ทำตัวอย่างมาได้น่าสนใจ ไม่ใช่แต่เพียงแต่พล็อตเรื่องที่ดูแข็งแรงและแปลกใหม่ ยังไม่นับพี่เลี้ยงและผู้ช่วยของ บรู๊ซ เวยน์ ที่จะมาปะทะประมือกันอีกในเรื่องนี้ ทำให้คนดูตาดำดำอย่างเราซื้อตั๋วดูได้แบบไม่ต้องคิด
สี่นาทีแรกของหนังเปิดตัวอาชญากลแต่ละคนได้น่าสนใจมาก แม้จะเปิดการเปิดตัวที่ไม่ได้มีชั้นเชิงในการนำเสนอ เพียงแค่ถ่ายไล่ให้ดูความสามารถทในแต่ละด้านของจตุรอาชาไปทีละคน ยังพอเข้าใจได้ว่าอยากให้คนดูฝังภาพในหัวไว้ว่า เออ เอ็งเก่งงงงงง -"-
แต่เมื่อเริ่มเข้าขมวดปมไปเรื่อยๆ ค้นพบว่า ส่วนตัวรู้สึกแปลกๆกับหลายๆฉากในหนัง บางฉากดูจะเกินคำว่ามายากลไปเลยด้วยซ้ำ ภายในหัวคนดู (อย่างเรา) นอกจากจะมีคำถามเกี่ยวกับปมต่างๆที่ทิ้งไว้แล้วดั๊นไม่เฉลย ยังต้องมีหน้าที่ต้องดูไปสะกดจิตตัวเองไปตลอดให้เชื่อว่าทุกอย่างในเรื่องมันเป็นไปได้สิน่า ซึ่งหน้าที่นี้ไม่สมควรจะเป็นของผู้ชมเลยด้วยซ้ำ...
ถ้ามายากลแบบ prestige เป็นดราม่ากล มายากลแบบของ now you see me จะเป็นมายากลที่ใช้เพื่อ entertain คนดูให้ตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งก็ทำได้ในระดับที่ไม่น่าเกลียด แต่ยังไม่มากพอที่คนดูจะปรบมือโห่ร้อง และยอมรับให้กับชั้นเชิงในการนำเสนอของผู้กำกับ ที่ควรทำได้ดีกว่านี้ เคลียร์กว่านี้ เช่นเหตุใดทั้งสี่จตุรอาชาถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเข้าเนตรภาคี ที่คนดูไม่ได้มีส่วนได้รู้เห็นด้วยเลยว่ามันดียังไง แถมตอนท้าย ก็หายไปกับม้าหมุนซะแบบนั้น ซึ่งทุกสิ่งล้วนน่าเสียดายที่มีพล็อตเรื่องแข็งแรงขนาดนี้อยู่ในมือ แต่ใช้มันได้ไม่เต็มศักยภาพ
คอหนังตื่นเต้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าคุณเคยประทับใจกับ prestige และแทบจะก้มกราบให้กับเทคนิคการนำเสนอขั้นสุดยอดอย่าง Inception หรือแม้แต่หนังที่หลอกคนดูแบบให้เห็นโต้งๆเลยอย่าง catch me if you can คุณอาจจะต้องเตรียมใจไปสักหน่อย และท่องตามที่หลายๆฉากในเรื่องบอกไว้
"It's a magic"
#ฉากที่ชอบมากๆในเรื่อง ฉากที่ ตาเจ้าของประกันชีวิต กัน นักเปิดโปงมายากลเจอ(ทะเลาะ)กันครั้งแรก #โชว์มายากลรอบสองที่นิวออลีนส์ #ฉากเผยความรู้สึกก่อนจากกันของแต่ละคนในลิฟต์
[spoiled alert!!!!] Now you see me อาชญากลนี้ สำคัญไฉน?
สี่นาทีแรกของหนังเปิดตัวอาชญากลแต่ละคนได้น่าสนใจมาก แม้จะเปิดการเปิดตัวที่ไม่ได้มีชั้นเชิงในการนำเสนอ เพียงแค่ถ่ายไล่ให้ดูความสามารถทในแต่ละด้านของจตุรอาชาไปทีละคน ยังพอเข้าใจได้ว่าอยากให้คนดูฝังภาพในหัวไว้ว่า เออ เอ็งเก่งงงงงง -"-
แต่เมื่อเริ่มเข้าขมวดปมไปเรื่อยๆ ค้นพบว่า ส่วนตัวรู้สึกแปลกๆกับหลายๆฉากในหนัง บางฉากดูจะเกินคำว่ามายากลไปเลยด้วยซ้ำ ภายในหัวคนดู (อย่างเรา) นอกจากจะมีคำถามเกี่ยวกับปมต่างๆที่ทิ้งไว้แล้วดั๊นไม่เฉลย ยังต้องมีหน้าที่ต้องดูไปสะกดจิตตัวเองไปตลอดให้เชื่อว่าทุกอย่างในเรื่องมันเป็นไปได้สิน่า ซึ่งหน้าที่นี้ไม่สมควรจะเป็นของผู้ชมเลยด้วยซ้ำ...
ถ้ามายากลแบบ prestige เป็นดราม่ากล มายากลแบบของ now you see me จะเป็นมายากลที่ใช้เพื่อ entertain คนดูให้ตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งก็ทำได้ในระดับที่ไม่น่าเกลียด แต่ยังไม่มากพอที่คนดูจะปรบมือโห่ร้อง และยอมรับให้กับชั้นเชิงในการนำเสนอของผู้กำกับ ที่ควรทำได้ดีกว่านี้ เคลียร์กว่านี้ เช่นเหตุใดทั้งสี่จตุรอาชาถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเข้าเนตรภาคี ที่คนดูไม่ได้มีส่วนได้รู้เห็นด้วยเลยว่ามันดียังไง แถมตอนท้าย ก็หายไปกับม้าหมุนซะแบบนั้น ซึ่งทุกสิ่งล้วนน่าเสียดายที่มีพล็อตเรื่องแข็งแรงขนาดนี้อยู่ในมือ แต่ใช้มันได้ไม่เต็มศักยภาพ
คอหนังตื่นเต้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าคุณเคยประทับใจกับ prestige และแทบจะก้มกราบให้กับเทคนิคการนำเสนอขั้นสุดยอดอย่าง Inception หรือแม้แต่หนังที่หลอกคนดูแบบให้เห็นโต้งๆเลยอย่าง catch me if you can คุณอาจจะต้องเตรียมใจไปสักหน่อย และท่องตามที่หลายๆฉากในเรื่องบอกไว้
"It's a magic"
#ฉากที่ชอบมากๆในเรื่อง ฉากที่ ตาเจ้าของประกันชีวิต กัน นักเปิดโปงมายากลเจอ(ทะเลาะ)กันครั้งแรก #โชว์มายากลรอบสองที่นิวออลีนส์ #ฉากเผยความรู้สึกก่อนจากกันของแต่ละคนในลิฟต์