package 3G ของผมเป็นแบบ unlimited โดยใช้ความเร็ว 3G สูงสุดได้ 1.5G (ของ Dtac) และด้วยพอดีเดือนนี้

ใช้ 3G ไปเยอะ ซึ่งก็มี SMS มาเตือนว่าะจะหมด 1.5G แล้ว ผมจึงเป็นการใช้ในมือถือ (Iphone) โดยปิด 3G และ

เปลี่ยนมาใช้เป็น EDGE (คิดว่าจะเก็บความเร็ว 3G ไ้ว้ตอนที่ต้องการความเร็ว) แต่พอมาถึงเมื่อวานผมลองเช็ค

3G ของผมเล่นดูว่าเหลือเท่าไหร่ ปรากฏว่า Data 3G ของผมเพิ่มขึ้น ผมจึงได้โทรไปถาม CC Dtac ซึ่งได้บทสนทนา

ประมาณนี้ครับ

ผม : ขอสอบถามหน่อยนะครับว่าถ้าผมปิดการใช้ 3G ใน Iphone ของผมคือผมปิดการใช้งาน 3G แล้วใช่ไหมครับ

CC : ใช่ค่ะ ถ้าใน Iphone ปิด 3G แล้ว ก็นะเปลี่ยนเป็น EDGE ค่ะ

ผม : แล้วทำไมเมื่อผมปิด 3G แล้ว ข้อมูลการใช้ Data 3G ของผมถึงเพิ่มขึ้นล่ะครับ

CC : 3G ของเราคิดเป็น Data นะค่ะ ถึงจะ้เป็น EDGE ก็คิด Data รวมกับ 3G นะค่ะ

ผม : อ้าว ยังงั้นหมายความว่าถ้าทุกครั้งที่คลื่นคุณ โดนเปลี่ยนเป็น EDGE ก็ยังคิดรวมกับ 3G เหรอครับ ผมว่าไม่ใช่แล้ว

       เพราะใน  package ระบุว่า ความเร็วสูงสุด 1.5G ถ้าผมไม่ได้ใช้ความเร็วสูงสุด (EDGE) มันก็ไม่น่าจะไปรวมกับ Data
       
       ของ 3G สิครับ (ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่า) เหมือนผมโดนโกงเลยครับ

CC : ใช่ค่ะ (เว้นช่้วง) เข้าใจลูกค้าค่ะ ว่ารู้สึกยังไง (น่าสงสาร CC เหมือนกันไม่ใช่ความผิดตัวเอง) แต่ระบบเราคิดแบบนั้นค่ะ


ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องที่ผมบ่นกับ CC ของ Dtac ดังนั้นผมจึงได้ข้อสรุปว่า ความเร็วสูงสุดของ Dtac 1.5G นั้น ไม่ว่าจะใช้

EDGE หรือ 3G มันคิดรวมกันหมด ถ้าคุณไม่ปล่อยสัญญาน 3G แล้วผมต้องใช้ EDGE มันก็ถูกนำไปรวมกับ 3G  จึงอยาก

สอบถามกับทาง AIS และ True ว่าการคิด 3G ของทั้ง 2 ค่าย เหมือน Dtac หรือไม่ครับ หรือว่าแยกการคำนวน EDGE กับ

3G ออกจากกัน เพื่อที่ผมจะได้ตัดสินใจว่าจะย้ายไปค่ายไหนดีครับ