เมื่อก่อนทำงานที่ภาคใต้ (เคยมีแฟนค่ะและแฟนไม่ใช่คนเที่ยวด้วยค่ะ)  ใช้บัตรประกันสังคมค่ะ แล้วที่ทำงานห้องน้ำไม่ค่อยสะอาด ตอนนั้นไม่เคยใช้ทิชชู่เลย(ตอนนั้นยังอายุไม่ถึง20ค่ะ ไม่ค่อยใส่ใจตัวเองเท่าไหร่) แล้ววันนึงมันก็เจ็บตรงร่มผ้า จนเดินไม่ได้ เพราะมันจะเสียดสีกัน ก็ไปหาหมอที่ รพ.แล้วบอกอาการให้เขาฟังค่ะ พยาบาลก็ให้ตรวจภายในด้วยเลย (หามะเร็งปากมดลูก) หมอผู้หญิงตรวจค่ะ แล้วหมอก็สรุปมาว่าไอ้ที่เป็นน่ะ เป็นเชื้อเดียวกับเริม มันติดเชื้อ หมอให้ยามาทานแล้วนัดฟังผลอีก1อาทิตย์ ซึ่งหมอถามไถ่อาการละเอียดมาก แต่ตอนนั้นไม่คิดว่ามันจะกลับมาอีก คิดว่าหายขาดค่ะ
พอมาปีนี้เมื่อวันที่23/05/56  ได้ไปหาหมอที่ รพ.บางนา1ค่ะ เพราะใช้ประกันสังคมที่นั่น ที่ทำงานเลือกให้ ก่อนหน้านั้น3วันได้มีอาการเดิมอีก แต่ไม่ใช่ที่เดิมค่ะเป็นตรงเนินๆ ซึ่งรุ้ตัวเองดีค่ะ ว่าอับชื้นแน่นอน(ช่วง ปจด มา)และนอนดึกด้วยเพราะเป็นตกขาวและใส่แผ่นอนามัยทุกวัน พอถึงคิวตรวจหมอ(ผู้ชาย)ให้ขึ้นเตียง ส่องไฟดูด้วยตาป่าว แล้วบอกว่าเป็นเริม ถามว่าเคยเป็นมั๊ย เราบอกว่าเคยเป็นค่ะ หมอถามทันทีเลยว่าแฟนเที่ยวมั๊ย ถามย้ำอยู่อย่างนั้น (เชื้อนี้ต้องติดจากผู้ชายอย่างเดียวเหรอคะ?) เราก็บอกว่าตอนนี้อยู่คนละที่กะแฟนไม่ได้มีไรกันบ่อยเลย โทรหาแฟนแฟนก็ว่าถ้าติดจากเค้าเค้าก็ต้องเป็นด้วยสิ แต่เขาไม่ได้เป็น(เขาสะอาดมากด้วย) เจอคำถามนี้อึ้งเลย หมอก็รีบมากๆๆ(ตรวจให้เสร็จๆ)ไม่ซักถามอย่างอื่นเลย เราบอกเป็นตกขาวด้วยตอนนั้น หมอก็ไม่ตรวจภายในให้แต่ให้ยาDoxyแค่2แผง และยาเริมให้กิน1อาทิตย์ และนัดติดตามผล  ตอนนี้สงสัยว่าเป็นหมอสูติโดยเฉพาะหรือป่าวคะ หรือเป็นหมออายุรกรรม เราควรจะไปหาคลีนิคเฉพาะทาง(แบบเสียเงิน)แบบนั้นเลยดีมั๊ยคะ