++ บุหรี่ไฟฟ้า ++ ภัยอันตรายรูปแบบใหม่สำหรับคนไม่เคยดูดและก.การคลัง (เท่านั้น)

เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก  เหมือนแฟนผมบังเอิญเปิดมาดูรายการๆหนึ่งให้ผมดู โดยเป็นรายการที่เกี่ยวกับเรื่องโทษของบุหรี่อันมากมายยาวเหยียดโดยนักวิชาการ หมอ นักวิจัย ต่างๆเป็นสิบๆท่าน  
          ดูจนมาถึงเรื่องภัยอันตรายรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า   "บุหรี่ไฟฟ้า"  หรือ "e-cigarette"  ซึ่งผมจับใจความหลักๆ ที่ผู้ทรงคุณวุฒิกล่าวถึงความอันตรายของมันได้ว่า
1. นิโคตินมากกว่าบุหรี่เดิม
2. มีมากมายหลากหลายให้เลือก เป็นสิบๆกลิ่นและรส คนเสพหน้าใหม่จะติดเพิ่มขึ้นได้ง่าย
3. ไม่มีอ.ย. และไม่เคยผ่านการวิจัยทางการแพทย์   หรือจากทางกระทรวงสาธารณสุข
4. และสำคัญที่สุด ผิดกฏหมายหลายมาตรา
           แต่ไม่มีการพูดถึงข้อดีของมันเลยแม้ซักประโยค  เข้าใจนะครับว่าจากมุมคนไม่ติดบุหรี่ จะแบบเผาไฟหรือแบบใช้ไฟฟ้ามันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละครับ  แต่อย่างน้อยน่าจะช่วยสรุปหน่อยว่ามัน  "ดีหรือแย่กว่าบุหรี่แบบเดิมๆ"  

      เนื่องจากผมดูดบุหรี่มา ราวๆ12 ปีเฉลี่ยราวๆ 10-15 มวน/วัน  ถ้าวันไหนกินเหล้าก็คูณไปเลย 3 เท่าตัว  วันแรกที่เจอบุหรี่ไฟฟ้าตัวเป็นๆซึ่งเป็นของเพื่อนที่กำลังนั่งร่ำสุราอยู่ด้วยนั้น  บอกตรงๆครับผมเกิดความสงสัยก่อน แล้วก็ตามด้วยการทดลองดูด2-3คำ  สุดท้ายดันมีอคติบังตาเยอะไปหน่อย (คงเพราะไม่อยากปฏิเสธสิ่่งที่ตัวเองยอมรับมากกว่าสิบปีว่าแย่กว่าของใหม่ และอยู่ในมือเพื่อนอีก)   แถมอุตสาห์แหน็บเพื่อนไปว่าของปลอมว่ะ ของแท้สิถึงจะใช่  กุเอาเดิมๆดีกว่า
     วันต่อมาเพื่อนผมเลยลงทุนถึงขั้นซื้อชุดใหม่เป็นคู่มาให้ยืม ราคาราวๆ1300  มันขอให้ลองเปิดใจดูดดูซัก1-2วันก็ได้  แล้วจะรู้ว่าอะไรดีกว่า  ถ้าไม่ชอบค่อยคืนให้มัน
     แล้ววันนั้นก็ผ่านมา 3 เดือนแล้วครับ ผมจ่ายเงินค่าบุหรี่ไฟฟ้าชุดนั้นคืนให้เพื่อน และยังขอบใจมันจนถึงทุกวันนี้
    ก่อนนี้ผมไม่เคยวางแผนหรือพยายามเลิกบุหรี่มาก่อน อยู่ดีๆก็เลิกซะงั้น

กลับมาที่รายการเมื่อวานนี้นะครับ  จากการหาข้อมูลอีกมุมมาแย้งนะครับ
1. นิโคตินมากกว่าบุหรี่ปกติ  
============    >>>>     บุหรี่เดิมมีนิโคตินราวๆ 1.2 mg/ตัว  บุหรี่ไฟฟ้ามีหลายความเข้มขั้นของน้ำยา ตั้งแต่ 18 mg - 0 mg ต่อ 1 ml  จากการทดสอบกับตัว(ปกติผมดูดตัวความเข้ม 12mg) ผมลองเติมใส่ตัวแท้งหรืออะตอม ปริมาณ 1 ml จะดูดได้ราวๆ 100 คำซึ่งหมายความว่าต่อ 1 ซี้ด ผมได้รับนิโคติน  12/100 = 0.12 mg
ถ้าบุหรี่เดิมก็เคยลองนับได้ราว10คำต่อตัว   ผมก็จะได้รับนิโคติน  1.2/10 = 0.12 mg    อ้าวเท่ากันเลยนี่นา  อืมแต่ลืมบอกไปเมื่อ3เดือนก่อนผม ตอนแรกผมดูดตัวความเข้ม 18 mg  แล้วก็ลด มาเหลือ 12 mg ตัวขวด18น่ะ  เผลอเติมครั้งนึงแรงมาก ไม่ไหวๆแล้ว
สรุป   พิจารณาแน้วโน้มร่างกายของตัวเองแล้ว ถ้าลดความเข้มลงสักครั้งแล้วจะไม่อยากกลับไปดูดความเข้มแรงๆ ตามเดิม

2. มีมากมายหลากหลายให้เลือก เป็นสิบๆกลิ่นและรส คนเสพหน้าใหม่จะติดเพิ่มขึ้นได้ง่าย  
============    >>>>  คงไม่มีคนหน้าใหม่คนไหนโง่อยากเสียเงินหลักพัน เพื่อแลกกับการลองดูดนิโคตินเป็นครั้งแรกเฉยๆหรอก
(ถามทุกคนที่สูบบุหรี่ได้เลยว่าบุหรี่ตัวแรกที่ลองดูดน่ะ ได้ซื้อเองมั้ย)  

3. ไม่มีอ.ย. และไม่เคยผ่านการวิจัยทางการแพทย์   หรือจากทางกระทรวงสาธารณสุข
============    >>>>  แค่เฉพาะแพทย์ในเมืองไทยนะครับ

4. และสำคัญที่สุด ผิดกฏหมายหลายมาตรา
ส่วนต่างประเทศ  ข้อมูลคัดย่อจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Electronic_cigarette
แปลให้คร่าวๆนะครับ
In Ireland, the sale and use of electronic cigarettes is legal. As they are not considered a tobacco product, they can be displayed where on sale along with prices.       จำหน่ายได้ถูกกฏหมาย
In Italy, by a Health Ministry decree (G.U. Serie Generale, n. 248 del 23 ottobre 2012) electronic cigarettes containing nicotine cannot be sold to individuals under 16 years old.    จำหน่ายได้ถูกกฏหมายแต่ห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า16
In Norway electronic cigarettes and nicotine can only be imported from other EEA member states (e.g. the UK) for private use.
In Poland, the sale and use of electronic cigarettes are legal.     จำหน่ายได้ถูกกฏหมาย
In Portugal, the sale and use of electronic cigarettes are legal.       จำหน่ายได้ถูกกฏหมาย
In the United Kingdom, the use, sale and advertising of electronic cigarettes is legal. Electronic cigarettes are also allowed to be used inside pubs, coffee shops, etc. where the smoking of tobacco is illegal.
   จำหน่ายได้ถูกกฏหมาย แถมอังกฤษเค้าอณุญาติให้ดูดได้ในสถานที่ต่างๆที่ห้ามสูบบุหรี่่ด้วย เช่นบาร์ ร้านกาแฟ ในผับ และอื่นๆ

United States     จำหน่ายได้ถูกกฏหมายโดยส่วนมาก แต่อาจมีข้อจำกัด เงื่อนไขปลีกย่อย ตามรัฐต่างๆ
ส่วนในเอเชียก็มี จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฯฯ ที่จำหน่ายได้ตามกฏหมาย
คือคงไม่ต้องไปอ่านงานทางการแพทย์นะครับ เพราะเค้าออกเป็นกฏหมาย ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายของการยอมรับในนวัตกรรมใหม่ๆไปแล้ว แถมภาษีที่ได้จากบุหรี่ก็ต้องลดลงอีกต่างหาก  แต่เค้าก็ยังยอมรับ  


สุดท้าย       หาอ่านเพิ่มเติมเอาเองนะครับ  

ถ้าคุณไม่เคยสูบบุหรี่   อย่าริลองเด็ดขาด
ถ้าคุณยังพอเลิกได้    ก็เลิกซะ
ถ้าคุณไม่คิดเลิกบุหรี่      ก็กลับไปอ่านใหม่อีกรอบละกัน  
แล้วคุณอาจจะพบทางใหม่  ที่ดีกับคุณและใครใกล้ตัวๆ
แต่ไม่ใช่พวกชั้นบนของห่วงโซ่  ที่รอภาษีบาปจากคุณแน่นอน


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่