สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มันเป็นเพียงความเชื่อครับ การจะถือหรือไม่ถือหมอน หรือใครจะเป็นคนถือ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องอนาคตของชีวิตคู่เลย เหมือนกับการทำบุญในงานแต่งงาน ว่าเจ้าบ่าวจะถือทัพพีตักข้าวนำหน้าเจ้าสาว หรือเจ้าสาวจะถือข้างหน้า ก็ไม่ได้มีผลอะไรอีกเหมือนกัน
แท้จริงแล้วการถืออะไรก็แล้วแต่ในขบวนแห่งานบวชนั้น เป็นเพียงการ "ช่วยกันในงานบุญ" เพียงเท่านั้นเอง คือคนมาในงาน บ้างก็ช่วยถือสัปทน บ้างก็ช่วยถือเครื่องไทยธรรมถวายพระ บ้างก็ช่วยถือพานแว่นฟ้าที่วางจีวร
บอกตามตรง ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับประเพณีการให้ผู้ที่เป็นคนรักหรือผู้ที่คบหาอยู่กับพ่อนาคมาช่วยถือหมอน แล้วก็สื่อไปในเรืองนั้นเรื่องนี้โดยเฉพาะด้านชู้สาว เพราะพ่อนาคกำลังจะเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ไม่ควรมีอะไรเลยที่จะไปสื่อถึงความคิดคำนึงในเชิงความรักด้านชู้สาว ถ้าจะมีการถือหมอนให้เป็นเชิงสัญลักษณ์ ควรให้มารดาของนาคเป็นผู้ถือ ถ้าจะสื่อธรรมเชิงสัญลักษณ์ก็จะสื่อว่า ให้พ่อนาคเมื่อบวชแล้วนึกถึงว่าหมอนใบนี้คุณแม่ถือมาและถวายพระ ให้รำลึกนึกถึงพระคุณของมารดาที่ให้เกิดมา เปรียบหมอนเสมือนตักของมารดาที่ให้พ่อนาคได้หนุนหนอนในยามเด็ก และให้พ่อนาคได้นึกถึงการบวชนี้ ว่านอกจากเพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาแล้ว ก็เป็นทางมาแห่งการนำบิดามารดาเข้าสู่ธรรม เข้าสู่พระพุทธศาสนา ดังนั้นเมื่อหนุนหมอนใบนี้ ให้นึกถึงว่าตนเองบวชเพื่อทดแทนพระคุณมารดาด้วยส่วนหนึ่ง ก็ต้องตั้งใจรักษาสิกขาบท ศึกษาพระธรรมวินัยให้เต็มที่ ให้บุพการีได้บุญจากการที่ลูกชายบวชในพระศาสนาครั้งนี้
แบบนี้น่าจะมีประโยชน์มากกว่าสื่อไปถึงเรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่นอกจากจะงมงายแล้ว ก็ยังไม่เหมาะแก่ผู้จะเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์
แท้จริงแล้วการถืออะไรก็แล้วแต่ในขบวนแห่งานบวชนั้น เป็นเพียงการ "ช่วยกันในงานบุญ" เพียงเท่านั้นเอง คือคนมาในงาน บ้างก็ช่วยถือสัปทน บ้างก็ช่วยถือเครื่องไทยธรรมถวายพระ บ้างก็ช่วยถือพานแว่นฟ้าที่วางจีวร
บอกตามตรง ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับประเพณีการให้ผู้ที่เป็นคนรักหรือผู้ที่คบหาอยู่กับพ่อนาคมาช่วยถือหมอน แล้วก็สื่อไปในเรืองนั้นเรื่องนี้โดยเฉพาะด้านชู้สาว เพราะพ่อนาคกำลังจะเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ไม่ควรมีอะไรเลยที่จะไปสื่อถึงความคิดคำนึงในเชิงความรักด้านชู้สาว ถ้าจะมีการถือหมอนให้เป็นเชิงสัญลักษณ์ ควรให้มารดาของนาคเป็นผู้ถือ ถ้าจะสื่อธรรมเชิงสัญลักษณ์ก็จะสื่อว่า ให้พ่อนาคเมื่อบวชแล้วนึกถึงว่าหมอนใบนี้คุณแม่ถือมาและถวายพระ ให้รำลึกนึกถึงพระคุณของมารดาที่ให้เกิดมา เปรียบหมอนเสมือนตักของมารดาที่ให้พ่อนาคได้หนุนหนอนในยามเด็ก และให้พ่อนาคได้นึกถึงการบวชนี้ ว่านอกจากเพื่อเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาแล้ว ก็เป็นทางมาแห่งการนำบิดามารดาเข้าสู่ธรรม เข้าสู่พระพุทธศาสนา ดังนั้นเมื่อหนุนหมอนใบนี้ ให้นึกถึงว่าตนเองบวชเพื่อทดแทนพระคุณมารดาด้วยส่วนหนึ่ง ก็ต้องตั้งใจรักษาสิกขาบท ศึกษาพระธรรมวินัยให้เต็มที่ ให้บุพการีได้บุญจากการที่ลูกชายบวชในพระศาสนาครั้งนี้
แบบนี้น่าจะมีประโยชน์มากกว่าสื่อไปถึงเรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่นอกจากจะงมงายแล้ว ก็ยังไม่เหมาะแก่ผู้จะเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์
แสดงความคิดเห็น
วันนี้ไปงานบวชมา สงสัยเรื่องการถือหมอน
จึงมีข้อสงสัยว่า...
- ทำไมบางคนบอกว่าถ้าแฟนถือหมอนจะทำให้เลิกกัน จริงรึเปล่าคะ?
- แต่บางคนเขาบอกว่าควรให้ถือ เพราะมันเริ่มต้นจากคำพูดที่ว่าอยู่เรียงเคียงหมอน ซึ่งหมายถึงใครอื่นไม่ได้นอกจากคู่ครองเท่านั้น เขาก็เลยมักดูว่างานนี้ใครถือหมอนคือคนที่จะอยู่เรียงเคียงหมอนกันในอนาคต?
สรุปอันไหนเป็นความเชื่อที่ถูกคะ???
via Pantip Talk