สยามคูโบต้า เตรียมพร้อมรับเออีซี ขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิตเพื่อบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่มีความต้องการเพื่อใช้เครื่องจักรยกระดับผลิตผลทางการเกษตร ชี้ปีที่ผ่านมานับเป็นปีทองจากผลพวงนโยบายรัฐทำให้เกษตรกรและชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 5 หมื่นล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายวีรชัย วิภาตวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขายและการตลาด บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องจักรกลการเกษตร ในปีที่ผ่านมามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด และยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากเกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ต้องการหาเครื่องมือทำมาหากินที่จะมาช่วยผ่อนแรง เพื่อความสะดวกสบายในการประกอบอาชีพ จึงตัดสินใจซื้อหาเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้งาน นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลก็มีส่วนช่วยทำให้ยอดขายเหมือนกัน เช่น โครงการรับจำนำข้าว เป็นต้น ล้วนแต่ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรของคูโบต้า จะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มรถแทรกเตอร์, กลุ่มรถเกี่ยวนวดข้าวและรถดำนา, กลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กและรถไถนาเดินตาม, กลุ่มรถขุด และกลุ่มอุปกรณ์ต่อเพิ่มกับรถแทรกเตอร์ โดยสินค้าที่ทางคูโบต้ามียอดขายอันดับ 1 คือรถแทรกเตอร์ รองลงมาจะเป็นรถไถแบบเดินตามและรถเกี่ยวนวดข้าว ตามลำดับ
ทั้งนี้ในปี 55 คูโบต้ามียอดขายเติบโตขึ้น 30% มีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนในปี 56 นี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท ซึ่งก็คาดว่าตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในปีนี้ ก็จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“สิ่งที่คูโบต้าจะให้ความสำคัญในปีนี้อีกอย่างคือการทำตลาดส่งออกให้มากขึ้น โดยจะเน้นในแถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชา เนื่องจากมองเห็นโอกาสว่าประเทศเหล่านี้ ยังขาดเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย การทำการเกษตรยังต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอยู่ และในภาคเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังต้องขับเคลื่อนไปด้วยภาคการเกษตร ซึ่งทางคูโบต้าได้กำหนดสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าแบ่งเป็นตลาดส่งออกไว้ที่ 20% และตลาดในประเทศที่ 80%”
อย่างไรก็ตามในส่วนของการส่งออก คูโบต้าก็ยังคงจะรักษาฐานลูกค้าในตลาดภูมิภาคอาเซียนเอาไว้ให้เหนียวแน่น เช่น ประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม รวมถึงออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ซึ่งก็มีแผนที่จะขยายตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยจะเน้นการส่งออกเป็นประเภทรถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่
นายวีรชัยกล่าวว่า ในปี 56 นี้ คูโบต้าจะยังคงใช้กลยุทธ์ในการออกสินค้าใหม่ๆ หลายรุ่น เช่น อุปกรณ์ที่จะมาใช้ต่อพ่วงกับรถแทรกเตอร์เกี่ยวกับการตัดอ้อย ครีบอ้อย ขุดหัวมัน เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกร อีกทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยังครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
ส่วนกลยุทธ์ที่จะมาใช้ในการกระตุ้นยอดขาย คือจะนำเสนอโปรแกรมด้านบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อจะได้ตอบสนองและครอบคลุมความต้องการของเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่ชัดเจน แม่นยำ การให้คำแนะนำการใช้งานและบำรุงรักษา รวมถึงการให้บริการด้านสินเชื่อแก่เกษตรกร ผ่านบริษัท สยาม คูโบต้า ลิสซิ่ง เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีโอกาสเป็นเจ้าของสินค้าได้ง่ายขึ้น ด้วยการสนับสนุนการเงินด้วยดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ถือเป็นการช่วยลดการเกิดหนี้นอกระบบอีกด้วย อีกทั้งจะเน้นการดูแลลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งก็จะมีการคิดกิจกรรมที่จะมาสร้างความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างความผูกพันที่ดีระหว่างกัน
“คูโบต้ามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการสร้างสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ทันสมัย ที่ตอบสนองรูปแบบการดำเนินชีวิตของเกษตรกรไทย สามารถทำให้มีคุณภาพชีวิตและคุณภาพในการทำงานที่ดีขึ้น สะดวกขึ้น และรู้สึกมั่นใจในสินค้าของคูโบต้าในเรื่องคุณภาพและความทนทาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้”
นอกจากนี้สิ่งที่คูโบต้าจะมุ่งเน้นในปีนี้คือการขยายฐานการขาย โดยการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งวางแผนไว้ว่าในประเทศจะเพิ่มอีก 18 แห่ง จากเดิมมีอยู่ 186 แห่ง และต่างประเทศอีก 60 แห่ง อาทิ ประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชาเป็นหลัก ซึ่งจะเน้นในพื้นที่ที่ทำการเกษตรเป็นหลัก เพื่อรองรับความต้องการ (ดีมานด์) ของตลาดในกลุ่มนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนที่จะขยายโรงงานเพิ่มเติมในปี 57 ในพื้นที่โรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เพื่อการเพิ่มกำลังการผลิต อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อีกด้วย.
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ที่มา
http://m.thairath.co.th/content/eco/346512
ขยายกำลังผลิตรับเออีซี "คูโบต้า" ชี้นโยบายรัฐดันยอดขายเพิ่มขึ้น /23 พฤษภาคม 2556 ไทยรัฐ
สยามคูโบต้า เตรียมพร้อมรับเออีซี ขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิตเพื่อบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านที่มีความต้องการเพื่อใช้เครื่องจักรยกระดับผลิตผลทางการเกษตร ชี้ปีที่ผ่านมานับเป็นปีทองจากผลพวงนโยบายรัฐทำให้เกษตรกรและชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 5 หมื่นล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายวีรชัย วิภาตวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขายและการตลาด บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องจักรกลการเกษตร ในปีที่ผ่านมามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด และยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากเกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้น ต้องการหาเครื่องมือทำมาหากินที่จะมาช่วยผ่อนแรง เพื่อความสะดวกสบายในการประกอบอาชีพ จึงตัดสินใจซื้อหาเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้งาน นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลก็มีส่วนช่วยทำให้ยอดขายเหมือนกัน เช่น โครงการรับจำนำข้าว เป็นต้น ล้วนแต่ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรของคูโบต้า จะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มรถแทรกเตอร์, กลุ่มรถเกี่ยวนวดข้าวและรถดำนา, กลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กและรถไถนาเดินตาม, กลุ่มรถขุด และกลุ่มอุปกรณ์ต่อเพิ่มกับรถแทรกเตอร์ โดยสินค้าที่ทางคูโบต้ามียอดขายอันดับ 1 คือรถแทรกเตอร์ รองลงมาจะเป็นรถไถแบบเดินตามและรถเกี่ยวนวดข้าว ตามลำดับ
ทั้งนี้ในปี 55 คูโบต้ามียอดขายเติบโตขึ้น 30% มีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนในปี 56 นี้ได้ตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท ซึ่งก็คาดว่าตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในปีนี้ ก็จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“สิ่งที่คูโบต้าจะให้ความสำคัญในปีนี้อีกอย่างคือการทำตลาดส่งออกให้มากขึ้น โดยจะเน้นในแถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชา เนื่องจากมองเห็นโอกาสว่าประเทศเหล่านี้ ยังขาดเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย การทำการเกษตรยังต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอยู่ และในภาคเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังต้องขับเคลื่อนไปด้วยภาคการเกษตร ซึ่งทางคูโบต้าได้กำหนดสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าแบ่งเป็นตลาดส่งออกไว้ที่ 20% และตลาดในประเทศที่ 80%”
อย่างไรก็ตามในส่วนของการส่งออก คูโบต้าก็ยังคงจะรักษาฐานลูกค้าในตลาดภูมิภาคอาเซียนเอาไว้ให้เหนียวแน่น เช่น ประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม รวมถึงออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ซึ่งก็มีแผนที่จะขยายตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยจะเน้นการส่งออกเป็นประเภทรถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่
นายวีรชัยกล่าวว่า ในปี 56 นี้ คูโบต้าจะยังคงใช้กลยุทธ์ในการออกสินค้าใหม่ๆ หลายรุ่น เช่น อุปกรณ์ที่จะมาใช้ต่อพ่วงกับรถแทรกเตอร์เกี่ยวกับการตัดอ้อย ครีบอ้อย ขุดหัวมัน เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกร อีกทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยังครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
ส่วนกลยุทธ์ที่จะมาใช้ในการกระตุ้นยอดขาย คือจะนำเสนอโปรแกรมด้านบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อจะได้ตอบสนองและครอบคลุมความต้องการของเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่ชัดเจน แม่นยำ การให้คำแนะนำการใช้งานและบำรุงรักษา รวมถึงการให้บริการด้านสินเชื่อแก่เกษตรกร ผ่านบริษัท สยาม คูโบต้า ลิสซิ่ง เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีโอกาสเป็นเจ้าของสินค้าได้ง่ายขึ้น ด้วยการสนับสนุนการเงินด้วยดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ถือเป็นการช่วยลดการเกิดหนี้นอกระบบอีกด้วย อีกทั้งจะเน้นการดูแลลูกค้าเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งก็จะมีการคิดกิจกรรมที่จะมาสร้างความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างความผูกพันที่ดีระหว่างกัน
“คูโบต้ามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการสร้างสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ทันสมัย ที่ตอบสนองรูปแบบการดำเนินชีวิตของเกษตรกรไทย สามารถทำให้มีคุณภาพชีวิตและคุณภาพในการทำงานที่ดีขึ้น สะดวกขึ้น และรู้สึกมั่นใจในสินค้าของคูโบต้าในเรื่องคุณภาพและความทนทาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้”
นอกจากนี้สิ่งที่คูโบต้าจะมุ่งเน้นในปีนี้คือการขยายฐานการขาย โดยการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งวางแผนไว้ว่าในประเทศจะเพิ่มอีก 18 แห่ง จากเดิมมีอยู่ 186 แห่ง และต่างประเทศอีก 60 แห่ง อาทิ ประเทศพม่า, ลาว และกัมพูชาเป็นหลัก ซึ่งจะเน้นในพื้นที่ที่ทำการเกษตรเป็นหลัก เพื่อรองรับความต้องการ (ดีมานด์) ของตลาดในกลุ่มนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีแผนที่จะขยายโรงงานเพิ่มเติมในปี 57 ในพื้นที่โรงงานเดิมที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี เพื่อการเพิ่มกำลังการผลิต อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) อีกด้วย.
โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ที่มา http://m.thairath.co.th/content/eco/346512