เล่าประสบการณ์ของหายได้คืนให้ฟังกันครับ เป็น iPad mini ของผมเอง ต้องบอกว่า ผมโชคดีจริงๆที่ได้คืนมาครับ เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า...
เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2013 ผมแบกกระเป๋า Notebook ที่มี iPad mini ออกไปประชุมงานที่ Central พระราม 9 .. โดยที่วันนั้นผมเป็นหวัด และมีน้ำมูกออกมามหาศาลมาก เลยซัดยาลดน้ำมูกขั้นรุนแรงไป พอประชุมเสร็จก็แบบว่าเป๋เลยล่ะ ต้องเดินทางไปสยาม แต่ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ไหวแล้ว ก็เลยนั่ง Taxi ไปแทน ระหว่างที่นั่งรถ Taxi ที่เรียกจากหน้า IT Mall Fortune ผมก็นั่งเช็คเมล์ไปด้วย จนผมเริ่มสะลืม สะลือจากฤทธิ์ยา ก็เลยหลับคร่อกไปเลยครับ พอถึงสยามพี่ Taxi เค้าก็ปลุกผม... ด้วยจังหวะที่ผมตกใจตื่นขึ้นมาก็จ่ายตังค์แล้วรีบลงไปเลย ปรากฏว่า iPad mini มันไม่ได้ลงมาด้วยครับ ตอนที่ผมทำหายเป็นเวลาเที่ยงครับ... กว่าจะรู้ตัวคือประมาณ 6 โมงเย็นก่อนรายการแบไต๋ไฮเทค จะเข้าเพราะว่า อยากจะได้ iPad mini มาอ่าน Script พอดี แต่ค้นเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ก็เลยเอะใจสงสัย หาทั้งสตูดิโอไม่เจอ ผมเลยคิดว่างานเข้าแล้วแหงๆ พยายามนึกภาพสุดท้ายของ iPad mini ปรากฏว่า นึกได้ว่าน่าจะอยู่บนรถ Taxi ครับ
ชั่วโมงนั้น เปิด Find My iPhone บน iPhone5 ของผม ปรากฏว่ามันโชว์สถานที่ว่า iPad ของผมกำลังซิ่งอยู่แถวโทลล์เวย์ ตรงวิภาวดีโน่นนนนนนนนนนน ชั่วโมงนั้นร้องจ๊ากกกกก iPad mini ฉาน
แต่ในช่วงเวลาแห่งความชวนสิ้นหวัง จะมานั่งสิ้นหวังอยู่โดยที่ไม่ได้ลองทำอะไรเลยได้ไง
ก็เลย ลองใช้ Function ของ Find My iPhone ประกาศสถานะให้ iPad mini เครื่องนั้น เป็น Lost Mode พร้อมกับขึ้นข้อความประกาศว่า เครื่อง iPad mini นี้เป็นของผม มีข้อมูลสำคัญอยู่ รบกวนติดต่อกลับที่เบอร์โทรศัพท์ผมด้วย ผมยินดีมีรางวัลให้ ซึ่งเมื่อเราประกาศข้อความแบบนี้ออกไปผ่านระบบ Find My iPhone ข้อความนี้จะขึ้นค้างหน้า iPad mini หรืออุปกรณ์ของเราที่หายไปครับ
หลังจากประกาศข้อความไปซักพัก ยังไม่มีการติดต่อกลับ ผมเริ่มร้อนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่า iPad ของผมยังอยู่บน Taxi หรือเปล่า หรือมีคนเก็บไปแล้ว ชั่วโมงนั้น ผมก้ำกึ่งมากกับความรู้สึก จะปล่อยให้เครื่องหายแล้วตัดใจ ลบข้อมูลทิ้งดี หรือจะรอก่อนดี
คิดขึ้นได้ว่า น่าจะลอง Facetime เข้าไปให้อีกฝ่ายรับ เพราะแน่นอน มันเป็น iPad... มันโทรไปหาโดยตรงไม่ได้ ถึงแม้ผมจะใส่ SIM เอาไว้ก็ตาม .. ดังนั้นช่องทางเดียวที่ยังพอใช้คุยได้ก็ได้ Facetime ของ Apple นี่แหละ
มือถือผมเป็น iPhone5 .. แต่ผมก็ไม่สามารถ Facetime เข้า iPad mini ของตัวเองได้เพราะว่า เครื่องมันใช้ Apple ID เดียวกัน เลยโทรบอก @joyz ให้ลอง Facetime โทรหาที
รออยู่อีก 15 นาที... ผมรู้สึกว้าวุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจโทรไป แต่ @joyz โทรมาพอดี เพื่อที่จะบอกว่า พี่คนขับ Taxi แกรับ Facetime แล้ว แต่ที่แกใช้เวลานานเพราะว่าแกรับไม่เป็น แกต้องขอให้ผู้โดยสารช่วยกดรับได้
หลังจากที่แลกเบอร์ติดต่อกัน ผมก็โทรไปหาพี่คนขับ Taxi ทันที พี่แกชื่อ พี่สมศักดิ์ ขับ Taxi เขียวเหลือง มง 9710 ครับ แกบอกว่า แกรับผู้โดยสารอยู่ตรงแถวๆดอนเมือง เดี๋ยวเสร็จแล้วจะไปส่งให้ ผมเลยขออนุญาติให้แกไปส่งให้ @joyz ที่อยู่ตรงเอกมันที เพราะผมกำลังจะเข้าถ่ายรายการแล้วอาจจะไม่สะดวกมาพบแกครับ
ระหว่างนั้นระบบ Find My iPhone ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันนะครับ มันจะส่ง Email มาบอกผมเรื่อยๆว่าตอนนี้เครื่องเดินทางไปไหนแล้ว และผ่านตรงไหนมาบ้างทำให้รู้ว่า เครื่องเรายังมีชีวิตอยู่
จริงๆอยากเจอและขอบคุณพี่สมศักดิ์เป็นการส่วนตัวมากๆ แต่ติดรายการนี่แหละครับ ถ้าพี่บังเอิญได้มาอ่าน ผมอยากจะบอกพี่จริงๆครับว่า ขอบคุณมากจริงๆครับ
สรุปสิ่งที่ได้จากเรื่องนี้
• Find My iPhone ช่วยทำใหืโอกาสที่เหลือ 0% ในการตามหาเครื่องหาย ให้กลายมาเป็น 10 - 20 % ครับ ดังนั้นใครที่ยังใช้ App ตู้ที่โหลด App โดย Apple ID ของอาเฮียเจ้าของตู้ทั้งหลาย ก็เปลี่ยนมาใช้ Apple ID ของตัวเองซะนะครับ
• iPad แบบมี SIM มันช่วยตรงที่ส่ง Data กลับมาหาเราได้ตลอดเวลานี่แหละ ทำให้เราตามข้อมูลเครื่องเราได้ตลอดเวลา
• อย่าตกใจ ค่อยๆคิด ช่วงเวลานั้นเราจะรู้สึกอยากโทษตัวเองและเซ็งมากๆ แต่มันไม่มีประโยชน์ เอาเวลามาดิ้นรถ แล้วคิดแก้ไขปัญหาดีกว่า
• ทำบุญครับ.. เวลาอย่างงี้แหละ ที่เราต้องใช้บุญควบคู่กับเทคโนโลยี
ที่มา -
http://www.freeware.in.th/blog/7264 , อ.ศุภเดช พิธีกรรายการ แบไต๋ไฮเทค
เล่าประสบการณ์ iPad mini หายได้คืน อ.ศุภเดช พิธีกรรายการ แบไต๋ไฮเทค
เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2013 ผมแบกกระเป๋า Notebook ที่มี iPad mini ออกไปประชุมงานที่ Central พระราม 9 .. โดยที่วันนั้นผมเป็นหวัด และมีน้ำมูกออกมามหาศาลมาก เลยซัดยาลดน้ำมูกขั้นรุนแรงไป พอประชุมเสร็จก็แบบว่าเป๋เลยล่ะ ต้องเดินทางไปสยาม แต่ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ไหวแล้ว ก็เลยนั่ง Taxi ไปแทน ระหว่างที่นั่งรถ Taxi ที่เรียกจากหน้า IT Mall Fortune ผมก็นั่งเช็คเมล์ไปด้วย จนผมเริ่มสะลืม สะลือจากฤทธิ์ยา ก็เลยหลับคร่อกไปเลยครับ พอถึงสยามพี่ Taxi เค้าก็ปลุกผม... ด้วยจังหวะที่ผมตกใจตื่นขึ้นมาก็จ่ายตังค์แล้วรีบลงไปเลย ปรากฏว่า iPad mini มันไม่ได้ลงมาด้วยครับ ตอนที่ผมทำหายเป็นเวลาเที่ยงครับ... กว่าจะรู้ตัวคือประมาณ 6 โมงเย็นก่อนรายการแบไต๋ไฮเทค จะเข้าเพราะว่า อยากจะได้ iPad mini มาอ่าน Script พอดี แต่ค้นเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ก็เลยเอะใจสงสัย หาทั้งสตูดิโอไม่เจอ ผมเลยคิดว่างานเข้าแล้วแหงๆ พยายามนึกภาพสุดท้ายของ iPad mini ปรากฏว่า นึกได้ว่าน่าจะอยู่บนรถ Taxi ครับ
ชั่วโมงนั้น เปิด Find My iPhone บน iPhone5 ของผม ปรากฏว่ามันโชว์สถานที่ว่า iPad ของผมกำลังซิ่งอยู่แถวโทลล์เวย์ ตรงวิภาวดีโน่นนนนนนนนนนน ชั่วโมงนั้นร้องจ๊ากกกกก iPad mini ฉาน
แต่ในช่วงเวลาแห่งความชวนสิ้นหวัง จะมานั่งสิ้นหวังอยู่โดยที่ไม่ได้ลองทำอะไรเลยได้ไง
ก็เลย ลองใช้ Function ของ Find My iPhone ประกาศสถานะให้ iPad mini เครื่องนั้น เป็น Lost Mode พร้อมกับขึ้นข้อความประกาศว่า เครื่อง iPad mini นี้เป็นของผม มีข้อมูลสำคัญอยู่ รบกวนติดต่อกลับที่เบอร์โทรศัพท์ผมด้วย ผมยินดีมีรางวัลให้ ซึ่งเมื่อเราประกาศข้อความแบบนี้ออกไปผ่านระบบ Find My iPhone ข้อความนี้จะขึ้นค้างหน้า iPad mini หรืออุปกรณ์ของเราที่หายไปครับ
หลังจากประกาศข้อความไปซักพัก ยังไม่มีการติดต่อกลับ ผมเริ่มร้อนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่า iPad ของผมยังอยู่บน Taxi หรือเปล่า หรือมีคนเก็บไปแล้ว ชั่วโมงนั้น ผมก้ำกึ่งมากกับความรู้สึก จะปล่อยให้เครื่องหายแล้วตัดใจ ลบข้อมูลทิ้งดี หรือจะรอก่อนดี
คิดขึ้นได้ว่า น่าจะลอง Facetime เข้าไปให้อีกฝ่ายรับ เพราะแน่นอน มันเป็น iPad... มันโทรไปหาโดยตรงไม่ได้ ถึงแม้ผมจะใส่ SIM เอาไว้ก็ตาม .. ดังนั้นช่องทางเดียวที่ยังพอใช้คุยได้ก็ได้ Facetime ของ Apple นี่แหละ
มือถือผมเป็น iPhone5 .. แต่ผมก็ไม่สามารถ Facetime เข้า iPad mini ของตัวเองได้เพราะว่า เครื่องมันใช้ Apple ID เดียวกัน เลยโทรบอก @joyz ให้ลอง Facetime โทรหาที
รออยู่อีก 15 นาที... ผมรู้สึกว้าวุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจโทรไป แต่ @joyz โทรมาพอดี เพื่อที่จะบอกว่า พี่คนขับ Taxi แกรับ Facetime แล้ว แต่ที่แกใช้เวลานานเพราะว่าแกรับไม่เป็น แกต้องขอให้ผู้โดยสารช่วยกดรับได้
หลังจากที่แลกเบอร์ติดต่อกัน ผมก็โทรไปหาพี่คนขับ Taxi ทันที พี่แกชื่อ พี่สมศักดิ์ ขับ Taxi เขียวเหลือง มง 9710 ครับ แกบอกว่า แกรับผู้โดยสารอยู่ตรงแถวๆดอนเมือง เดี๋ยวเสร็จแล้วจะไปส่งให้ ผมเลยขออนุญาติให้แกไปส่งให้ @joyz ที่อยู่ตรงเอกมันที เพราะผมกำลังจะเข้าถ่ายรายการแล้วอาจจะไม่สะดวกมาพบแกครับ
ระหว่างนั้นระบบ Find My iPhone ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันนะครับ มันจะส่ง Email มาบอกผมเรื่อยๆว่าตอนนี้เครื่องเดินทางไปไหนแล้ว และผ่านตรงไหนมาบ้างทำให้รู้ว่า เครื่องเรายังมีชีวิตอยู่
จริงๆอยากเจอและขอบคุณพี่สมศักดิ์เป็นการส่วนตัวมากๆ แต่ติดรายการนี่แหละครับ ถ้าพี่บังเอิญได้มาอ่าน ผมอยากจะบอกพี่จริงๆครับว่า ขอบคุณมากจริงๆครับ
สรุปสิ่งที่ได้จากเรื่องนี้
• Find My iPhone ช่วยทำใหืโอกาสที่เหลือ 0% ในการตามหาเครื่องหาย ให้กลายมาเป็น 10 - 20 % ครับ ดังนั้นใครที่ยังใช้ App ตู้ที่โหลด App โดย Apple ID ของอาเฮียเจ้าของตู้ทั้งหลาย ก็เปลี่ยนมาใช้ Apple ID ของตัวเองซะนะครับ
• iPad แบบมี SIM มันช่วยตรงที่ส่ง Data กลับมาหาเราได้ตลอดเวลานี่แหละ ทำให้เราตามข้อมูลเครื่องเราได้ตลอดเวลา
• อย่าตกใจ ค่อยๆคิด ช่วงเวลานั้นเราจะรู้สึกอยากโทษตัวเองและเซ็งมากๆ แต่มันไม่มีประโยชน์ เอาเวลามาดิ้นรถ แล้วคิดแก้ไขปัญหาดีกว่า
• ทำบุญครับ.. เวลาอย่างงี้แหละ ที่เราต้องใช้บุญควบคู่กับเทคโนโลยี
ที่มา - http://www.freeware.in.th/blog/7264 , อ.ศุภเดช พิธีกรรายการ แบไต๋ไฮเทค