เรื่องแย่ๆของโรงพยาบาลสัตว์พลับพลาไชย

ดิฉันขอร้องเรียน คุณหมอ พันธ์วุฒิ โรงพยาบาลสัตว์พลับพลาไชย
         ขอท้าวความอาการของแมวก่อนนะค่ะ แรกเริ่มแมวโดนกัด และไม่สามารถเดินได้เป็นปกติ จึงได้พาแมวไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์พลับพลาไชย จนตอนนี้แมวเดินได้เป็นปกติแล้ว แต่ยังคงติดเชื้อเป็นฝีที่มีหนอง จึงทำการรักษาต่อด้วยการล้างแผลทุกวัน
การรักษาที่ผ่านขอขอบคุณคุณหมอหลายๆท่านที่มีความอนุเคราะห์แมวจรจัดตัวนี้เป็นอย่างมาก คิดค่ารักษาราคาถูกค่าล้างแผลราคา 160 บาท ทั้งล้างด้วยน้ำเกลือ ตัดแผล ทำแผลอย่างดี มีการเขียนรายละเอียดให้ไปทำการตรวจที่รพ.จุฬาเนื่องจากไม่มีเครื่องมือครบครัน คุณหมอเหล่านั้นได้ทำเรื่องด้วยดีมาตลอด
        จนกระทั่งวันนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลาประมาณ 18.00 น. แม่ของดิฉันได้พาแมวจรจัดไปรักษาตามปกติเหมือนทุกวัน จนเจอกับ คุณหมอชื่อ พันธ์วุฒิ เป็นคุณหมอที่มีผิวคล้ำ ได้ทำการรักษาแมวตัวนี้ เพียงแค่เอามือแตะบริเวณแผล จะไม่ทำการรักษาอะไรทั้งนั้น จนแม่ของดิฉันแย้งว่า แผลที่บนตัวแมวยังมีกลิ่น ผู้ช่วยหมอก้มลงไปดมแผล โดยที่คุณหมอไม่ได้ใส่ใจเลย จนผู้ช่วยเอายาเหลืองมาแต้มให้3จุดเล็กๆ เมื่อไปถึงบริเวณเคาท์เตอร์คิดเงิน คุณหมอคนนี้ไปบอกแคชเชียร์ว่าคิด 150 บาท แต่แม่ของดิฉันแย้งไปว่าไม่ได้ทำการรักษาใดๆเลย แต่คุณหมอยังยืนยันที่จะคิดค่ารักษา แม่ของดิฉันได้แย้งอีกว่า ไปรพ.จุฬา ล้างแผล เอ็กซเรย์ยังคิดเพียง 100 บาท คุณหมอพันธ์วุฒิตอบกลับมาว่า โรงพยาบาลที่นี้เป็นของเอกชนไม่ใช่รัฐบาล ก็จริงของคุณหมอค่ะ แต่จรรยาบรรณความเป็นหมอไม่ได้แบ่งแยกเหมือนกันนิค่ะ  เงิน 150 บาท ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ปัญหาคือว่า การเป็นหมอรักษาสัตว์ ควรมีจิตใจที่รักสัตว์ เอื้ออาทรต่อสัตว์ บ้านของดิฉันไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ยังคิดจะช่วยเหลือ แต่คุณหมอพันธ์วุฒิทำไมถึงทำเช่นนี้ อัปกริยาไม่ได้ดีและใส่ใจในการรักษาเลย
       โรงพยาบาลสัตว์พลับพลาไชย มีชื่อเสียงที่ดีเกี่ยวกับการรักษาสัตว์มาโดยตลอด คลินิกแห่งนี้ให้ความอนุเคราะห์สัตว์มากมายแต่กลับต้องเปลี่ยนไปกับคำที่ว่า “โรงพยาบาลที่นี้เป็นของเอกชนไม่ใช่รัฐบาล”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่