ต้องออกตัวแก้เก้อกันก่อนว่า ผมไม่ใช่นักรีวิวหนังมืออาชีพหรือคนที่ชอบดูหนัง ก็คงเป็นแค่คนธรรมดาตาหัวกระทู้นั่นเอง
now u c me เริ่มแรกที่ผมเห็นชื่อก็รู้สึก "เหยยยยยยยยยยยยยยยย หนังอะไรวะ ตั้งชื่อได้เห่ยเป็นบ้า"
แต่ก็มาสะดุดตากับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างป๋าฟรีแมน มนุษย์ตัวเขียวเจ้าอารมณ์ และลุงอัลเฟรด หัวหน้าผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตระกูลเวย์น ก้เลยคิดว่านักแสดงไม่ธรรมดา
พอได้เห็นตัวอย่างภาพยนต์ก็คิดว่า "เออ น่าสนใจว่ะ ต้องไปดูกันสักหน่อยแล้ว"
เกริ่นเรื่องย่อตามแบบผม(ขอเขียนใหม่เอง)
คือมี"คนๆนึง" รวบรวมนักมายากลระดับสุดยอดทั้ง 4 คน มาแสดงโชว์อย่างยิ่งใหญ่ในอารมณ์แบบโรบินฮูด คือปล้นคนรวยมาช่วยคนจน กล่าวคือจะแจกเงินทุกครั้งที่แสดงจบ(คนดูก็ชอบสิครับแหม่) โดยหลักๆมีการแสดง 3 ครั้งใหญ่ๆ
แต่สุดท้ายแล้ว การแสดงแต่ละครั้งเชื่อมโยงกันอย่างไร "คนๆนั้น"คือใครและมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ อันนี้ผมคงให้ท่านๆไปใช้บริการ major หาคำตอบกันเองนะครับ
เรื่องนี้ผมว่าเป็นการเล่าที่ค่อนข้างง่ายและเร็ว ตามฉบับพี่หลุยส์ คือเปิดมาก็ใส่กันเลย(ไม่ได้ตีกันนะ) เรียกว่าสนุกตั้งแต่เริ่มเรื่อง
การเล่าเรื่องก็จะเล่าเรื่องที่ 1 วางปม แล้วไปแก้เรื่องที่ 1 หรือวางเรื่องที่ 2 ไว้ แต่จะค่อยๆวางปมและค่อยๆเฉลยในแต่ละปมไปเรื่อยแบบเป็นเส้นตรง
แน่นอนว่านักจับผิดมืออาชีพมันจะต้องเห็นช่องว่างหรือความไม่สมเหตุสมผลในบางมายากลบ้าง เพราะบางทีมันก็ดูเหมือนเป็น "แฟนตาซี" มากกว่า "มายากล" ครับ แม้ผมจะพยายามมองข้ามๆไป แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอะไรมันจะลงตัวได้ฉิวเฉียดทุกครั้งขนาดนั้น
ผมว่าเรื่องการวางแผน การเลือกใช้กล อาจจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่เลือกที่จะเล่าให้มันดูแปลกใหม่ได้ ซึ่งตรงนี้ไม่อธิบายต่อละกัน เดี๋ยวจะเข้าข่ายสปอยด์ครับ
ส่วนประเด็นที่ผมเห็นว่ายังไม่ดีคือ
1. เรื่องมันเดินโทนเดียวเกินไป คือสนุกมั๊ย สนุกนะ แต่มันโทนนี้ทั้งเรื่องอ่ะ ก็เลยดูแอบน่าเบื่อ ไม่มีฉาก peak ให้แบบ "โอ้โห !!!" "อือหือ !!!" หรือฉากหักมุมแรงๆ เพราะจริงๆมายากลครั้งที่ 3 (ที่เป็นครั้งสุดท้าย)น่าจะเป็นตอน peak ของเรื่อง กลับไม่ได้หวือหวา ยิ่งใหญ่หรือรู้สึกตื่นเต้นกว่าครั้งที่ 1 หรือ 2 แต่อย่างใด
2. การอินกับตัวละคร ผมว่าเรื่องนี้เน้นมายากลมากเกินไป ทำให้ไม่อินกับตัวละครสักเท่าไหร่เลย เพราะไม่ได้วางปมหรือปูมหลังอะไรกับแต่ละตัวมาเท่าไหร่เลย ทั้งความรักระหว่าง 4 horsemen ทั้งๆที่ตอนต้นเรื่องอุตส่าห์บอกแล้วว่าทั้ง 2 คนนี้รู้จักกัน(อันนี้คงไม่ถือว่าผมสปอยด์มั๊ง) หรือความรักระหว่างตำรวจ ช ตอนเฉลยคนบงการ ซึ่งถามว่าผมอินอะไรมั่งมั๊ย ผมตอบว่าน้อยมากเลยนะ ความรู้สึกผูกพันกับตัวละครนี่น้อยสุดๆ เอาง่ายๆว่าคุริรินถูกฟรีเซอร์ฆ่าผมยังเศร้ากว่านี้เลยอ่ะ
3. การเว้นช่องว่างของบท ผมว่าเค้ารีบถามรีบตอบระหว่างบทมากเกินไป จนบางทีการเว้นช่องว่างให้คนดูคิดตาม หรือกำลังอยู่ในอารมณ์สงสัยไม่มากพอ บางจังหวะที่ทำให้คนดูสงสัยถึงคนที่อาจจะเป็น 5th horsemen แทนที่จะมีการนึกย้อนเหตุการณ์ที่เข้าเค้าว่าทำไมถึงสงสัย ให้คนดูคล้อยตาม(แบบพี่มาก)แต่กลับรีบตอบก่อนที่คนดูจะคิดทันเสียอีก
และเป็นอีกครั้งที่หนังวางให้คนดูคอยหา 5th horsemen ตลอดเวลา จริงๆคือวางมาตั้งแต่ต้นเรื่อง คือพี่จะรีบวางไปไหนครับ climax เดี๋ยวค่อยวางก็ได้ หรือค่อยทำให้คนดูมาฉุกคิดทีหลังก็ได้ หรือกลัวคนดูไม่คิดตาม ซึ่งผู้ต้องสงสัยมันมีอยู่ไม่กี่คน คนดูก็จับตามองจ้องสงสัยแหละครับ พอเฉลยออกมามันก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะถึงเดาไม่ถูกแต่ตูดูไว้แล้ว ฮันแน่ 555+
สารภาพเลยนะครับว่าผมเดาไม่ถูกครับ ถึงถูกก็ไม่มีเหตุผล แต่เฉลยแบบนี้ผมไม่ตกใจอ่ะ เฉลยว่าบรูซ วิลลิสเป็นผีมาตั้งแต่ต้นเรื่องยังตกใจกว่าเลย ไม่ใช่เฉลยไม่ดีนะครับ แต่วางปมมาเฉลยไม่ดี
4. การผูกปม คือผูกไม่แน่นครับ ทั้งเรื่องนักมายากลลึกลับคนนึง เรื่องสมาคมสุดยอดนักมายากล วางมาแบบขำๆมาก คือช่วยมีเรื่องราวหรือบทบาทกระแทกใจตูหน่อยได้ไหม ซึ่งส่งผลให้พอเฉลยคนๆนั้นออกมา มันก็เลยไม่"อึ้ง"อ่ะครับ
วางเรื่องมาแทบตาย แต่เชื่อมเรื่องราวได้ไม่แน่นเท่าไหร่ หลวมเลยแหละ พอไม่อินหนังมันก็เลยดูจืดไปหน่อย
เริ่มยาวแล้ว สรุปดีกว่าก่อนจะสปอยด์
ผมว่าเรื่องนี้วางพล็อตเรื่องมาดีครับ ดีมากๆด้วย มีความสัมพันธ์นู่นนี่นั่น มีการวางปมทุกจุด และแก้ทุกปมที่วางเอาไว้ทั้งหมด แทบไม่มีตรงไหนของเรื่องที่จะวางเรื่องมาไร้สาระเอาขำๆเลย ทุกอย่างมีจำประสงค์หมด
แต่การดำเนินเรื่องผมว่ามีปัญหาอยู่เยอะครับ คือไขแต่ละอย่างไม่ค่อยตื่นเต้น ทั้งๆที่หนังแนวปมปริศนาตอนไขปัญหาแต่ละจุดนี่คือความสนุกและความคาดหวังของคนดูเลยนะครับ พอไขมา ออกแนว "อ๋อๆอืมๆ" ครับ
ถ้าจะเพิ่มได้ ผมอยากได้ฉากเก๊กหล่อมากกว่านี้ด้วยครับ ดูในเทรลเลอร์แต่ละตัวมาอย่างหล่อ ยังกะอ่านเรื่อง bleach ก็มิปาน มาจริงๆจำแต่ละบทความเท่ไม่ค่อยได้ ไอ้คำพูดพวก "ยิ่งดูใกล้ยิ่งถูกหลอกง่าย" หรือ "ตามอยู่ 2 ก้าว รู้สึกอีกทีก็อยู่ข้างหลังเนี่ย" พูดบ่อยๆก็ได้นะ เท่ดีออก
กับเพิ่มรายละเอียดของปมหน่อย ให้รู้สึกผูกพันน่าตื่นเต้นกว่านี้ ทำมาทั้งที เอา 2 ชมกว่าๆเลยก็ได้ ผมว่า 1:30 ชม สั้นไปสำหรับหนังแนวนี้ครับ พอออกมาก็เลยไม่สุดสักทาง
สรุป : พล็อตเรื่องดี การดำเนินเรื่องมีปัญหา = ="
เอาไป 7.5 คะแนนครับ สนุกพอดูได้ แต่อย่าคาดหวังสูง
p.s. จริงๆ 4 horsemen นี่ผมว่าน่าจะหมายถึง 4 horsemen of the Apocalypse นะครับ
ซึ่งเป็นผู้พิพากษาแทนพระเจ้าครับ ซึ่งจะมี 4 สีคือ White Horse, Red Horse, Black Horse และ Pale Horse ครับ ซึ่ง Pale Horse คือ Death หรือคนน้องเล็กของเรื่องนะครับ(เพราะได้ไพ่ใบนี้พอดี)
ส่วนคนอื่นอนุมานเอาว่า พี่มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กน่าจะเป็น White น้องอิสล่าน่าจะเป็น Red เพราะหัวแดง ส่วนอีกคนเป็น Black เพราะเหลือตัวเดียว
ซึ่งจริงๆตรงนี้ก็เล่นได้อีกนิดหน่อยเพื่อความเท่
แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมแปล 4 horsemen ว่า 4 จตุรอาชา มันคนขี่ม้านะ horsemen เนี่ย มะช่ายม้าาาาาาาาาาาา
edit ตรงสปอยด์
[CR] [[Now You See me]] ฉบับคนธรรมดา(ไม่สปอยด์)
now u c me เริ่มแรกที่ผมเห็นชื่อก็รู้สึก "เหยยยยยยยยยยยยยยยย หนังอะไรวะ ตั้งชื่อได้เห่ยเป็นบ้า"
แต่ก็มาสะดุดตากับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างป๋าฟรีแมน มนุษย์ตัวเขียวเจ้าอารมณ์ และลุงอัลเฟรด หัวหน้าผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตระกูลเวย์น ก้เลยคิดว่านักแสดงไม่ธรรมดา
พอได้เห็นตัวอย่างภาพยนต์ก็คิดว่า "เออ น่าสนใจว่ะ ต้องไปดูกันสักหน่อยแล้ว"
เกริ่นเรื่องย่อตามแบบผม(ขอเขียนใหม่เอง)
คือมี"คนๆนึง" รวบรวมนักมายากลระดับสุดยอดทั้ง 4 คน มาแสดงโชว์อย่างยิ่งใหญ่ในอารมณ์แบบโรบินฮูด คือปล้นคนรวยมาช่วยคนจน กล่าวคือจะแจกเงินทุกครั้งที่แสดงจบ(คนดูก็ชอบสิครับแหม่) โดยหลักๆมีการแสดง 3 ครั้งใหญ่ๆ
แต่สุดท้ายแล้ว การแสดงแต่ละครั้งเชื่อมโยงกันอย่างไร "คนๆนั้น"คือใครและมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ อันนี้ผมคงให้ท่านๆไปใช้บริการ major หาคำตอบกันเองนะครับ
เรื่องนี้ผมว่าเป็นการเล่าที่ค่อนข้างง่ายและเร็ว ตามฉบับพี่หลุยส์ คือเปิดมาก็ใส่กันเลย(ไม่ได้ตีกันนะ) เรียกว่าสนุกตั้งแต่เริ่มเรื่อง
การเล่าเรื่องก็จะเล่าเรื่องที่ 1 วางปม แล้วไปแก้เรื่องที่ 1 หรือวางเรื่องที่ 2 ไว้ แต่จะค่อยๆวางปมและค่อยๆเฉลยในแต่ละปมไปเรื่อยแบบเป็นเส้นตรง
แน่นอนว่านักจับผิดมืออาชีพมันจะต้องเห็นช่องว่างหรือความไม่สมเหตุสมผลในบางมายากลบ้าง เพราะบางทีมันก็ดูเหมือนเป็น "แฟนตาซี" มากกว่า "มายากล" ครับ แม้ผมจะพยายามมองข้ามๆไป แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอะไรมันจะลงตัวได้ฉิวเฉียดทุกครั้งขนาดนั้น
ผมว่าเรื่องการวางแผน การเลือกใช้กล อาจจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่เลือกที่จะเล่าให้มันดูแปลกใหม่ได้ ซึ่งตรงนี้ไม่อธิบายต่อละกัน เดี๋ยวจะเข้าข่ายสปอยด์ครับ
ส่วนประเด็นที่ผมเห็นว่ายังไม่ดีคือ
1. เรื่องมันเดินโทนเดียวเกินไป คือสนุกมั๊ย สนุกนะ แต่มันโทนนี้ทั้งเรื่องอ่ะ ก็เลยดูแอบน่าเบื่อ ไม่มีฉาก peak ให้แบบ "โอ้โห !!!" "อือหือ !!!" หรือฉากหักมุมแรงๆ เพราะจริงๆมายากลครั้งที่ 3 (ที่เป็นครั้งสุดท้าย)น่าจะเป็นตอน peak ของเรื่อง กลับไม่ได้หวือหวา ยิ่งใหญ่หรือรู้สึกตื่นเต้นกว่าครั้งที่ 1 หรือ 2 แต่อย่างใด
2. การอินกับตัวละคร ผมว่าเรื่องนี้เน้นมายากลมากเกินไป ทำให้ไม่อินกับตัวละครสักเท่าไหร่เลย เพราะไม่ได้วางปมหรือปูมหลังอะไรกับแต่ละตัวมาเท่าไหร่เลย ทั้งความรักระหว่าง 4 horsemen ทั้งๆที่ตอนต้นเรื่องอุตส่าห์บอกแล้วว่าทั้ง 2 คนนี้รู้จักกัน(อันนี้คงไม่ถือว่าผมสปอยด์มั๊ง) หรือความรักระหว่างตำรวจ ช ตอนเฉลยคนบงการ ซึ่งถามว่าผมอินอะไรมั่งมั๊ย ผมตอบว่าน้อยมากเลยนะ ความรู้สึกผูกพันกับตัวละครนี่น้อยสุดๆ เอาง่ายๆว่าคุริรินถูกฟรีเซอร์ฆ่าผมยังเศร้ากว่านี้เลยอ่ะ
3. การเว้นช่องว่างของบท ผมว่าเค้ารีบถามรีบตอบระหว่างบทมากเกินไป จนบางทีการเว้นช่องว่างให้คนดูคิดตาม หรือกำลังอยู่ในอารมณ์สงสัยไม่มากพอ บางจังหวะที่ทำให้คนดูสงสัยถึงคนที่อาจจะเป็น 5th horsemen แทนที่จะมีการนึกย้อนเหตุการณ์ที่เข้าเค้าว่าทำไมถึงสงสัย ให้คนดูคล้อยตาม(แบบพี่มาก)แต่กลับรีบตอบก่อนที่คนดูจะคิดทันเสียอีก
และเป็นอีกครั้งที่หนังวางให้คนดูคอยหา 5th horsemen ตลอดเวลา จริงๆคือวางมาตั้งแต่ต้นเรื่อง คือพี่จะรีบวางไปไหนครับ climax เดี๋ยวค่อยวางก็ได้ หรือค่อยทำให้คนดูมาฉุกคิดทีหลังก็ได้ หรือกลัวคนดูไม่คิดตาม ซึ่งผู้ต้องสงสัยมันมีอยู่ไม่กี่คน คนดูก็จับตามองจ้องสงสัยแหละครับ พอเฉลยออกมามันก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะถึงเดาไม่ถูกแต่ตูดูไว้แล้ว ฮันแน่ 555+
สารภาพเลยนะครับว่าผมเดาไม่ถูกครับ ถึงถูกก็ไม่มีเหตุผล แต่เฉลยแบบนี้ผมไม่ตกใจอ่ะ เฉลยว่าบรูซ วิลลิสเป็นผีมาตั้งแต่ต้นเรื่องยังตกใจกว่าเลย ไม่ใช่เฉลยไม่ดีนะครับ แต่วางปมมาเฉลยไม่ดี
4. การผูกปม คือผูกไม่แน่นครับ ทั้งเรื่องนักมายากลลึกลับคนนึง เรื่องสมาคมสุดยอดนักมายากล วางมาแบบขำๆมาก คือช่วยมีเรื่องราวหรือบทบาทกระแทกใจตูหน่อยได้ไหม ซึ่งส่งผลให้พอเฉลยคนๆนั้นออกมา มันก็เลยไม่"อึ้ง"อ่ะครับ
วางเรื่องมาแทบตาย แต่เชื่อมเรื่องราวได้ไม่แน่นเท่าไหร่ หลวมเลยแหละ พอไม่อินหนังมันก็เลยดูจืดไปหน่อย
เริ่มยาวแล้ว สรุปดีกว่าก่อนจะสปอยด์
ผมว่าเรื่องนี้วางพล็อตเรื่องมาดีครับ ดีมากๆด้วย มีความสัมพันธ์นู่นนี่นั่น มีการวางปมทุกจุด และแก้ทุกปมที่วางเอาไว้ทั้งหมด แทบไม่มีตรงไหนของเรื่องที่จะวางเรื่องมาไร้สาระเอาขำๆเลย ทุกอย่างมีจำประสงค์หมด
แต่การดำเนินเรื่องผมว่ามีปัญหาอยู่เยอะครับ คือไขแต่ละอย่างไม่ค่อยตื่นเต้น ทั้งๆที่หนังแนวปมปริศนาตอนไขปัญหาแต่ละจุดนี่คือความสนุกและความคาดหวังของคนดูเลยนะครับ พอไขมา ออกแนว "อ๋อๆอืมๆ" ครับ
ถ้าจะเพิ่มได้ ผมอยากได้ฉากเก๊กหล่อมากกว่านี้ด้วยครับ ดูในเทรลเลอร์แต่ละตัวมาอย่างหล่อ ยังกะอ่านเรื่อง bleach ก็มิปาน มาจริงๆจำแต่ละบทความเท่ไม่ค่อยได้ ไอ้คำพูดพวก "ยิ่งดูใกล้ยิ่งถูกหลอกง่าย" หรือ "ตามอยู่ 2 ก้าว รู้สึกอีกทีก็อยู่ข้างหลังเนี่ย" พูดบ่อยๆก็ได้นะ เท่ดีออก
กับเพิ่มรายละเอียดของปมหน่อย ให้รู้สึกผูกพันน่าตื่นเต้นกว่านี้ ทำมาทั้งที เอา 2 ชมกว่าๆเลยก็ได้ ผมว่า 1:30 ชม สั้นไปสำหรับหนังแนวนี้ครับ พอออกมาก็เลยไม่สุดสักทาง
สรุป : พล็อตเรื่องดี การดำเนินเรื่องมีปัญหา = ="
เอาไป 7.5 คะแนนครับ สนุกพอดูได้ แต่อย่าคาดหวังสูง
p.s. จริงๆ 4 horsemen นี่ผมว่าน่าจะหมายถึง 4 horsemen of the Apocalypse นะครับ
ซึ่งเป็นผู้พิพากษาแทนพระเจ้าครับ ซึ่งจะมี 4 สีคือ White Horse, Red Horse, Black Horse และ Pale Horse ครับ ซึ่ง Pale Horse คือ Death หรือคนน้องเล็กของเรื่องนะครับ(เพราะได้ไพ่ใบนี้พอดี)
ส่วนคนอื่นอนุมานเอาว่า พี่มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กน่าจะเป็น White น้องอิสล่าน่าจะเป็น Red เพราะหัวแดง ส่วนอีกคนเป็น Black เพราะเหลือตัวเดียว
ซึ่งจริงๆตรงนี้ก็เล่นได้อีกนิดหน่อยเพื่อความเท่
แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมแปล 4 horsemen ว่า 4 จตุรอาชา มันคนขี่ม้านะ horsemen เนี่ย มะช่ายม้าาาาาาาาาาาา
edit ตรงสปอยด์