ชาวบ้านและญาติพี่น้อง รุมประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหาฆ่านักศึกษาวัย 17 ปี
ขณะนำตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพ ในบ้านพักกลางเมืองชียงใหม่
................................................................................................
ญาติสุดทนรุมประชาทัณฑ์นายศราวุฒิ (ปิง) แก้วเพ็ง อายุ 23 ปี และนายสถาพร แก้วเพ็ง อายุ 21 ปีน้องชาย สองผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์อดีตส.ส.พิษณุโลก¬และรมช.เกษตรฯขณะทำแผนประกอบคำสารภาพ
................................................................................................
ญาติแค้น รุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา คาโรงพัก
................................................................................................
เข้าใจได้ครับ ว่าท่านเสียใจ แค้่นเคืองใจ ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ด้วยน้ำมือฆาตกรใจโหด
ผู้ตัองหาที่กระทำความผิดเองที่หนีหัวซุกหัวซุน สุดท้ายก็โดนจับมารับโทษจนได้
แต่....มีผู้ต้องหาบางราย ที่นอกจะไม่หนีแล้ว ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม อย่างไม่ยี่หระต่อความผิดที่ได้กระทำ ยังคงแสดงอาการลำพองในความชั่ว แสดงความตอกย้ำซ้ำเติมญาติมิตรผู้สูญเสีย
เวทีผ่าความชั่ว จึงเป็นเวทีของฆาตกรใจบาป ที่นอกจากไม่สำนึกต่อความผิดแล้ว ยังคิดว่าการกระทำของตนเองถูกต้องเหมาะสมอีกด้วย
ไม่รู้จะเปรียบเทียบอมนุษย์้เหล่านี้อย่างไรดี นอกจากมึนงงสงสัยว่า เขาไม่มีเคยมีคนอบรมสั่งสอนเรื่องศีลธรรม บาป บุญ คุณ โทษ บ้างเลยหรือไร
ดูคลิปเหล่านี้แล้ว เข้าใจหัวอกของผู้สูญเสียคนรักว่ารู้สึกอย่างไร
ขณะนำตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพ ในบ้านพักกลางเมืองชียงใหม่
................................................................................................
ญาติสุดทนรุมประชาทัณฑ์นายศราวุฒิ (ปิง) แก้วเพ็ง อายุ 23 ปี และนายสถาพร แก้วเพ็ง อายุ 21 ปีน้องชาย สองผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์อดีตส.ส.พิษณุโลก¬และรมช.เกษตรฯขณะทำแผนประกอบคำสารภาพ
................................................................................................
ญาติแค้น รุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา คาโรงพัก
................................................................................................
เข้าใจได้ครับ ว่าท่านเสียใจ แค้่นเคืองใจ ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ด้วยน้ำมือฆาตกรใจโหด
ผู้ตัองหาที่กระทำความผิดเองที่หนีหัวซุกหัวซุน สุดท้ายก็โดนจับมารับโทษจนได้
แต่....มีผู้ต้องหาบางราย ที่นอกจะไม่หนีแล้ว ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม อย่างไม่ยี่หระต่อความผิดที่ได้กระทำ ยังคงแสดงอาการลำพองในความชั่ว แสดงความตอกย้ำซ้ำเติมญาติมิตรผู้สูญเสีย
เวทีผ่าความชั่ว จึงเป็นเวทีของฆาตกรใจบาป ที่นอกจากไม่สำนึกต่อความผิดแล้ว ยังคิดว่าการกระทำของตนเองถูกต้องเหมาะสมอีกด้วย
ไม่รู้จะเปรียบเทียบอมนุษย์้เหล่านี้อย่างไรดี นอกจากมึนงงสงสัยว่า เขาไม่มีเคยมีคนอบรมสั่งสอนเรื่องศีลธรรม บาป บุญ คุณ โทษ บ้างเลยหรือไร