เจ้าของธุรกิจ (บางคน) เดี๋ยวนี้ชอบดูถูกคนกินเงินเดือนเหรอครับ คุณกับผมก็คือคนที่ต้องใช้ชีวิตคนทำงานเหมือนกันไม่ใช่หรือ

หัวกระทู้ผมอาจจะรุนแรงไปหน่อยหรือยังไงก็ช่วยบอกผมทีนะครับ
เมื่อวันก่อนได้นัดรวมพลเพื่อนเก่าจากมหาลัยให้มาเจอกัน เพราะไม่เจอกันนานมากๆ ส่วนใหญ่จะพูดคุยกันผ่านเฟคบุคหรือว่าไลน์มากกว่า พอเจอกันก็พูดคุยกันตามประสา เพื่อนฝูง คุยไปคุยมาก็เพิ่งรู้ว่ามีเพื่อน 3 คนในนั้นทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งขายเสื้อผ้า เปิดร้านอาหาร และอีกคนกำลังเริ่มเปิดบริษัทหุ้นกับเพื่อน

ผมนั่งฟังเพื่อนเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ทำธุรกิจส่วนตัวของแต่ละคนแล้วก็เหนื่อยพอดูเหมือนกัน  แต่ก็อดอิจฉาไม่ได้ตรงที่มีความเป็นอิสระ เป็นเจ้านายตัวเอง จนบางครั้งก็นึกอยากออกไปทำธุรกิจส่วนตัวบ้าง แต่นั่นแหล่ะประเด็นสำคัญเลย ผมยังไม่รู้เลยว่าผมจะทำอะไรที่ผมถนัด

พูดคุยกันไปมา ทีนี้มันมีเพื่อนคนนึงเค้าขายตรงอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย มันก็บอกว่าตอนนี้ชีวิตมันกำลังจะไปได้สวยมาก เดือนหน้ามันกำลังจะถอยคอนโดใหม่ประมาณเกือบๆ 3 ล้าน มันบอกว่าใช้ชีวิตสุขสบายและอิสระสุดๆตั้งแต่มาทำธุรกิจขายตรง ลักษณะการพูดมันเองก็ไม่ได้เหมือนมาเชื้อเชิญพวกผมตรงๆนะ

แต่ที่ผมติดใจคำพูดเพื่อนคนนี้อยู่จุดนึงคือ มันบอกว่าพวกผมจะเป็นพนักงานกินเงินเดือนแบบนี้ไปตลอดหรอว่ะ ถามผมอีกว่าแล้วเป้าหมายผมคืออะไร  ผมก็เออหวะเลยบอกมันไปว่าตัวผมเองยังไม่รู้อนาคตและเป้าหมายอะไรเลยนะ ทุกวันนี้เก็บเงินได้ทุกเดือนมันก็โอเคแล้ว (เก็บมาได้ 3 ปีกว่าแล้วตั้งแต่ทำงานมา) และเป็นพวกไม่ได้ทะเยอทะยานอะไรมากมายอย่างคนอื่นเค้า รถก็ไม่มีขับ ใช้โทรศัพท์ก็ไอโฟนเรื่องปกติ

มันบอกว่าดูดิ๊เพื่อนๆเมิงหลายคนก็เริ่มทำธุรกิจส่วนตัวกันเยอะแยะแล้วนะ เพื่อนอีกคนที่ทำร้านขายเสื้อผ้าก็ร่วมขบวนด้วยเลยทีนี้ เอาพูดอยู่นั่นแหล่ะว่ามันขายเสื้อผ้าขายดีมาก ในที่สุดมันก็ไม่ต้องไปเป็นลูกน้องของใครอีกแล้ว ต่อจากนี้ก็เป็นนายตัวเองซักที อิสระ  (จริงๆตอนผมฟังพวกมันพูด มันดูถูกคนกินเงินเดือนอย่างพวกผมมากๆเลยนะ แต่ก็เงียบๆไว้ เหมือนผมเป็นขี้ข้าของพวกนักธุรกิจ ปล่อยให้เค้ารวยไปโดยที่พวกผมก็ป็นเพียงแค่เบี้ยด้านล่างตัวนึงในธุรกิจและผลประโยชน์ของเค้า ว่าแต่มันต่างกับธุรกิจขายตรงที่มันทำยังไง -*-)

ผมเลยบอกพวกมันไปว่า แล้วที่พวกมันทำทุกวันนี้ไม่ได้เรียกว่าเป็นพวกหาเช้ากินค่ำเหมือนกันกับพวกผมหรอกหรอ (ต่างกันแค่ทำงานกะตัวเอง) ถ้าพวกมันมองว่าคนกินเงินเดือนเป็นลูกน้องเค้า งั้นต่อไปถ้ามันเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตมาเมื่อไหร่ ก็อย่ามีลูกน้องอย่ามีพนักงานเลย เพราะเค้าต้องมากินเงินเดือนที่พวกเมิงให้เค้าทุกเดือน ถ้าไม่มีพวกเค้าพวกเมิงก็อาจจะอยู่ไม่ได้เช่นกัน มันจะต่างอะไรกับที่พวกเมิงไปว่าเค้าว่าเป็นเบี้ยล่างให้กับพวกนักธุรกิจ มันก็บอกว่าตรรกะผมเพี้ยนแล้ว มันเทียบกันไม่ได้ พวกนั้นมัน

ยังไม่เจอวิกฤติ ผมอยู่แบบนี้ สบายแบบนี้เพราะผมยังไม่เจอวิกฤติกับชีวิต ผมยังบอกเป้าหมายอะไรในตัวเองไม่ได้หรอก อีกอย่างมันต่างกันแน่นอน เพราะเราเป็นเจ้าของเจ้านายตัวเองอิสระกว่า สบายกว่า มีเวลาดูแลครอบครัว ไปเที่ยวกับแฟน พ่อแม่ก็สบาย ชีวิตแบบอินคัมโครตๆ

ผมบอกว่าทุกวันนี้ผมก็มีความสุขดี มันก็หาว่าผมเป็นพวกหลอกตัวเอง (เออหลอกก็หลอกว่ะ) หาว่าใจจริงผมอยากรวยเหมือนคนอื่นใช่มั้ยล่ะ (ก็ถูกนะ แต่ความรวยมันเป็นได้ทุกคนก็ดีสิ) อยากเที่ยวเหมือนคนอื่นรึเปล่า เมืองนอกอะไรนั่น (ผมก็เที่ยวนะเมืองนอก พวกมันก็น่าจะรู้อยู่แล้ว เที่ยวมากกว่าพวกมันอีก แต่แค่ไม่ชอบอัพเดทบนเฟคบุคให้ใครรู้มาก นอกจากจะเป็นเพื่อนสนิทแท็กมา หรือว่ากลุ่มญาติกันเท่านั้น)  ผมก็บอกไปว่าถ้าผมหลอก พวกมันก็หลอกตัวเองไม่ต่างกัน ผมพอใจกับสิ่งที่ผมเป็นอยุ่ ผมจะเสแสร้งไปทำไม

อย่ามาจิตวิทยากับผมเลย ผมว่าผมมีความสุขมากกว่าพวกมันอีก เพราะผมเป็นนไม่คาดหวังอะไรสูงอยู่แล้ว ใช้ชีวิตดำเนินไปตามปกติ ทุกข์บ้างสุขบ้างสลับกันไปปัจจุบันตัวผมเองก็ยังโสด แฟนก็ไม่มี  พ่อแม่ผมก็ไม่ได้ทุกข์ร้อน เค้าบอกด้วยซ้ำว่าไม่จำเป็นต้องมาเลี้ยงดูอะไรเค้าด้วย ตัวเค้าก็มีเงินของเค้าเองอยู่แล้ว (แต่ผมก็ส่งให้พ่อกับแม่ทุกเดือนอยู่แล้วล่ะ ตั้งแต่ทำงานมา) เค้าบอกว่าขอให้ผมใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นก็เพียงพอแล้ว ผมเองใกล้จะเรียนจบปริญญาโทแล้วอย่างน้อยสิ่งนี้ก็คงถือว่าเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของผมด้วย

ผมว่าคนทุกคนก็คือคนทำงานเหมือนกัน  ไม่ว่าคุณจะทำแบบไหนจะรวยจะจน สิ่งที่ผมได้ฟังมาจากเพื่อนๆทำให้ผมคิดใหม่อีกอย่างว่า ชีวิตของมนุษย์เราเกิดมามันก็แตกต่างกันแล้ว และผมเข้าใจในมุมมองของเพื่อนผมนะ เค้าทำกิจการแล้วรวยผมก็ดีใจกับเค้าด้วย คนที่เค้าทำงานกินเงินเดือนไปแล้วเค้ารับได้มีความสุขก็ดีไป ผมไม่เคยคิดที่จะดูถูก และไม่ว่าเค้าจะทำงานแบบไหนด้วยซ้ำ  แต่อย่างที่บอกครับผมไม่ชอบกับความคิดของพวกนี้จริงๆที่ดูถูกคนด้วยกันเอง

แล้วคนพวกนี้ชอบมาอัพเฟคบุค ขึ้นบทความธรรมะธรรมโม เอาคำคมชีวิตมากมาย หรือบางทีก็พยายามบอกเล่าให้คนอื่นฟัง ประมาณว่าชีวิตตัวเองมีความสุขมากแค่ไหนกับการได้ลาออกจากมนุษย์เงินเดือนแล้วเป็นเจ้านายตัวเอง  บางรายหนักเลยขายของได้เงินเท่าไหร่ก็บอกชาวบ้านเค้า (ไม่รู้จะบอกทำไม แต่เอาเถอะความสุขของเค้า -*-) และใครจะว่าผมพูดให้ดูดีก็แล้วไปครับ ผมก็มนุษย์ธรรมดาคนนึงแค่มีความคิดเห็นแตกต่าง

มาบ่นให้ฟังครับ หรือว่าเพื่อนๆมีความคิดเห็นกันยังไงก็เล่าสู่กันฟังได้ รับฟังทุกคำตอบ ^^
ปล. ผมไม่รู้จะแท็กห้องไหนนอกจากสีลมและศาลาประชาคม เอาเป็นว่าตามความเหมาะสมแล้วกันครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่