สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตอบตาม หลักพุทธศาสนานะครับ
๑. ความเข้าใจว่า ในคนเรา มีวิญญาณแบบอัตตา เหมือนอย่างในหนัง
ที่พอตายแล้วดวงวิญญาณนั้น ก็ลอยออกจากร่างไป
อย่างนี้จริงๆแล้ว พระพุทธองค์ก็แสดงไว้ว่า ยังเป็นความเห็นที่ไม่ตรง
คือเป็นความเห็นแบบ สัสสตทิฏฐิ เห็นว่ามีสิ่งที่เที่ยง เป็นตัวตนอัตตาภายใน
---------------------------------------------------------------
๒. ที่จริง บุคคล สัตว์ทั้งหลายนั้น ประกอบด้วย รูปนาม, จิต, ขันธ์ ๕ ที่เกิดดับอยู่ทุกขณะ
คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในเสี้ยววินาทีหนึ่งๆ นั้น จิตของเราเกิดดับไปเป็นหลายล้านๆๆขณะเลย
ซึ่ง จิตที่เกิดดับอยู่ทุกขณะนั้นแหละ ก็คือ วิญญาณ นั่นเอง
---------------------------------------------------------------
๓. ตอนนี้ คุณ เพลย์บอล คงจะเข้าใจความหมายของคำว่า วิญญาณ ในทางพุทธแล้วนะครับ
ที่นี้ ความจริงแล้ว คุณยาย ของคุณนั้น จิตของท่านก็ยังคงเกิดดับสืบไปเรื่อยๆนั้นแหละครับ
ตราบใดที่ยังไม่สิ้นลมหายใจไป
เพียงแต่จิตของเรานั้นมีหลายประเภท ทางอภิธรรม ท่านจำแนกไว้ถึง ๘๙ ประเภท
ซึ่ง จิตบางประเภท เช่น ทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ นั้น จะทำหน้าที่รับรู้ทาง
ตา หู จมูก ลิ้น กาย
ดังนั้น ในขณะที่ท่านไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่มี จิต ในขณะนั้น
จิตของท่านเพียงแต่ ไม่มารับรู้ทางทวาร ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
แต่จิตอื่นๆ ที่เกิดทาง "มโนทวาร" หรือ ภวังคจิต ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแก่เรา โดยเฉพาะเวลาเรานอนหลับสนิท
จิตต่างๆเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นทำงานได้อยู่
ดังนั้น คุณย่าของคุณ โดยมากในขณะนั้น ก็จะมี ภวังคจิต เกิดดับสืบต่อกันไปเรื่อยๆ
โดยจิตอาจจะขึ้นจากวิถีของภวังค์ มาสู่ มโนทวาร เกิดความคิดต่างๆ ในขณะหลับนั้นอยู่ได้บ้าง
อาจจะเกิดเป็นฝันบ้าง คิดอะไรได้บ้าง หรือ เกิดนิมิตต่างๆขึ้นมาได้บ้าง
เพียงแต่จิตยังไม่มารับอารมณ์ทางปัญจทวาร.....
---------------------------------------------------------------------------------
อธิบายมาไว้ให้ละเอียดแล้ว อาจจะมีศัพท์ยากๆ ที่ยากแก่การเข้าใจ
แต่โดยสรุปคือ คุณย่าของคุณ ก็ยังมีชีวิต รูปนามของท่าน ก็ยังเกิดดับสืบกันไป
เหมือนเราในเวลาที่เรานอนหลับอยู่ น่ะครับ ขณะนี้ จิตของท่านอาจจะยังไม่มารับรู้
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่ว่าอาจจะกลับมารับได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้
---------------------------------------------------------------------------------
๔. ดังนั้น ต้องเข้าใจให้ถูกนะครับ คือ ไม่ใช่ว่า มีดวงวิญญาณ ลอยหลงไปไหน กลับเข้าร่างอะไรไม่ได้
เพียงแต่ จิตอาจจะขาดปัจจัยอะไรบางอย่างเท่านั้น จึงยังไม่ขึ้นมารับอารมณ์ทาง ทวาร ๕
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็อาจจะเป็นด้วยอำนาจแห่งกรรม หรือกำหนดอายุสังขารของท่าน
สิ่งที่คุณพอจะทำได้ ก็เช่น อาจจะนำ เทศน์ หรือบทสวดมนต์ มาเปิดเบาๆ ให้ท่านได้ยิน
เพื่อบางขณะ จิตของท่านอาจจะรับรู้ทางหูบ้าง ก็จะได้ระลึกถึงสิ่งอันเป็นกุศลได้
๑. ความเข้าใจว่า ในคนเรา มีวิญญาณแบบอัตตา เหมือนอย่างในหนัง
ที่พอตายแล้วดวงวิญญาณนั้น ก็ลอยออกจากร่างไป
อย่างนี้จริงๆแล้ว พระพุทธองค์ก็แสดงไว้ว่า ยังเป็นความเห็นที่ไม่ตรง
คือเป็นความเห็นแบบ สัสสตทิฏฐิ เห็นว่ามีสิ่งที่เที่ยง เป็นตัวตนอัตตาภายใน
---------------------------------------------------------------
๒. ที่จริง บุคคล สัตว์ทั้งหลายนั้น ประกอบด้วย รูปนาม, จิต, ขันธ์ ๕ ที่เกิดดับอยู่ทุกขณะ
คือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในเสี้ยววินาทีหนึ่งๆ นั้น จิตของเราเกิดดับไปเป็นหลายล้านๆๆขณะเลย
ซึ่ง จิตที่เกิดดับอยู่ทุกขณะนั้นแหละ ก็คือ วิญญาณ นั่นเอง
---------------------------------------------------------------
๓. ตอนนี้ คุณ เพลย์บอล คงจะเข้าใจความหมายของคำว่า วิญญาณ ในทางพุทธแล้วนะครับ
ที่นี้ ความจริงแล้ว คุณยาย ของคุณนั้น จิตของท่านก็ยังคงเกิดดับสืบไปเรื่อยๆนั้นแหละครับ
ตราบใดที่ยังไม่สิ้นลมหายใจไป
เพียงแต่จิตของเรานั้นมีหลายประเภท ทางอภิธรรม ท่านจำแนกไว้ถึง ๘๙ ประเภท
ซึ่ง จิตบางประเภท เช่น ทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ นั้น จะทำหน้าที่รับรู้ทาง
ตา หู จมูก ลิ้น กาย
ดังนั้น ในขณะที่ท่านไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่มี จิต ในขณะนั้น
จิตของท่านเพียงแต่ ไม่มารับรู้ทางทวาร ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
แต่จิตอื่นๆ ที่เกิดทาง "มโนทวาร" หรือ ภวังคจิต ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแก่เรา โดยเฉพาะเวลาเรานอนหลับสนิท
จิตต่างๆเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นทำงานได้อยู่
ดังนั้น คุณย่าของคุณ โดยมากในขณะนั้น ก็จะมี ภวังคจิต เกิดดับสืบต่อกันไปเรื่อยๆ
โดยจิตอาจจะขึ้นจากวิถีของภวังค์ มาสู่ มโนทวาร เกิดความคิดต่างๆ ในขณะหลับนั้นอยู่ได้บ้าง
อาจจะเกิดเป็นฝันบ้าง คิดอะไรได้บ้าง หรือ เกิดนิมิตต่างๆขึ้นมาได้บ้าง
เพียงแต่จิตยังไม่มารับอารมณ์ทางปัญจทวาร.....
---------------------------------------------------------------------------------
อธิบายมาไว้ให้ละเอียดแล้ว อาจจะมีศัพท์ยากๆ ที่ยากแก่การเข้าใจ
แต่โดยสรุปคือ คุณย่าของคุณ ก็ยังมีชีวิต รูปนามของท่าน ก็ยังเกิดดับสืบกันไป
เหมือนเราในเวลาที่เรานอนหลับอยู่ น่ะครับ ขณะนี้ จิตของท่านอาจจะยังไม่มารับรู้
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่ว่าอาจจะกลับมารับได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้
---------------------------------------------------------------------------------
๔. ดังนั้น ต้องเข้าใจให้ถูกนะครับ คือ ไม่ใช่ว่า มีดวงวิญญาณ ลอยหลงไปไหน กลับเข้าร่างอะไรไม่ได้
เพียงแต่ จิตอาจจะขาดปัจจัยอะไรบางอย่างเท่านั้น จึงยังไม่ขึ้นมารับอารมณ์ทาง ทวาร ๕
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็อาจจะเป็นด้วยอำนาจแห่งกรรม หรือกำหนดอายุสังขารของท่าน
สิ่งที่คุณพอจะทำได้ ก็เช่น อาจจะนำ เทศน์ หรือบทสวดมนต์ มาเปิดเบาๆ ให้ท่านได้ยิน
เพื่อบางขณะ จิตของท่านอาจจะรับรู้ทางหูบ้าง ก็จะได้ระลึกถึงสิ่งอันเป็นกุศลได้
แสดงความคิดเห็น
นอนโคม่า วิญญาณไปไหน
ยายผม ท่านนอนโคม่าในห้องไอซียู ผมกับแม่ไปเยี่ยมแทบทุกวัน จับมือ นวด คุยกับท่าน ท่านไม่มีปฎิกิริยาใด ๆ ผมมองท่านนอนหลับ ท่านยังหายใจปรกติ ไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ คนเรายังหายใจอยู่ ทำไมถึงไม่รับรู้ ไม่ตื่นล่ะครับ
เราพึ่งหมอไม่ได้ จึงไปหาพระ พระแถวบ้านผมรูปหนึ่ง ท่านว่า จิตของยายผมหลงทาง ท่านสามารถถอดจิตเข้าไปในจิตยายผมได้ เนื่องด้วยท่านบำเพ็ญสมาธิจนได้ ฌาน 4 ผมพอทราบ ในพระไตรปิฎก กล่าวว่า ผู้ใดได้ฌาน 4 ผู้นั้นจักมีหูทิพย์ ตาทิพย์ มีญาณระลึกชาติ แล้วยังสามารถถอดจิตเข้าไปในจิตผู้อื่นได้ด้วยหรอครับ
ความรู้ที่ท่านใดได้ตอบมา จักเป็นวิทยาทานแก่ชาวพุทธต่อไปครับ