สวัสดีค่ะ
สืบเนื่องมาจากการได้อ่านกระทู้ เตือนภัยเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศของเด็กผู้หญิง
http://ppantip.com/topic/30579200
ก็เลยนึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมา เรื่องที่จะเล่านี้อาจจะไม่เกี่ยวกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ก็เป็นอันตรายอีกรูปแบบหนึ่งที่อยากจะเตือนค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3 ปี มาแล้ว ตอนนั้นเราเช่าหอพักอยู่ค่ะ(ปัจจุบันนี้ไม่ได้อยู่แล้วค่ะ)
หอพักที่เราอยู่นั้น มี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 มีเหล็กดัดที่ระเบียงทุกห้อง ชั้น2และ3 ไม่มีเหล็กดัด เป็นระเบียงโล่งๆ
ลักษณะของห้องคือ ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้องตรงบริเวณระเบียงห้อง
คือการที่จะเข้าห้องน้ำในแต่ละครั้งนั้น ต้องเปิดประตูหลังห้องแล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำ(คือประตูหลังก็ต้องเปิดทิ้งไว้ค่ะ)
เรื่องเกิดขึ้นในเช้ามืดของวันหนึ่ง เราตื่นนอนประมาณตีห้าครึ่ง ฟ้ายังมืดอยู่เลยค่ะ เราก็เตรียมตัวอาบน้ำเพื่อจะไปทำงาน
ตอนนั้นก็เปิดประตูหลังห้องเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำค่ะ ระหว่างนั้นก็ชะโงกหน้าไปที่ระเบียงมองลงไปด้านล่างก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่
(ด้านล่างเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซด์) เราก็คิดว่าเป็นคนที่หอพักนี้ เลยไม่ได้สนใจอะไร
เราอาบน้ำเสร็จก็เข้าห้องมาแต่งตัวตามปกติ ระหว่างนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตัวเองพยายามหากระเป๋าเครื่องสำอางค์ซึ่งเป็นใบเดียวกันกับกระเป๋าเงิน ก็หาไม่เจอ เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วค่ะ ทีนี้ก็มองหาโทรศัพท์มือถือปรากฏว่าหาไม่เจออีก ตอนนั้น งงมากเลยค่ะ เลยหันไปมองที่ประตูห้องด้านหน้า ปรากฏว่าห้องไม่ได้ล็อค รู้เลยค่ะว่าต้องมีคนเข้ามาขโมยของแน่ๆแต่เราก็พยายามคิดนะว่าเราล็อคห้องทุกครั้งนะ จึงเดินไปที่ระเบียง
มองไปด้านล่างมีรองเท้าจอดอยู่หนึ่งคู่ และเห็นรอยเท้าคนที่ระเบียงห้องเราค่ะ ตอนนั้นก็เข้าใจเลยว่าขโมยคงปีนขึ้นระเบียงขึ้นมาแล้วขโมยของหนีออกไปทางประตูด้านหน้า เนียนๆเลยค่ะ
ตอนนั้นรู้สึกตกใจนะคะแต่ก็พยายามตั้งสติ จากนั้นเราก็เลยไปเคาะประตูเรียกคนห้องตรงกันข้ามขอยืมโทรศัพท์เค้าแล้วลองโทรเข้าเบอร์ตัวเอง
ปรากฏว่า โทรติดค่าาาา แล้วอีโจรบ้านั่นก็รับโทรศัพท์เราด้วยค่าาาาาาา
น้ำเสียงมันยียวนมาก การพูดจาฟังแล้ว ไม่เมาเหล้า ก็เมายา เราก็แสดงตัวว่าเราเป็นเจ้าของโทรศัพท์ค่ะ ซึ่งตัวมันก็ยอมรับว่ามันเป็นโจรที่ขโมยของเราไปเอง ตอนแรกเราโมโหมากเลยค่ะ แต่ก็พยายามตั้งสติและคุยกับมันดีๆนะ ช่วงระหว่างนั้นก็โทรหาแฟนเรา แล้วก็แจ้งตำรวจเรียบร้อยค่ะคุณตำรวจก็เข้ามาดูสถานที่ค่ะ ตอนนั้นเราก็ยังโทรหาไอ้โจรคนนั้นอยู่เรื่อยๆนะคะ (คือเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ของแฟนโทรหามัน)
มันก็คงจะเมายาบวกกับอาการหื่นที่มีอยู่ ก็คุยกับเราไปเรื่อยเลยค่ะ คือเราชวนมันคุยดีๆ พูดจาดีๆอ้อนๆ พยายามตะล่อมถามว่ามันอยู่ที่ไหน
เข้าห้องเรามาได้ยังไง มันก็ไม่บอกนะคะ คุยกับมันนานมาก ๆ จนตำรวจกลับไป สน. แฟนเราก็กลับไปทำงาน
ทีนี้ก็เหลือเราคนเดียวแล้วล่ะ เราก็อาศัยโทรศัพท์ของแฟนนี่แหล่ะ โทรคุยกับไอ้โจรนี่ตลอดตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเช้าจนถึง 9 โมงเช้าเลยค่ะ
คุยไปอ้อนไปค่ะ จนเราถามมันว่าพี่ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ อยากได้เงินหรือเปล่าเราจะให้ แต่ขอแลกกับของๆเราคืน
มันก็บอกออกมาว่า " งั้นขอมีอะไรกับเราได้ไหมล่ะ " !!!
บอกความต้องการมาแบบนี้ก็เข้าทางเราเลยค่ะ เราก็นัดเจอมันเลยนัดให้มันมาหาตอนแรกมันก็ยังไม่เชื่อใจเรานะมันกลัวเราจะเอาตำรวจมาจับมัน
เราก็อ้อนแล้วอ้อนอีก จนมันตายใจ พอนัดสถานที่เสร็จสรรพแล้วเราก็โทรบอกตำรวจคนที่รับแจ้งความเลยค่ะ ว่าเราอ่ะได้โทรนัดไอ้โจรคนนี้ไว้แล้ว
คุณตำรวจที่รับแจ้งก็ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบมาเลยค่ะ จำนวน 1 คน.... 1 คนเท่านั้นค่ะ พี่ตำรวจนอกเครื่องแบบคนนี้เค้าก็ใจดีมากค่ะ เค้าบอกว่ามันยังเช้าอยู่พี่ตามกำลังเสริมไม่ได้ เราก็ เอ่อ....เอาก็เอาวะ ไปกันสองคนนี่แหล่ะ ลุยเลยค่ะ
จุดที่เรานัดพบโจรนั่นคือ หน้าเซเว่น ซึ่งอยู่ไกลจากหอพักเราพอสมควร คุณตำรวจแนะนำให้นัดสถานที่ไกลๆนิดนึง ด้วยกลัวว่าหากโจรมันซุ่มดูอยู่แถวนั้นจะเสียแผนค่ะ ตอนนั้นก็ไปยืนรอมันที่หน้าเซเว่น ส่วนคุณตำรวจยืนซุ่มอยู่อีกฝั่งของถนน เรารอนานมากค่ะคิดว่ามันคงกลัวไม่มาแล้วมั้ง
เราก็เลยโทรหามันเลยค่ะบอกว่า "พี่คะ หนูมารอพี่นานแล้วนะคะ พี่จะมาไหม " ทำเสียงอ้อนมากกกก
มันก็บอก " เออๆๆ กำลังไป " เราได้ยินเสียงเหมือนลักษณะขับมอเตอไซด์อยู่ ลมโกรกเชียว.....
จากนั้นสักพัก เราเห็นผู้ชายคนนึงขับมอเตอไซด์ ฟีโน่ผ่านหน้าเราไป เรามองเห็นแว๊บเดียวก็คิดเลยว่าใช่ไอ้นี่แน่ๆ เพราะรูปร่างมันเหมือนกับไอ้คนที่เดินอยู่ลานจอดรถที่หอพักค่ะ มันแกล้งทำเป็นขับรถผ่านเราไปแต่สายตามันอ่ะ ชำเลืองมองมาทางเรา เราก็โทรหาคุณตำรวจที่ซุ่มอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนเลยค่ะ ว่าเราเห็นโจรแล้วล่ะ ขับรถทะเบียนนี้ๆๆนะ สักพักมันโทรหาเราค่ะบอกเห็นเราแล้วล่ะ แล้วมันก็สั่งให้เราเดินไปหามันค่ะ มันจอดรถรออยู่ตรงนี้ๆนะ เราก็เดินไปตามที่มันสั่ง คุณตำรวจก็เดินตามหลังเราไปห่างๆ บริเวณนั้นเป็นตลาดค่ะ ผู้คนเยอะมากกกกก
กลัวก็กลัว แต่ทำใจเย็นเพราะมีคนเยอะอยู่ หากเกิดอะไรขึ้นยังพอร้องให้คนช่วยได้บ้าง แถมมีคุณตำรวจคอยคุ้มกันอยู่อีกตั้ง 1 คนแน่ะ !!
เราก็เดินไปตามที่มันบอก เห็นมันนั่งค่อมมอเตอร์ไซด์รออยู่ ตอนนั้นเราก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักมัน เดินผ่านหน้ามันไปค่ะ ระหว่างนั้นเราหันหน้าไปพยักหน้าให้กับคุณตำรวจที่เดินตามหลังเรามา คุณตำรวจแกก็เดินเข้าไปหามันเนียนๆเลยค่ะ เอามือโอบไหล่แล้วก็ล็อคกุญแจมือเลยค่ะ
เรียบร้อยค่ะ จับได้อย่างง่ายๆเลย ซึ่งไอ้โจรนี่มันก็ไม่ทันตั้งตัว ขัดขืนไม่ได้เลย ชาวบ้านแถวนั้นยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นเหตุการณ์การจับคนร้ายที่เงียบมากๆ จากนั้นคุณตำรวจก็โทรเรียกกำลังเสริมให้มารับตัว เราก็โล่งอกเลยค่ะ
ระหว่างนั้นคุณตำรวจก็พาโจรไปเอาของกลางที่บ้านมัน ซึ่งเราก็ได้ของคืนทั้งหมด ทั้งกระเป๋าเงินและโทรศัพท์อีกทั้งยังค้นตัวมันเจอยาบ้าอีก ประมาณ 50 เม็ดได้มั้งคะ โดนไปอีกคดีนึง
เหตุการณ์นี้ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ เรายังคิดว่ายังมีความโชคดีอยู่นะ ถ้าหากตอนนั้นเราอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาเจอมันอยู่ในห้องพอดี เราอาจจะโดนฆ่าตายไปแล้วก็ได้ หอที่เราพักอยู่ตอนนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด มี รปภ.ก็จริง แต่ชอบหลับค่ะ
แล้วช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น คุณรปภ.ออกเวรพอดีเลย...เราซวยค่ะ
อยากฝากถึงผู้ประกอบการหอพักนะคะ ว่าช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้เช่าอาศัยให้มากถึงมากที่สุดด้วยค่ะ
ควรมีกล้องวงจรปิด ติดเหล็กดัดทุกห้อง มี รปภ.คอยดูแลความปลอดภัย และขอเป็น รปภ.ที่อย่ามาหลับตอนเฝ้ายามเลยนะคะ ไม่มีประโยชน์ค่ะ
ขอให้ช่วยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เช่าให้มากๆนะคะ หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นมีคนตายในหอพักมันไม่คุ้มกันนะคะ เราเป็นผู้เช่าคนอื่นๆเราก็ไม่กล้าอยู่หรอกค่ะ ยอมลงทุนเรื่องความปลอดภัยสักนิดนึงเถอะค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน จ.อยุธยาค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณตำรวจที่ช่วยคุ้มครองเราด้วยค่ะ
ฝากเตือนทุกคนด้วยนะคะ อันตรายมีมาหลายรูปแบบ ใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวังด้วยค่ะ
ประสบการณ์จับโจรปีนขึ้นห้องและฝากถึงผู้ประการหอพัก ช่วยดูแลด้านความปลอดภัยให้ผู้เช่าอาศัยด้วยค่ะ !!!
สืบเนื่องมาจากการได้อ่านกระทู้ เตือนภัยเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศของเด็กผู้หญิง http://ppantip.com/topic/30579200
ก็เลยนึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมา เรื่องที่จะเล่านี้อาจจะไม่เกี่ยวกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ก็เป็นอันตรายอีกรูปแบบหนึ่งที่อยากจะเตือนค่ะ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3 ปี มาแล้ว ตอนนั้นเราเช่าหอพักอยู่ค่ะ(ปัจจุบันนี้ไม่ได้อยู่แล้วค่ะ)
หอพักที่เราอยู่นั้น มี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 มีเหล็กดัดที่ระเบียงทุกห้อง ชั้น2และ3 ไม่มีเหล็กดัด เป็นระเบียงโล่งๆ
ลักษณะของห้องคือ ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้องตรงบริเวณระเบียงห้อง
คือการที่จะเข้าห้องน้ำในแต่ละครั้งนั้น ต้องเปิดประตูหลังห้องแล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำ(คือประตูหลังก็ต้องเปิดทิ้งไว้ค่ะ)
เรื่องเกิดขึ้นในเช้ามืดของวันหนึ่ง เราตื่นนอนประมาณตีห้าครึ่ง ฟ้ายังมืดอยู่เลยค่ะ เราก็เตรียมตัวอาบน้ำเพื่อจะไปทำงาน
ตอนนั้นก็เปิดประตูหลังห้องเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำค่ะ ระหว่างนั้นก็ชะโงกหน้าไปที่ระเบียงมองลงไปด้านล่างก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่
(ด้านล่างเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซด์) เราก็คิดว่าเป็นคนที่หอพักนี้ เลยไม่ได้สนใจอะไร
เราอาบน้ำเสร็จก็เข้าห้องมาแต่งตัวตามปกติ ระหว่างนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งตัวเองพยายามหากระเป๋าเครื่องสำอางค์ซึ่งเป็นใบเดียวกันกับกระเป๋าเงิน ก็หาไม่เจอ เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วค่ะ ทีนี้ก็มองหาโทรศัพท์มือถือปรากฏว่าหาไม่เจออีก ตอนนั้น งงมากเลยค่ะ เลยหันไปมองที่ประตูห้องด้านหน้า ปรากฏว่าห้องไม่ได้ล็อค รู้เลยค่ะว่าต้องมีคนเข้ามาขโมยของแน่ๆแต่เราก็พยายามคิดนะว่าเราล็อคห้องทุกครั้งนะ จึงเดินไปที่ระเบียง
มองไปด้านล่างมีรองเท้าจอดอยู่หนึ่งคู่ และเห็นรอยเท้าคนที่ระเบียงห้องเราค่ะ ตอนนั้นก็เข้าใจเลยว่าขโมยคงปีนขึ้นระเบียงขึ้นมาแล้วขโมยของหนีออกไปทางประตูด้านหน้า เนียนๆเลยค่ะ
ตอนนั้นรู้สึกตกใจนะคะแต่ก็พยายามตั้งสติ จากนั้นเราก็เลยไปเคาะประตูเรียกคนห้องตรงกันข้ามขอยืมโทรศัพท์เค้าแล้วลองโทรเข้าเบอร์ตัวเอง
ปรากฏว่า โทรติดค่าาาา แล้วอีโจรบ้านั่นก็รับโทรศัพท์เราด้วยค่าาาาาาา
น้ำเสียงมันยียวนมาก การพูดจาฟังแล้ว ไม่เมาเหล้า ก็เมายา เราก็แสดงตัวว่าเราเป็นเจ้าของโทรศัพท์ค่ะ ซึ่งตัวมันก็ยอมรับว่ามันเป็นโจรที่ขโมยของเราไปเอง ตอนแรกเราโมโหมากเลยค่ะ แต่ก็พยายามตั้งสติและคุยกับมันดีๆนะ ช่วงระหว่างนั้นก็โทรหาแฟนเรา แล้วก็แจ้งตำรวจเรียบร้อยค่ะคุณตำรวจก็เข้ามาดูสถานที่ค่ะ ตอนนั้นเราก็ยังโทรหาไอ้โจรคนนั้นอยู่เรื่อยๆนะคะ (คือเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ของแฟนโทรหามัน)
มันก็คงจะเมายาบวกกับอาการหื่นที่มีอยู่ ก็คุยกับเราไปเรื่อยเลยค่ะ คือเราชวนมันคุยดีๆ พูดจาดีๆอ้อนๆ พยายามตะล่อมถามว่ามันอยู่ที่ไหน
เข้าห้องเรามาได้ยังไง มันก็ไม่บอกนะคะ คุยกับมันนานมาก ๆ จนตำรวจกลับไป สน. แฟนเราก็กลับไปทำงาน
ทีนี้ก็เหลือเราคนเดียวแล้วล่ะ เราก็อาศัยโทรศัพท์ของแฟนนี่แหล่ะ โทรคุยกับไอ้โจรนี่ตลอดตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเช้าจนถึง 9 โมงเช้าเลยค่ะ
คุยไปอ้อนไปค่ะ จนเราถามมันว่าพี่ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ อยากได้เงินหรือเปล่าเราจะให้ แต่ขอแลกกับของๆเราคืน
มันก็บอกออกมาว่า " งั้นขอมีอะไรกับเราได้ไหมล่ะ " !!!
บอกความต้องการมาแบบนี้ก็เข้าทางเราเลยค่ะ เราก็นัดเจอมันเลยนัดให้มันมาหาตอนแรกมันก็ยังไม่เชื่อใจเรานะมันกลัวเราจะเอาตำรวจมาจับมัน
เราก็อ้อนแล้วอ้อนอีก จนมันตายใจ พอนัดสถานที่เสร็จสรรพแล้วเราก็โทรบอกตำรวจคนที่รับแจ้งความเลยค่ะ ว่าเราอ่ะได้โทรนัดไอ้โจรคนนี้ไว้แล้ว
คุณตำรวจที่รับแจ้งก็ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบมาเลยค่ะ จำนวน 1 คน.... 1 คนเท่านั้นค่ะ พี่ตำรวจนอกเครื่องแบบคนนี้เค้าก็ใจดีมากค่ะ เค้าบอกว่ามันยังเช้าอยู่พี่ตามกำลังเสริมไม่ได้ เราก็ เอ่อ....เอาก็เอาวะ ไปกันสองคนนี่แหล่ะ ลุยเลยค่ะ
จุดที่เรานัดพบโจรนั่นคือ หน้าเซเว่น ซึ่งอยู่ไกลจากหอพักเราพอสมควร คุณตำรวจแนะนำให้นัดสถานที่ไกลๆนิดนึง ด้วยกลัวว่าหากโจรมันซุ่มดูอยู่แถวนั้นจะเสียแผนค่ะ ตอนนั้นก็ไปยืนรอมันที่หน้าเซเว่น ส่วนคุณตำรวจยืนซุ่มอยู่อีกฝั่งของถนน เรารอนานมากค่ะคิดว่ามันคงกลัวไม่มาแล้วมั้ง
เราก็เลยโทรหามันเลยค่ะบอกว่า "พี่คะ หนูมารอพี่นานแล้วนะคะ พี่จะมาไหม " ทำเสียงอ้อนมากกกก
มันก็บอก " เออๆๆ กำลังไป " เราได้ยินเสียงเหมือนลักษณะขับมอเตอไซด์อยู่ ลมโกรกเชียว.....
จากนั้นสักพัก เราเห็นผู้ชายคนนึงขับมอเตอไซด์ ฟีโน่ผ่านหน้าเราไป เรามองเห็นแว๊บเดียวก็คิดเลยว่าใช่ไอ้นี่แน่ๆ เพราะรูปร่างมันเหมือนกับไอ้คนที่เดินอยู่ลานจอดรถที่หอพักค่ะ มันแกล้งทำเป็นขับรถผ่านเราไปแต่สายตามันอ่ะ ชำเลืองมองมาทางเรา เราก็โทรหาคุณตำรวจที่ซุ่มอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนเลยค่ะ ว่าเราเห็นโจรแล้วล่ะ ขับรถทะเบียนนี้ๆๆนะ สักพักมันโทรหาเราค่ะบอกเห็นเราแล้วล่ะ แล้วมันก็สั่งให้เราเดินไปหามันค่ะ มันจอดรถรออยู่ตรงนี้ๆนะ เราก็เดินไปตามที่มันสั่ง คุณตำรวจก็เดินตามหลังเราไปห่างๆ บริเวณนั้นเป็นตลาดค่ะ ผู้คนเยอะมากกกกก
กลัวก็กลัว แต่ทำใจเย็นเพราะมีคนเยอะอยู่ หากเกิดอะไรขึ้นยังพอร้องให้คนช่วยได้บ้าง แถมมีคุณตำรวจคอยคุ้มกันอยู่อีกตั้ง 1 คนแน่ะ !!
เราก็เดินไปตามที่มันบอก เห็นมันนั่งค่อมมอเตอร์ไซด์รออยู่ ตอนนั้นเราก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักมัน เดินผ่านหน้ามันไปค่ะ ระหว่างนั้นเราหันหน้าไปพยักหน้าให้กับคุณตำรวจที่เดินตามหลังเรามา คุณตำรวจแกก็เดินเข้าไปหามันเนียนๆเลยค่ะ เอามือโอบไหล่แล้วก็ล็อคกุญแจมือเลยค่ะ
เรียบร้อยค่ะ จับได้อย่างง่ายๆเลย ซึ่งไอ้โจรนี่มันก็ไม่ทันตั้งตัว ขัดขืนไม่ได้เลย ชาวบ้านแถวนั้นยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นเหตุการณ์การจับคนร้ายที่เงียบมากๆ จากนั้นคุณตำรวจก็โทรเรียกกำลังเสริมให้มารับตัว เราก็โล่งอกเลยค่ะ
ระหว่างนั้นคุณตำรวจก็พาโจรไปเอาของกลางที่บ้านมัน ซึ่งเราก็ได้ของคืนทั้งหมด ทั้งกระเป๋าเงินและโทรศัพท์อีกทั้งยังค้นตัวมันเจอยาบ้าอีก ประมาณ 50 เม็ดได้มั้งคะ โดนไปอีกคดีนึง
เหตุการณ์นี้ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ เรายังคิดว่ายังมีความโชคดีอยู่นะ ถ้าหากตอนนั้นเราอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาเจอมันอยู่ในห้องพอดี เราอาจจะโดนฆ่าตายไปแล้วก็ได้ หอที่เราพักอยู่ตอนนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด มี รปภ.ก็จริง แต่ชอบหลับค่ะ
แล้วช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น คุณรปภ.ออกเวรพอดีเลย...เราซวยค่ะ
อยากฝากถึงผู้ประกอบการหอพักนะคะ ว่าช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยของผู้เช่าอาศัยให้มากถึงมากที่สุดด้วยค่ะ
ควรมีกล้องวงจรปิด ติดเหล็กดัดทุกห้อง มี รปภ.คอยดูแลความปลอดภัย และขอเป็น รปภ.ที่อย่ามาหลับตอนเฝ้ายามเลยนะคะ ไม่มีประโยชน์ค่ะ
ขอให้ช่วยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เช่าให้มากๆนะคะ หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นมีคนตายในหอพักมันไม่คุ้มกันนะคะ เราเป็นผู้เช่าคนอื่นๆเราก็ไม่กล้าอยู่หรอกค่ะ ยอมลงทุนเรื่องความปลอดภัยสักนิดนึงเถอะค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน จ.อยุธยาค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณตำรวจที่ช่วยคุ้มครองเราด้วยค่ะ
ฝากเตือนทุกคนด้วยนะคะ อันตรายมีมาหลายรูปแบบ ใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวังด้วยค่ะ