*** ขอบคุณข้อมูลจาก "เวปเมเนเจอร์" และขอบคุณเจ้าของภาพประกอบในกระทู้ทุกภาพด้วยนะคะ ***
เริ่มต้นจากผู้กำกับ...คุณบรรเจิด พุทธโศภิษฐ์...
หลังโชว์ฝีมือกำกับละคร “ค่าของคน” และ “สายฟ้ากับสมหวัง” จนแฟนๆติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ล่าสุดผู้กำกับ “ตั้ม-บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์” ก็พร้อมส่งผลงานการกำกับเรื่องใหม่ “หัวใจเรือพ่วง” ละครรักร่วมสมัย ลงจอช่อง 5 ให้แฟนๆ ได้ชมกันแล้ว โดยได้พระเอกหนุ่มสุดฮอต “สน ส่งไพศาล” มาประกบคู่นางเอกสาว “แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล” อยากรู้เรื่องราวจะสนุกสนานเข้มข้นขนาดไหน? ไปฟังผกก.ตั้ม เล่า
“หัวใจเรือพ่วง เป็นละครเรื่องที่สี่แล้วครับที่มากำกับ จริงๆแล้วเรื่องจะมีทั้งพาร์ทที่เป็นโรแมนติกคอมมาดี้ อย่างฝั่งคู่ของสนและแป้ง แต่ทางฝั่งคู่เล็กอย่างสิงโตและยิปซีก็จะดราม่ามาก มีเรื่องมีราวมีความหลังฝังใจมาตลอด ก็จะต้องทำให้บาล้านซ์กัน เอาประสบการณ์จากที่เคยทำมาทั้งดราม่าจัดๆอย่างค่าของคน และทางคอมมาดี้อย่างสายฟ้ากับสมหวังและน้ำขึ้นให้รีบรัก มาใช้ ก็เป็นละครที่มีแง่คิดสอนอะไรค่อนข้างเยอะนะครับ ทั้งในเรื่องของความรักและครอบครัว เรื่องของการยอมรับความจริงหรือข้อผิดพลาดของคนเราที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอดีตที่ผ่านมาเสมอ
ส่วนนักแสดงที่คัดเลือกมาคู่แรกคือแป้งและสน สองคนนี้พอเค้ามาเล่นด้วยกันแล้วน่ารักดีนะ มีความยียวนกวนกันแบบไม่มีใครยอมใคร ออกมาดูแล้วน่ารัก ส่วนคู่ของสิงโตและยิปซีนี่ดีมากเลย น้องทั้งสองคนเป็นคนมีของ ทำการบ้านมาดี มีอะไรมาเล่นให้เราดู เล่นแล้วเราเชื่อเลย ส่วนน้องแกรนด์นี่ผมชอบมาก ไม่ผิดหวังที่เอาเค้ามาเล่นร้าย เพราะเค้าเล่นแล้วสวยสง่า ดูเป็นผู้ดีมาก ไม่ต้องบอกอะไรมากก็มาเต็มได้เลย นอกจากนี้ยังมีตัวละครอื่นๆที่มีบทบาทที่ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นพี่ดา-ชฎาพร, พี่กบ-ปภัสรา, พี่อ้อย-กาญจนา ที่มารับบทบาทแม่ของยิปซี, สิงโต และสน ทุกท่านเล่นออกมาได้น่าประทับใจมาก แม้แต่น้องปลาวาฬซึ่งอายุแค่หกขวบก็เก่งจำบทแม่น ทุกคนทำให้เรื่องนี้ออกมาซาบซึ้งมาก สอนอะไรได้เยอะในเรื่องสถาบันครอบครัวและความรักของแม่ เป็นผลงานอีกหนึ่งเรื่องที่ผมภูมิใจและชอบมาก ทีมงานทุกคนก็ตั้งใจพิถีพิถันกันสุดๆ อยากฝากให้ติดตามชมละคร “หัวใจเรือพ่วง” กันเยอะๆครับ”
ต่อกันด้วยพระ-นางคู่ 1 ของเรื่อง...คุณสน และคุณแป้ง...
สน ส่งไพศาล รับบท พิรภพ (พีท)
เจ้าของรีสอร์ทหนุ่ม ทำงานเก่ง เด็ดขาด เชื่อมั่นในตัวเองตามประสาคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม รักแม่ที่สุด การแต่งงานสำหรับเค้าจึงเป็นแค่สเต็ปหนึ่งของชีวิตที่ควรจะเป็นไป เค้าจึงมองหาแค่ผู้หญิงที่เหมาะสมเท่านั้น
“สำหรับเรื่องนี้สนเล่นเป็นพีท หรือพิรภพครับ เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ปากช่อง เป็นผู้ชายบ้างาน ไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิง จนวันนึงเรารู้ว่าแม่ป่วยหนัก เราก็เลยคิดแต่งงานแต่งการให้แม่มีความสุข เลยไปจีบนางเอกอีกคนในเรื่องก็คือยิปซี ซึ่งก็ไม่ได้รักเค้า แต่คิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นแม่ของลูกได้ แต่น้าของเค้าคือพี่แป้งไม่ชอบเรา เลยคอยกวนคอยกัดกันตลอด เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการเล่นละครแนวคอมมาดี้เรื่องแรกของสนเลยครับ ชอบมาก เวลาเล่นจะรู้สึกสนุกมากครับ ”
อรจิรา แหลมวิไล รับบท ธัณยธรณ์ (แพท)
แม่ม่ายสาวลูกติด ต้องเลี้ยงดูทั้งลูกและหลานสาวด้วยตัวคนเดียว จึงดูเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างแข็ง ปากกล้า ไม่กลัวใคร แต่เป็นคนที่ยึดถือเรื่องความกตัญญูมาก ยอมทิ้งความฝันในชีวิตของตัวเอง เพื่อตอบแทนบุญคุณพี่สาวที่เคยเลี้ยงตัวเองมาจึงยอมรับเลี้ยงหลานทั้งสอง รักและหวังดีกับหลานสาวอย่างแท้จริง เชื่อว่าการแต่งงานต้องมาจากความรัก ต้องยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของกันและกันไม่มีความลับต่อกัน
“เรื่องนี้เล่นเป็นผู้หญิงที่ต้องมานั่งรับภาระ ดูแลครอบครัวหนักมาก ทั้งลูกทั้งหลาน ต้องเล่นกับน้องปลาวาฬที่มาเล่นเป็นลูกด้วย ซึ่งชีวิตจริงแป้งเลี้ยงเด็กไม่เป็นเลย ไม่เคยเลี้ยงแม้แต่หลาน แต่ต้องมาเล่นมาเลี้ยงน้องปลาวาฬ ก็สนุกดีค่ะ ต้องคอยเดาอารมณ์ หลอกล่อด้วยขนมคอยลุ้นว่าเขาจะเหนื่อย ง่วงหรืองอแงไหม เท่ากับเรื่องนี้ แป้งเจอมาครบหมดแล้วทั้งสัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สลิง ส่วนการ่วมงานกับสนนั้นไม่มีปัญหาเลยค่ะ เราสนิทกันอยู่แล้ว เคยเจอกันเรื่องอื่นมาบ้าง ก็อยากฝากให้ติดตามกันเยอะๆ นะคะ มาดูกันว่าแป้งมีลูกแล้วจะเป็นยังไง”
(หัวใจเรือพ่วง) เปิดใจผู้กำกับและนักแสดง แถมภาพเบื้องหน้า-เบื้องหลังจากละครนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ
เริ่มต้นจากผู้กำกับ...คุณบรรเจิด พุทธโศภิษฐ์...
หลังโชว์ฝีมือกำกับละคร “ค่าของคน” และ “สายฟ้ากับสมหวัง” จนแฟนๆติดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ล่าสุดผู้กำกับ “ตั้ม-บรรเจิด พุทธโศภิษฐ์” ก็พร้อมส่งผลงานการกำกับเรื่องใหม่ “หัวใจเรือพ่วง” ละครรักร่วมสมัย ลงจอช่อง 5 ให้แฟนๆ ได้ชมกันแล้ว โดยได้พระเอกหนุ่มสุดฮอต “สน ส่งไพศาล” มาประกบคู่นางเอกสาว “แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล” อยากรู้เรื่องราวจะสนุกสนานเข้มข้นขนาดไหน? ไปฟังผกก.ตั้ม เล่า
“หัวใจเรือพ่วง เป็นละครเรื่องที่สี่แล้วครับที่มากำกับ จริงๆแล้วเรื่องจะมีทั้งพาร์ทที่เป็นโรแมนติกคอมมาดี้ อย่างฝั่งคู่ของสนและแป้ง แต่ทางฝั่งคู่เล็กอย่างสิงโตและยิปซีก็จะดราม่ามาก มีเรื่องมีราวมีความหลังฝังใจมาตลอด ก็จะต้องทำให้บาล้านซ์กัน เอาประสบการณ์จากที่เคยทำมาทั้งดราม่าจัดๆอย่างค่าของคน และทางคอมมาดี้อย่างสายฟ้ากับสมหวังและน้ำขึ้นให้รีบรัก มาใช้ ก็เป็นละครที่มีแง่คิดสอนอะไรค่อนข้างเยอะนะครับ ทั้งในเรื่องของความรักและครอบครัว เรื่องของการยอมรับความจริงหรือข้อผิดพลาดของคนเราที่สามารถเกิดขึ้นได้ในอดีตที่ผ่านมาเสมอ
ส่วนนักแสดงที่คัดเลือกมาคู่แรกคือแป้งและสน สองคนนี้พอเค้ามาเล่นด้วยกันแล้วน่ารักดีนะ มีความยียวนกวนกันแบบไม่มีใครยอมใคร ออกมาดูแล้วน่ารัก ส่วนคู่ของสิงโตและยิปซีนี่ดีมากเลย น้องทั้งสองคนเป็นคนมีของ ทำการบ้านมาดี มีอะไรมาเล่นให้เราดู เล่นแล้วเราเชื่อเลย ส่วนน้องแกรนด์นี่ผมชอบมาก ไม่ผิดหวังที่เอาเค้ามาเล่นร้าย เพราะเค้าเล่นแล้วสวยสง่า ดูเป็นผู้ดีมาก ไม่ต้องบอกอะไรมากก็มาเต็มได้เลย นอกจากนี้ยังมีตัวละครอื่นๆที่มีบทบาทที่ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นพี่ดา-ชฎาพร, พี่กบ-ปภัสรา, พี่อ้อย-กาญจนา ที่มารับบทบาทแม่ของยิปซี, สิงโต และสน ทุกท่านเล่นออกมาได้น่าประทับใจมาก แม้แต่น้องปลาวาฬซึ่งอายุแค่หกขวบก็เก่งจำบทแม่น ทุกคนทำให้เรื่องนี้ออกมาซาบซึ้งมาก สอนอะไรได้เยอะในเรื่องสถาบันครอบครัวและความรักของแม่ เป็นผลงานอีกหนึ่งเรื่องที่ผมภูมิใจและชอบมาก ทีมงานทุกคนก็ตั้งใจพิถีพิถันกันสุดๆ อยากฝากให้ติดตามชมละคร “หัวใจเรือพ่วง” กันเยอะๆครับ”
ต่อกันด้วยพระ-นางคู่ 1 ของเรื่อง...คุณสน และคุณแป้ง...
สน ส่งไพศาล รับบท พิรภพ (พีท)
เจ้าของรีสอร์ทหนุ่ม ทำงานเก่ง เด็ดขาด เชื่อมั่นในตัวเองตามประสาคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม รักแม่ที่สุด การแต่งงานสำหรับเค้าจึงเป็นแค่สเต็ปหนึ่งของชีวิตที่ควรจะเป็นไป เค้าจึงมองหาแค่ผู้หญิงที่เหมาะสมเท่านั้น
“สำหรับเรื่องนี้สนเล่นเป็นพีท หรือพิรภพครับ เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ปากช่อง เป็นผู้ชายบ้างาน ไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิง จนวันนึงเรารู้ว่าแม่ป่วยหนัก เราก็เลยคิดแต่งงานแต่งการให้แม่มีความสุข เลยไปจีบนางเอกอีกคนในเรื่องก็คือยิปซี ซึ่งก็ไม่ได้รักเค้า แต่คิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นแม่ของลูกได้ แต่น้าของเค้าคือพี่แป้งไม่ชอบเรา เลยคอยกวนคอยกัดกันตลอด เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการเล่นละครแนวคอมมาดี้เรื่องแรกของสนเลยครับ ชอบมาก เวลาเล่นจะรู้สึกสนุกมากครับ ”
อรจิรา แหลมวิไล รับบท ธัณยธรณ์ (แพท)
แม่ม่ายสาวลูกติด ต้องเลี้ยงดูทั้งลูกและหลานสาวด้วยตัวคนเดียว จึงดูเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างแข็ง ปากกล้า ไม่กลัวใคร แต่เป็นคนที่ยึดถือเรื่องความกตัญญูมาก ยอมทิ้งความฝันในชีวิตของตัวเอง เพื่อตอบแทนบุญคุณพี่สาวที่เคยเลี้ยงตัวเองมาจึงยอมรับเลี้ยงหลานทั้งสอง รักและหวังดีกับหลานสาวอย่างแท้จริง เชื่อว่าการแต่งงานต้องมาจากความรัก ต้องยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของกันและกันไม่มีความลับต่อกัน
“เรื่องนี้เล่นเป็นผู้หญิงที่ต้องมานั่งรับภาระ ดูแลครอบครัวหนักมาก ทั้งลูกทั้งหลาน ต้องเล่นกับน้องปลาวาฬที่มาเล่นเป็นลูกด้วย ซึ่งชีวิตจริงแป้งเลี้ยงเด็กไม่เป็นเลย ไม่เคยเลี้ยงแม้แต่หลาน แต่ต้องมาเล่นมาเลี้ยงน้องปลาวาฬ ก็สนุกดีค่ะ ต้องคอยเดาอารมณ์ หลอกล่อด้วยขนมคอยลุ้นว่าเขาจะเหนื่อย ง่วงหรืองอแงไหม เท่ากับเรื่องนี้ แป้งเจอมาครบหมดแล้วทั้งสัตว์ เด็ก เอฟเฟกต์ สลิง ส่วนการ่วมงานกับสนนั้นไม่มีปัญหาเลยค่ะ เราสนิทกันอยู่แล้ว เคยเจอกันเรื่องอื่นมาบ้าง ก็อยากฝากให้ติดตามกันเยอะๆ นะคะ มาดูกันว่าแป้งมีลูกแล้วจะเป็นยังไง”