ทีมงานเขาบอกว่าพี่คนนี้เค้าดูแปลกๆ หน่อยนะ ไม่ค่อยมีหางเสียงจะแปลกๆ นิดหนึ่ง เราก็บอกโอเคๆ เข้าใจ แต่เราไม่รู้ว่ามันอารมณ์ไหนไง แต่พออัดเสร็จแล้ว ก็ถามเหมือนกัน เขาโอเคใช่ไหม เขาก็บอกโอเคที่บ้านเขาบอกโอเค เราก็โอเค ไม่ได้คิดอะไร"
"ก็คือถ้าสมมติว่าเขาปกตินะ เราก็ยอมรับได้ เพราะว่าในการตัดสินของกรรมมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะว่ามันต้องมีคนที่พอใจและไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ว่าในมุมของเราเราก็มองแต่ว่าเขาคือคนปกติคนหนึ่งตามที่ทีมงานบอก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำออกไปก็คือโชว์มันแย่จังเลย นี่ก็คือการพูดตามความรู้สึกจริงๆ มันไม่ใช่โชว์นี้โชว์เดียวที่เบนซ์บอกว่ามันแย่หรือน่าเบื่อ มันก็มีโชว์อื่นๆ เพียงแต่ว่ามันก็ไม่มีประเด็นอื่นๆ หรือมีเรื่องอะไรแบบนี้ออกมา"
"จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นหรือเปล่า ไม่รู้เลยค่ะ อันนี้ตอบยาก เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ก็ต้องไปถามกระบวนการของทางเวิร์คพอยท์ แต่ว่า ณ ที่ของเราก็คือทำตามหน้าที่แค่นั้นเอง ว่าเรามีหน้าที่ตัดสินว่าคนนี้ร้องดีไม่ดีต้องยังไง เพราะว่าตามรายการแล้วจริงๆ ก็คือว่าเขาจะต้องมีทั้งโชว์ดีที่สุดและแย่ที่สุด และตลกและอะไรแบบนี้รวม ๆ กันให้คนได้สนุกไปกับเรา มันเป็นความสนุกของรายการมากกว่า ก็ได้คุยกับพี่ตา (ปัญญา นิรัดร์กุล) ในมุมของเรา เขาก็มาให้กำลังใจมากกว่า แต่ว่าอื่นๆ ก็ไม่รู้ค่ะ เพราะว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวถึงคนอื่นค่ะ"
"เสียใจมากๆ แต่เรื่องที่เราคอมเมนท์ค่อนข้างจะแรงก็เข้าใจ นี่พูดตรงๆ เลย ถ้าเป็นเราเราก็ด่าเหมือนกัน เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเป็นเราแล้วเรารู้เลยนะ เพราะว่าเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องมันแย่มากเลยนะ แต่ในมุมเราคือเราไม่รู้จริงๆ คำถามถามว่า เราอยู่รายการนี้มา 2-3 ปี ถ้าเราเห็นว่าเขาไม่ปกติ อีนี่ใจดีจะตาย คนด่าแบบนางเอกมาก ร้องไห้ตลอดๆ แล้วจะไปด่าเขาเพื่อ? มันไม่มีความจำเป็นเลย"
เจ้าตัวบอกเข้าใจหลังรายการแพร่ภาพออกไปแล้วนั้นมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ
"ก็แล้วแต่เขาค่ะ เพราะว่าเราไปห้ามความคิดใครไม่ได้จริงๆ อย่างตัวเราเองเราเราทำนหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามหน้าที่ของเรา เรื่องถอนตัวจากรายการ อันนี้จริงๆ ก็คงต้องคิดดูก่อน มันไม่ได้ต้องขนาดนั้น แต่ว่าเราทำงานมานานก็เสียใจเหมือนกัน เพราะบางทีเราก็รู้สึกว่าแบบเราอยู่มานานถ้ามีคนเข้าใจมันก็ดี แต่ถ้าคนมองไม่ดีก็น่าจะเสียใจจริงๆ นะ เพราะว่ารู้สึกว่าเวลาที่เราทำอะไรแบบตั้งใจ แล้วมันออกมาไม่ได้อย่างที่คิด
"ไม่คิดเลยค่ะว่าผลจะออกมาแบบนี้ เชื่อไหมยังมาเล่าให้ทุกคนฟังเลยว่า เดี๋ยวรอดูน้องคนนี้นะมันกวนจริงๆ คือไม่รู้จริงๆ ยังมาบอกคอยดูคนนี้นะกวนจริงๆ ออกมานะจะต้องเรียกให้คนอื่น คิดดูสิไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) ยังเรียกให้เพื่อนมาดูเลย"
บอกเทปต่อไปจะคอมเมนท์ให้น้อยลง เพราะรู้สึกกดดันมาก ถือว่าเป็นบทเรียน จะได้ระวังเวลาที่จะทำอะไรออกไป ... "กดดันมาก แต่เอาจริงๆ เป็นคนระวังอยู่แล้ว จะพูดจะทำอะไรเพราะว่าเราอยู่มานานเราคิดว่าทุกครั้งที่จะพูดเราต้องระวังอยู่แล้ว คงไม่พูดเพราะความคึกคะนองหรือพูดเพราะอารมณ์หรือพูดเพราะอะไรแบบนี้ แต่บางครั้งที่เราจะพูดอะไรจะทำอะไรทุกอย่าง มันก็เป็นบทเรียนของเราเหมือนกัน เราจะได้ระวังในการที่เราจะทำอะไรต่างๆ"
"จะพูดค่ะคำเดียวเลย ค่ะ ค่ะ เชิญค่ะ แบบนี้เลย (หัวเราะ) ไม่รู้ พูดไม่ออก ถ้าจะคอมเมนท์คนต่อไป กดดันมาก แต่ว่าคือในความรู้สึก เบนซ์เป็นคนใจดีมากเลยนะ แต่ว่าถ้าในการตัดสินถ้าดีเราก็บอกว่าดี ถ้าไม่ดีเราก็บอกว่ามันไม่ดี แต่ว่ามันไม่รู้จริงๆ คือตอนนั้นทุกคนนั่งกันอยู่ แม้กระทั่งพิธีกร กรรมการไม่มีใครรู้เลย ถ้ามีใครรู้ก็ต้องมีสักคนหนึ่งที่ทักนะ ทักว่า เฮ้ย! อะไรแบบนี้ ถ้ารู้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนจริงๆ เพราะเราก็ไม่อยากจะโทษทีมงาน เพราะเราถามเขาหลายครั้ง เขาก็บอกว่าทางบ้านยืนยันว่าน้องปกติ เราก็อ้าวที่บ้านบอกปกติ ทีมงานก็คงมั่นใจว่าปกติ"
อยากจะขอโทษครอบครัวของ "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" หากเจ้าตัวพูดอะไรรุนแรงออกไป เพราะไม่รู้และไม่ได้ตั้งใจจริงๆ บอกต่อไปจะระวังให้มากกว่าเดิม ... "จริงๆ อย่างแรกเลยนะที่อยากจะบอก ถ้าวันนั้นคุณพ่อคุณแม่หรือตัวน้องเอง รู้สึกว่าเราไปพูดกระทบกระแทก หรือว่าเราไปทำอะไรที่ไปกระทบกระเทือนจิตใจ ก็ต้องขอโทษจริงๆ ขอโทษทั้งคุณพ่อคุณแม่จริงๆ ค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเบนซ์ไม่รู้เลยจริงๆ"
"และสำหรับคนที่อาจจะรอเบนซ์ออกมาขอโทษอยู่ ก็จริงๆ อยากจะออกมาขอโทษนานแล้ว คือตอนนั้นที่เบนซ์รู้สึกคือถ้าเราตั้งใจจะว่าเขา จะรู้สึกมากๆ เลย แต่อันนี้เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เพราะว่าเราไม่รู้ ตอนนี้ก็เลยรู้สึกคือยังไงล่ะ เบนซ์อยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง แต่เบนซ์ก็เข้าใจว่ามันก็อาจจะแบบว่ามันก็แก้ตัว แต่ว่าถ้าคนรู้จักเบนซ์แล้วอยู่กับเบนซ์มาน่าจะรู้จักเบนซ์มากพอสมควรที่เบนซ์จะไม่ไปว่าใคร เพราะว่าเป็นคนไม่ทะเลาะกับคนอื่นอยู่แล้ว"
"เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคุณแม่หรือหลายๆ คนที่รู้สึกหรืออะไรแบบนี้ก็ต้องกราบขอโทษตรงนี้ด้วยนะคะ แล้วเวลาพูดอะไรจะทำอะไรจะพยายามถามทีมงานบ่อย ๆ นะคะว่าโอเคไหม ถ้าไม่มั่นใจก็จะพยายามเบาๆ หน่อย แต่ถ้าสมมติว่ารายการมันออกไปแล้ว เบนซ์ดูเป็นนางเอกมากก็ต้องเข้าใจเบนซ์ด้วยนะ เพราะว่าบางทีเบนซ์ต้องระวังเพิ่มอีก เพราะปกติก็ระวังอยู่แล้ว ก็จะพยายามกว่าเดิม"
ลั่นขอทำหน้าที่ต่อไป แต่ให้ขอโทษอีกฝ่ายคงจะไม่ เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ... "ก็คิดว่าแบบนั้นค่ะ คิดว่าจะทำต่อ เรื่องลาออก คิดไปหลายรอบเลย ก็คิดอยู่ แต่คิดว่าคงทำค่ะจะต้องรับผิดชอบเพราะว่าโตๆ กันแล้วนะ เบนซ์คิดว่าเบนซ์ต้องรับผิดชอบหน้าที่ให้ถึงที่สุดก่อนค่ะ ส่วนเรื่องว่าจะติดต่อไปขอโทษสิทธัตถะไหม เบนซ์ว่าไม่ค่ะ เพราะเบนซ์คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ "
รับได้ยินข่าวรายการอาจจะถูกย้ายไปอยู่หลังเที่ยงคืนแต่เชื่อว่าไม่น่าจะรุนแรงขนาดนั้น ก่อนบอกคงต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ ส่วนกรณีที่บิ๊กบอสเวิร์คพอยท์ฯ ปัญญา นิรันดร์กุล ออกมาให้กำลังใจพนักงานโดยบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนกับ "หมาเยี่ยวรดภูเขาทอง" ก็ยังไม่วายมีคนติงว่าไม่เหมาะสมเพราะภูเขาทองเป็นบรรจุพระบรมสาริริกธาตุ นั้น เรื่องนี้สาวเบนซ์ตอบสั้นๆ ว่า... "คำถามยากขอไม่ตอบค่ะ"
เช่นเดียวกับการทำหน้าที่ของอีกสองกรรมการ "โจ จิรายุ วรรธนะสิน" กับ "ภิญโญ รู้ธรรม" ที่ว่ากันว่าเป็นไปตามสคริปต์ของทางรายการนั้น เรื่องนี้สาวเบนซ์เผยว่า ... "อันนี้ก็ต้องไปถามพี่โจเองแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าตรงนั้นเราก็ทำไปตามหน้าที่ค่ะ"
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000071073