เมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 2013 ที่ผ่านมาเป็นวันที่วงการโทรศัพท์มือถือฉลอง “วันครบรอบ 40 ปี” พอดี ต้องยอมรับว่า เป็นอีกผลงานสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ที่มีความสำคัญที่สุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา จนต้องยกให้เป็น “เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก” อีกอย่างหนึ่งและมีแนวโน้มว่า มือถือจะยังมีพัฒนาการต่อไปอย่างไม่หยุดยิ่ง
ทั้งนี้ “Motorola DynaTAC ” เป็น “โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลก” ผลงานของ มาร์ติน คูเปอร์ วิศวกรอาวุโสแห่งบริษัทโมโตโรล่า ซึ่งปัจจุบันเขามีอายุได้ 85 ปีแล้วและได้รับการขนานนามว่า เป็น "บิดาแห่งโทรศัพท์มือถือ"
สำหรับมือถือรุ่นดังกล่าว เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 1973 มีขนาดยาว 10 นิ้ว สูง 9 นิ้ว และมีน้ำหนัก 1.13 กิโลกรัม สามารถโทรได้นาน 35 นาทีหลังชาร์จแบตประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งต่อมารุ่นที่วางจำหน่ายรุ่นแรกคือ DynaTAC 8000X ในอีก 10 ปีต่อมา (1873) โดยมีสนนราคาในขณะนั้นมากกว่า 1 แสนบาท
นับจากวันนั้นมากระทั่งปัจจุบัน “มือถือ” ยังคงมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย ทั้งการมีขนาดเล็กลง บางลง เบาลง หลากรูปแบบและพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้น ใช้งานได้สารพัดอย่าง ทั้งเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ถ่ายภาพและวีดีโอคมชัดเพิ่มขึ้น และมีการผสมผสานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เสริมเขี้ยวเล็บเพิ่มอย่างมากมาย ทั้งการช่วยค้นหาสถานที่ ช่วยค้นหาที่จอดรถ หรือช่วยวินิจฉัยโรค และติดตามสุขภาพร่างกายของผู้ใช้
อนาคตของมือถือ จึงยังคงเป็นเครื่องใช้คู่กายที่สำคัญต่อไป แม้ว่าเวลานี้เกือบทุกคนทั่วโลกได้พึ่งพาอุปกรณ์ชิ้นนี้เสมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ไปแล้วก็ตาม โดยจากข้อมูลของสหพันธ์การสื่อสารระหว่างประเทศ ปี 2012 พบว่า มีผู้จดทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกมากกว่า 6,000 ล้านราย ขณะที่ประชากรโลกเพิ่มเป็น 7,000 ล้านคน
นอกจากนี้ คาดว่ามือถือในอนาคตจะมีพัฒนาการไปหลากหลายรูปแบบ รวมถึงในรูปของอุปกรณ์สวมใส่ได้ เช่น นาฬิกาข้อมือหรือแว่นตาอัจฉริยะ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้กำลังมีบริษัทเทคโนโลยีหลายค่ายเดินหน้าพัฒนา อาทิ "กูเกิล" และ ล่าสุด "ไป่ตู้" ยักษ์ใหญ่เสิร์จเอนจิ้นสัญชาติจีนกำลังแข่งกันทำ “แว่นตาอัจฉริยะ” ส่วน "ซัมซุง" และ "แอปเปิล" กำลังพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะหรือ Smartwatch เป็นต้น
แต่ใครจะขายดีกว่ากันเป็นเรื่องของอนาคต ทว่าตอนนี้เรามาย้อนดูยอดขายมือถือในอดีต 40 ปีที่ผ่านมากันดีกว่าว่า ยี่ห้อใด รุ่นใดบ้าง เป็นที่นิยมและขายดีที่สุด ซึ่งทางเดลี่ เทเลกราฟ ได้จัด “ 20 อันดับมือถือขายดีที่สุดในโลก” ไว้ดังนี้คือ
20. Nokia 2850 เปิดตัวในปี 2004 ขายได้ 35 ล้านเครื่อง
19. iPhone 3GS ขายได้ 35 ล้านเครื่อง
17-18. Samsung Galaxy SII และ SIII ขายได้อย่างละ 40 ล้านเครื่อง
16. Nokia 6230 เปิดตัวในปี 2003 ขายได้ 50 ล้านเครื่อง
15. Nokia 3100 เปิดตัวในปี 2003 ขายได้เกินกว่า 50 ล้านเครื่อง
14. Motorola StarTAC เปิดตัวในปี 1996
13. Motorola C200
12. iPhone 4S เปิดตัวในปี 2011ขายได้ 60 ล้านเครื่อง
11. Nokia 5130 ขายได้ 65 ล้านเครื่อง
10. Nokia 6010
9. Nokia 1208 ขายได้ 100 เครื่อง
8. Nokia 1600 ขายได้ 130 ล้านเครื่อง
7. Motorola Razr V3
6. Nokia 2600
5. Nokia 3310 เปิดตัวในปี 2000
4. Nokia 5230 เปิดตัวให้ปี 2010 ขายได้ 150 ล้านเครื่อง
3. Nokia 1200 เปิดตัวในปี 2007 ขายได้ 150 ล้านเครื่อง
2. Nokia 3210
1. Nokia 1110 เปิดตัวในปี 2005 ขายได้ 250 ล้านเครื่อง
อันดับที่ไม่มีจำนวน คือ ยอดขายอยู่ระหว่างอันดับลดหลั่นกันไป
ดูเหมือนว่า “โนเกีย” จะเป็นแชมป์ในอดีต 40 ปีที่ผ่านมา แต่ต่อไปจะเป็นอะไรคงต้องติดตามกันต่อไป
เครดิต :
http://www.acnews.net/detailnews.php?news_id=N255601809
ปล.ถ้าซ้ำขออภัยนะครับ
.: ย้อน 40 ปี มือถือ "20 อันดับขายดีสุด" :.
ทั้งนี้ “Motorola DynaTAC ” เป็น “โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลก” ผลงานของ มาร์ติน คูเปอร์ วิศวกรอาวุโสแห่งบริษัทโมโตโรล่า ซึ่งปัจจุบันเขามีอายุได้ 85 ปีแล้วและได้รับการขนานนามว่า เป็น "บิดาแห่งโทรศัพท์มือถือ"
สำหรับมือถือรุ่นดังกล่าว เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 1973 มีขนาดยาว 10 นิ้ว สูง 9 นิ้ว และมีน้ำหนัก 1.13 กิโลกรัม สามารถโทรได้นาน 35 นาทีหลังชาร์จแบตประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งต่อมารุ่นที่วางจำหน่ายรุ่นแรกคือ DynaTAC 8000X ในอีก 10 ปีต่อมา (1873) โดยมีสนนราคาในขณะนั้นมากกว่า 1 แสนบาท
นับจากวันนั้นมากระทั่งปัจจุบัน “มือถือ” ยังคงมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย ทั้งการมีขนาดเล็กลง บางลง เบาลง หลากรูปแบบและพัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้น ใช้งานได้สารพัดอย่าง ทั้งเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ถ่ายภาพและวีดีโอคมชัดเพิ่มขึ้น และมีการผสมผสานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เสริมเขี้ยวเล็บเพิ่มอย่างมากมาย ทั้งการช่วยค้นหาสถานที่ ช่วยค้นหาที่จอดรถ หรือช่วยวินิจฉัยโรค และติดตามสุขภาพร่างกายของผู้ใช้
อนาคตของมือถือ จึงยังคงเป็นเครื่องใช้คู่กายที่สำคัญต่อไป แม้ว่าเวลานี้เกือบทุกคนทั่วโลกได้พึ่งพาอุปกรณ์ชิ้นนี้เสมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ไปแล้วก็ตาม โดยจากข้อมูลของสหพันธ์การสื่อสารระหว่างประเทศ ปี 2012 พบว่า มีผู้จดทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกมากกว่า 6,000 ล้านราย ขณะที่ประชากรโลกเพิ่มเป็น 7,000 ล้านคน
นอกจากนี้ คาดว่ามือถือในอนาคตจะมีพัฒนาการไปหลากหลายรูปแบบ รวมถึงในรูปของอุปกรณ์สวมใส่ได้ เช่น นาฬิกาข้อมือหรือแว่นตาอัจฉริยะ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้กำลังมีบริษัทเทคโนโลยีหลายค่ายเดินหน้าพัฒนา อาทิ "กูเกิล" และ ล่าสุด "ไป่ตู้" ยักษ์ใหญ่เสิร์จเอนจิ้นสัญชาติจีนกำลังแข่งกันทำ “แว่นตาอัจฉริยะ” ส่วน "ซัมซุง" และ "แอปเปิล" กำลังพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะหรือ Smartwatch เป็นต้น
แต่ใครจะขายดีกว่ากันเป็นเรื่องของอนาคต ทว่าตอนนี้เรามาย้อนดูยอดขายมือถือในอดีต 40 ปีที่ผ่านมากันดีกว่าว่า ยี่ห้อใด รุ่นใดบ้าง เป็นที่นิยมและขายดีที่สุด ซึ่งทางเดลี่ เทเลกราฟ ได้จัด “ 20 อันดับมือถือขายดีที่สุดในโลก” ไว้ดังนี้คือ
20. Nokia 2850 เปิดตัวในปี 2004 ขายได้ 35 ล้านเครื่อง
19. iPhone 3GS ขายได้ 35 ล้านเครื่อง
17-18. Samsung Galaxy SII และ SIII ขายได้อย่างละ 40 ล้านเครื่อง
16. Nokia 6230 เปิดตัวในปี 2003 ขายได้ 50 ล้านเครื่อง
15. Nokia 3100 เปิดตัวในปี 2003 ขายได้เกินกว่า 50 ล้านเครื่อง
14. Motorola StarTAC เปิดตัวในปี 1996
13. Motorola C200
12. iPhone 4S เปิดตัวในปี 2011ขายได้ 60 ล้านเครื่อง
11. Nokia 5130 ขายได้ 65 ล้านเครื่อง
10. Nokia 6010
9. Nokia 1208 ขายได้ 100 เครื่อง
8. Nokia 1600 ขายได้ 130 ล้านเครื่อง
7. Motorola Razr V3
6. Nokia 2600
5. Nokia 3310 เปิดตัวในปี 2000
4. Nokia 5230 เปิดตัวให้ปี 2010 ขายได้ 150 ล้านเครื่อง
3. Nokia 1200 เปิดตัวในปี 2007 ขายได้ 150 ล้านเครื่อง
2. Nokia 3210
1. Nokia 1110 เปิดตัวในปี 2005 ขายได้ 250 ล้านเครื่อง
อันดับที่ไม่มีจำนวน คือ ยอดขายอยู่ระหว่างอันดับลดหลั่นกันไป
ดูเหมือนว่า “โนเกีย” จะเป็นแชมป์ในอดีต 40 ปีที่ผ่านมา แต่ต่อไปจะเป็นอะไรคงต้องติดตามกันต่อไป
เครดิต : http://www.acnews.net/detailnews.php?news_id=N255601809
ปล.ถ้าซ้ำขออภัยนะครับ