วันนี้มีนัดกินข้าวเย็นกับฝรั่ง 2 คนที่มาเที่ยวเมืองไทย แฟนไปจองร้านไว้แล้ว เมื่อแฟนไปถึงร้านก็โทรหาผมว่าอยู่ไหนแล้ว ผมบอกว่ารถติดมาก คงอีกประมาณ 20 นาทีน่าจะถึง ถนนที่กำลังไปที่ร้านเป็นถนนเลนเดียวแคบๆ แต่มีทางเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด โดยต้องเลาะซ้ายลงไหล่ทางเพื่อเลี้ยว ส่วนผมต้องขับตรงไปครับ เลยต้องต่อแถวรถคันอื่นๆเพื่อค่อยๆกระดืบๆไป
ทีนี้มีรถเก๋งคันหนึ่งค่อยๆแอบซ้ายมาแล้วเปิดไฟขอทางเข้าแทรกผม แน่นอน ผมไม่ยอมครับ ผมรีบและผมรอไปตามคิวที่รอกันอยู่ รถคันดังกล่าวก็พยายามเบียดเข้ามาใกล้รถผมเรื่อยๆเพราะคันหลังที่ตามเขามาจะเลี้ยวซ้าย ผมบีบแตรเตือนว่ารถคุณมาเบียดรถผมมากแล้วนะ พอรถคันหน้าขยับ ผมก็ขยับตาม แหม รถคันนั้นก็พยายามเบียดรถผมจะแทรกให้ได้ แล้วก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์
เขา (อ้อ เป็นผู้ชายครับ หนุ่มรุ่นกระทงเลย ส่วนผมแก่แล้ว) เปิดกระจกรถออกแล้วก็ถามผมด้วยเสียงเรียบๆ .....ว่า....."พี่รีบเหรอ?" ดูอากัปกิริยาแล้ว ไม่ได้แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดอะไร คงสงสัยมากมั้งว่า ทำไมผมถึงไม่ยอมให้ทางเขา
ผมก็เปิดกระจกลงแล้วตอบไปว่า...."ใช่ ผมรีบมาก!" ผมพูดได้แค่นั้น แล้วรถก็เคลื่อนตัวผมก็ขับไปจนไปพบเพื่อนที่ร้านได้ทันเวลา
ผมมานึกๆดู อืม คนสมัยนี้เป็นอะไรกันมากนะ เห็นแก่ตัว โดย "ไม่รู้ตัว" จะมีสักกี่คนที่จะเปิดกระจกแล้วตั้งคำถามแบบนั้นกับใครๆเขาอีก
เฮ้อ....มาถามผมว่า "พี่รีบเหรอ?"
ทีนี้มีรถเก๋งคันหนึ่งค่อยๆแอบซ้ายมาแล้วเปิดไฟขอทางเข้าแทรกผม แน่นอน ผมไม่ยอมครับ ผมรีบและผมรอไปตามคิวที่รอกันอยู่ รถคันดังกล่าวก็พยายามเบียดเข้ามาใกล้รถผมเรื่อยๆเพราะคันหลังที่ตามเขามาจะเลี้ยวซ้าย ผมบีบแตรเตือนว่ารถคุณมาเบียดรถผมมากแล้วนะ พอรถคันหน้าขยับ ผมก็ขยับตาม แหม รถคันนั้นก็พยายามเบียดรถผมจะแทรกให้ได้ แล้วก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์
เขา (อ้อ เป็นผู้ชายครับ หนุ่มรุ่นกระทงเลย ส่วนผมแก่แล้ว) เปิดกระจกรถออกแล้วก็ถามผมด้วยเสียงเรียบๆ .....ว่า....."พี่รีบเหรอ?" ดูอากัปกิริยาแล้ว ไม่ได้แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดอะไร คงสงสัยมากมั้งว่า ทำไมผมถึงไม่ยอมให้ทางเขา
ผมก็เปิดกระจกลงแล้วตอบไปว่า...."ใช่ ผมรีบมาก!" ผมพูดได้แค่นั้น แล้วรถก็เคลื่อนตัวผมก็ขับไปจนไปพบเพื่อนที่ร้านได้ทันเวลา
ผมมานึกๆดู อืม คนสมัยนี้เป็นอะไรกันมากนะ เห็นแก่ตัว โดย "ไม่รู้ตัว" จะมีสักกี่คนที่จะเปิดกระจกแล้วตั้งคำถามแบบนั้นกับใครๆเขาอีก