ตั้งแต่ประมาณเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว คุณแม่มีอาการปวดฟัน จนเคี้ยวอาหารไม่ค่อยได้ จึงไปหาคุณหมอที่คลินิคใกล้บ้านที่ดูน่าเชื่อถือ

ไปถึง คุณหมอก็ตรวจ รวมถึงให้ X-ray และบอกว่าเป็นอาการของ 'รากฟันตาย'  ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าให้รักษารากฟัน ใส่เดือย และครอบฟัน

ซึ่งราคามันค่อนข้างจะสูง แต่คุณแม่ก็ตัดสินใจรักษากับคุณหมอท่านนี้ เพราะคลินิคดูน่าเชื่อถือและอยากหายจากอาการปวด

หลังจากคุณแม่ไปรักษาอยู่หลายครั้งจนครบขั้นตอนการรักษา ปรากฎว่า อาการปวดฟันยังคงอยู่ คุณแม่ก็อดทน เพราะคิดว่าอีกซักพักน่าจะหาย

แต่จนปัจจุบัน อาการปวดฟันยังคงมีตลอด คุณแม่กินน้ำเย็นไม่ได้ เคี้ยวอาหารโดนฟันซี่ที่รักษาก็ไม่ได้

ช่วงแรก คุณแม่ก็กลับไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็รักษาโดยการกรอฟัน จนฟันซี่นั้นบาง แต่อาการก็ยังไม่หาย

จึงกลับไปหาคุณหมออีก แต่คุณหมอกลับบอกว่า มันไม่เกี่ยวกับรากฟันซี่ที่รักษาไป เพราะรากฟันซี่นั้นตายแล้ว

คุณหมอพยายามบอกว่าเป็นเพราะฟันด้านบนไปกระทบถูก จึงทำให้ปวด และพยายามจะให้ทำฟันด้านบนอีก ซึ่งแน่นอนว่าเสียค่ารักษา

แต่คุณแม่ไม่ยอมทำแล้ว ฟันที่อยู่ในสภาพปกติ ถ้าไปทำอะไรมันอีก ละฟันซี่นั้นกลายเป็นอะไรขึ้นมา มันไม่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่หรอ

ทำไมการบริการหลังการเสียเงินรักษามันกลายเป็นแบบนี้ไปซะแล้ว



     จากการหาข้อมูล รวมถึงความรู้สึกของคุณแม่... ถ้ารากฟันตายจริงๆ มันน่าจะไม่มีความรู้สึกไม่ใช่หรอคะ? หรือเข้าใจผิดไปกันเอง?

ตอนนี้ คุณแม่ปวดฟันซี่นั้นอยู่ตลอด เสียเงินไปเป็นหมื่นเพื่ออยากจะรักษาให้อาการปวดหายไป แต่กลับมาเจอแบบนี้

แทนที่คุณหมอน่าจะช่วยดูให้ละเอียดกว่านี้ว่าด้านในฟันที่ทำอาจจะเป็นอะไรรึเปล่า จะได้รักษาได้ถูกต้อง

คนไข้ที่ไปหาคุณหมอ ก็หวังแต่อยากจะให้หายเจ็บป่วยทั้งนั้นไม่ใช่หรอคะ แต่การที่คุณหมอทำแบบนี้ กลับเป็นการยิ่งเพิ่มความทุกข์ให้คนไข้

เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก แต่อาการยังเหมือนเดิม.... ไม่ทราบว่าพอจะทำอะไรได้บ้างไหมคะ หรือต้องเสียเงินไปรักษาใหม่จริงๆ