คลิปอธิบาย มิติที่ 1-10 แบบเข้าใจง่าย





จากคลิปข้างต้น อธิบาย มิติที่ 1-10 ไว้ดังนี้ มิติ หรือ Dimension หมายถึง การวัดระยะจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
การจะเข้าใจมิติที่สูงขึ้นไป จำเป็นต้องเข้าใจสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วก่อนครับ

มิติที่ 0: คือ จุด (ไม่มีระยะ)

มิติที่ 1: หมายถึง เส้น (จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง)

มิติที่ 2: หมายถึง เส้นสองเส้น (นึกถึงรูปตัว Y) (จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่มีตัวเลือก 2 ทาง) หรือ นึกถึงกระดาษ บางมากๆ 1 แผ่น ที่ไม่มีความหนา

มิติที่ 3: หมายถึง เส้นสองเส้น (รูปตัว Y) แต่ตัว Y นี้อยู่บนกระดาษ และเราสามารถพับกระดาษให้หัวตัว Y มาชนกัน ทำให้ระยะที่เคยวัดจากตัว Y ปกติเปลี่ยนไป นึกถึงมดที่เดินอยู่บนขาตัว Y ด้านซ้าย แล้วพอพับกระดาษมาชน ก็สามารถไปยังขาตัว Y ด้านขวาได้ทันที หรือนึกถึง ตัวเรา ที่อาศัยอยู่ในโลกที่มีความกว้าง ยาว สูง

มิติที่ 4: หมายถึง เวลา (ไอน์สไตน์ เป็นคนที่นำเสนอแนวคิดนี้ว่า สถานที่และเวลา มีลักษณะเหมือนกัน คือ เป็น กาลอวกาศ หรือ Space-time สถานที่ ไม่อาจแยกจากเวลาได้ และเวลาก็เป็นสิ่งสัมพัทธ์ โดยวัตถุใดๆยิ่งเคลื่อนที่เร็วเท่าไหร่ เวลายิ่งเดินช้าลงเท่านั้น และเมื่อเราเข้าใจว่า เวลาเป็นเหมือนระยะอย่างหนึ่งแล้ว เราจะมองได้ว่า การที่เรานั้น เดินทางจากจุดที่เราเป็นเด็ก จนถึงจุดที่เราแก่ได้นั้น เป็นเหมือนเส้นตรงเส้นหนึ่ง เพราะฉะนั้น ระยะของมิติที่ 4 คือ การเดินทางของเวลา จากอดีต มาปัจจุบันนั่นเอง

มิติที่ 5: หมายถึง โอกาส โดย ถ้าเราเข้าใจมิติที่ 4 ว่า เวลา มีลักษณะเป็น เส้น ที่ลากจากอดีต มาสู่ อนาคต และเราเข้าใจว่า มิติที่ 2 คือ ตัว Y นั้น

มิติที่ 5 ก็หมายความว่า เราในปัจจุบันนี้ อาจจะเดินทางไปยัง ขา Y ด้านซ้าย หรือ ขา Y ด้านขวา ก็ได้ หมายความว่า ตัวเราในปัจจุบัน จะเป็นอะไรในอนาคตก็ได้ เช่น ในตอนที่เราเป็นเด็ก เราอาจจะฝัน ว่า อยากจะเป็น นักบินอวกาศ หรือ หมอ หรือ พ่อค้า หรือ ชาวนา ก็ได้

มิติที่ 6: หมายถึง เราสามารถพับ ให้ขา Y ด้านบน (หรือตัวเราตอนแก่) มาเจอกับ ขา Y ด้านล่าง คือ เราตอนเด็กได้ ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเราพบมิติที่ 6 ในทางปฏิบัติ จริงๆ ได้เมื่อไหร่ เราจะย้อนเวลาไปยังอดีต หรือ เดินทางไปยังอนาคตได้อย่างรวดเร็วทันทีทันใด (คือ เมื่อเราพับ space-time ได้หรือเมื่อเราพบโดราเอมอน เอ๊ย ไทม์แมชชีน นั่นเอง) สำหรับมิติที่ 6 นี่นึกถึงหนังได้หลายเรื่องเลย แต่ที่เจ๋งหน่อย ก็คือ Man in Black ภาคล่าสุด ที่มีผู้ชายอยู่คนหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว ที่พอถอดหมวกออกมา มีหัวกลวงๆสีฟ้า และมีความสามารถพิเศษคือ สามารถเข้าออกมิติที่ 6 ได้อย่างอิสระ และมีตอนหนึ่งในหนัง ที่บอกว่า ชาย คนนี้ สามารถอยู่ได้ทั้งใน อดีต ปัจจุบัน และอนาคตพร้อมๆกัน และสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ของอนาคตทุกรูปแบบ ซึ่งตอนดูหนังก็ยังงงๆครับ เพิ่งมาเข้าใจตอนดูคลิปอธิบายเรื่องมิตินี้ เจ๋งมากๆครับ

มิติที่ 7: จะเข้าใจมิติที่ 7 ได้ ต้องเข้าใจจุดของมิติที่ 7 ก่อน คือ การที่เรามองสิ่งที่ใหญ่มากๆ อย่าง จักรวาลทั้งจักรวาล เป็นเหมือนจุดๆหนึ่ง ซึ่งจุดนี้ รวมความเป็นได้ของจักรวาลของเราที่ควรจะเป็นทั้งหมด ตั้งแต่ตอนเกิดบิ๊กแบก จนถึง จุดจบของจักรวาลที่เป็นไปได้ทุกรูปแบบ ซึ่งจุดนี้ ก็หมายถึง อนันต์ นั่นเอง ทีนี้ องค์ประกอบอีกอย่างของมิติที่ 7 ก็คือต้องมีอีก จุด (อนันต์) อีกจุดหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากจุดแรกโดยสิ้นเชิง หรือ พูดให้เข้าใจง่ายๆว่า เป็นอีกจักรวาลหนึ่ง ที่มีความแตกต่างจากจักรวาลของเราโดยสิ้นเชิง คือ แตกต่างทั้ง จุดกำเนิดจักรวาลนี้ และโอกาสการเกิดจุดจบของจักรวาลนี้ทุกรูปแบบ แน่นอนว่า รวมถึงกฏฟิสิกส์ต่างๆในจักรวาลนี้ก็แตกต่างจากเราด้วย ทีนี้เส้นเชื่อมจุดสองจุดนี้ ก็เหมือนกับว่า เราสามารถเดินทางจากจุด (อนันต์) หรือ จักรวาลของเรา ไปยังอีกจุดอนันต์หนึ่ง (อีกจักรวาลหนึ่ง) ได้นั่นเอง

มิติที่ 8: คือ แทนที่จะมี จุดอนันต์ แค่ 2 จุด (หรือ 2 จักรวาลนั่นเอง สมมุติว่าเป็นจักรวาล A และ B) ก็มีจุดอนันต์ เพิ่มมาอีก 1 จุด (อีก 1 จักรวาล สมมุติว่าเป็น จักรวาล C ที่แตกต่างจากอีก 2 จักรวาลแรกโดยสิ้นเชิง) และเราก็สามารถเลือกที่จะเดินทางได้ว่า จากจักรวาล A ของเรา  จะเดินทางไปยัง จักรวาล B หรือ จักรวาล C ก็ได้

มิติที่ 9: นี่ยิ่งมันส์ เพราะนอกจากเราจะสามารถเดินทางข้ามจักรวาลไปยังอีกจักรวาลหนึ่งได้แล้ว เรายังสามารถพับ ให้จักรวาลทั้ง สองจักรวาล หรือ 3 จักรวาล มาอยู่ในจุดเดียวกัน ทำให้เราวาปจากจักรวาลหนึ่งไปยังอีกจักรวาลหนึ่งได้ทันที ตอนนี้ผมนึกถึง การ์ตูน เรื่อง โจโจ ล่าข้ามศวรรตษ ภาคที่แล้วมากๆ (ภาค สตีล บอล รัน) ที่สแตนด์ของประธานาธิบดี สามารถ ย้าย เข้าออก ยังมิติของจักรวาลอื่น ที่คล้ายกับมิติของเราได้ เป็นอนันต์ และสามารถเปลี่ยนตัวเองที่กำลังจะตาย โดยการมอบสแตนด์ของตนเอง ให้กับคนที่เหมือนกับตนเองแต่อยู่ในมิติอื่น หรือจักรวาลอื่นนั่นเอง ได้ไม่จำกัด สรุปว่า สแตนด์ของประธานาธิบดีในเรื่องนี้ สามารถเข้าออกมิติที่ 9 ได้อย่างอิสระนั่นเองครับ

มิติที่ 10: นี่เหมือนในคลิป อธิบายไม่จบไงไม่รู้ เพราะ อธิบายแค่ว่า มีจุดอนันต์ จำนวนมากมายไม่สิ้นสุด และเราสามารถเดินทางไปยังจุดอนันต์ใดๆก็ได้ เพราะจุดอนันต์ทั้งหมดรวมลงมาเป็นจุดเดียว

หลังจากนั้นมีการอธิบาย ถึงทฤษฏี superstring theory ซึ่งไม่รู้เรื่องแล้วครับ หัวเราะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่