VIDEO
คำร้อง : ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
เรียบเรียงเสียงประสาน : ศักดิ์ชาย เล็กวงษ์เดิม
ขับร้อง : สุภัทรา อินทรภักดี
อัลบั้ม ไหมไทย รังสรรค์วันสวย
หวีดๆ วอนๆ อ้อนออดโอยมา...โอ้อนิจจาอ่อนอาลัย
เหมันต์ครวญคลั่งฟังคล้ายเสียงใคร..เสียงใครครวญใคร่ ร้องไปร่ำไปในสายลม
หลับตื่นคืนวัน หวาดหวั่นรัญจวน...โอ้ลมหวนอวลป่วนอารมณ์
เหมันต์กระหน่ำตำคล้ายเข็มคม..สักแทงโศกซม เจ็บเหลือจะข่มแล้วกรรมเวร
หวีดวอนคลอนทรวง...ล้วงหาใจคว้านไปค้นไป คงได้แต่ไร้เหลือเดน
โอ้อสุราคว้าหัวใจฉันไปดูเล่น แล้วโยนกระเด็นลอยร้างรา
อย่ากลับมาเลย..อย่ากลับมาเลย โอ้ลมหนาวเอยอย่าเลยมา
ฉันคงตายเมื่อลมเหนือพัดพา..หอบอดีตมา ปล้นขวัญฟันฆ่าไร้ปรานี
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=342421
กรองแก้ว ยอดยาใจคุณชายหมอ ต้องผ่านมรสุมชีวิตใช่น้อย แต่ก็รอดปากเหยี่ยวปากกามาครองคู่กับชายสามในท้ายสุด
เปรียบดังเหมันตฤดู ที่หนาวเหน็บเจ็บถึงทรวง ให้รัญจวนป่วนจิตทุกข์ระทม มาบัดนี้ย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ สิ่งดีๆก็มาแทนที่เรื่องร้ายๆที่ผ่านไป
ฉากทำอาหารในวังจุฑาเทพ นางเอกสำแดงเสน่ห์ปลายจวักให้เป็นที่ประจักษ์ได้ นะจังงัง ระหว่างทำหมี่กรอบ ถ่ายดีมากแบบหมึกแดง ผสมพลนักปรุง ดูแล้วน่ารับประทาน นางเอกมีทักษะไม่ใช้สแตนอิน แถมบอกเคล็ดลับจริงเป็นช่วงๆ ตามแบบอาหารชาววัง และมีแกงรัญจวน ที่ไม่ได้อธิบายไว้ ขอยกมาไว้ดังนี้
แกงรัญจวน
ตำรับ ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์
เครื่องปรุง
เนื้อวัว
น้ำพริกกะปิอย่างจิ้มผัก ตำไว้ถ้วยโตๆ
ตะไคร้หั่นฝอย
หอม กระเทียม
ใบโหระพา
วิธีทำ
ปอกหอมเล็ก ปอกกระเทียม ใช้ทั้งกลีบไม่ต้องหั่น
ใส่ต้มรวมลงไปกับหม้อเนื้อ
เนื้อเปื่อยดีแล้ว เทน้ำพริกกะปิรวมลงในหม้อ
ชิมให้ได้ 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวาน
รสจัดๆได้ที่แล้ว ยกลงใส่ใบโหระพา
ไม่เปรี้ยวบีบมะนาวเติม ต้องกินกำลังร้อนโฉ่
ถ้าไม่กินเนื้อ จะแกงด้วยหมู่ ไก่ กุ้ง ย่อมได้
(เนื่อง นิลรัตน์,ม.ล. 2537 : 46,60)
ในสมัยโบราณนั้น ท่านจะไม่ทิ้งอาหาร(ไม่กินทิ้ง กินขว้าง) น้ำพริกกะปิที่ท่าน ม.ล.เนื่อง นำมาปรุงแกงรัญจวน
ก็ใช้น้ำพริกกะปิถ้วยเก่า ที่เหลือจากการกินในมื้อก่อนๆ
(หากใครว่าน้ำพริกถ้วยเก่าน่าเบื่อ ชะรอยคงไร้ทักษะในการพลิกแพลง ดีแต่ย้ำอยู่กับที่ หรือดีแต่กินอย่างเดียว ไม่ช่วยปรับปรุงแต่อย่างใด)
รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ร่วมกับไข่เจียวกากหมู มะม่วงสับ จะเพิ่มความอร่อยได้มาก
http://www.oknation.net/blog/yaya2508/2013/05/01/entry-1
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4838.45
เรื่องนี้ลงทุนฉากใหญ่ถึงสองฉาก คือ
ฉากประกวดนางสาวศรีสยาม
ฉากงานเลี้ยงท่านชายเกริก
ฉากเต้นรำ ณ งานเลี้ยงท่านชายเกริก ถ่ายทำตัดต่อ ได้ดีมากกว่าคุณชายธราธรแบบหนังคนละม้วน ดูลื่นไหลเข้ากับบทสนทนาและเพลงที่บรรเลง ทำให้ผู้ชมหรรษ์รมย์ ไม่น้อย ราวกับซินเดอเรลล่าเต้นรำกับเจ้าชายมิปาน
พระเอก นางเอก แสดงออกทางสายตาได้ดี ไม่เหม่อลอย ตาปรือ ไม่เสียแรงของครูฝึกการแสดงและผู้กำกับ
ช่วงท้ายเรื่องอาจดูรวบรัดไปบ้าง แต่ก็เก็บความได้ดี ไม่ขาดแกว่งจนเกินไปตามข้อจำกัด
ละครชุดนี้การแต่งหน้าตัวเอก แต่งหน้าได้ดีมาก ดูเด่น อ่อนวัย มากว่าตัวละครรองๆ ในเรื่องนั้นๆ แม้แต่ทรงผม เสื้อผ้าก็ต่างกัน
สาระสำคัญที่ชายสามได้กระทำโดยวิสัยสุภาพบุรุษ ต่อสตรีอันเป็นที่รัก โดยมีการผู้สมัครรักใคร่ตามธรรมเนียมอินเดียโบราณ แบบนี้เรียกว่า
คนธรรพวิวาห์ หรือ คานธรรพวิวาหะ (คานฺธรฺววิวาห) คือ การวิวาห์โดยความพึงพอใจของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ที่จะได้เสียกันเองโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากญาติของฝ่ายหญิง พูดง่ายๆ ว่าเป็นการแต่งงานโดย วิธีลัด หรือ “วิวาห์เหาะ”
เป็นหนึ่งในการแต่งทั้ง ๘ แบบ ตามคัมภีร์มนูธรรมศาสตร์ และนิทานเวตาล เรื่องที่ ๑๕ (เวตาลปัญจวิงศติ สันสกฤต: वेतालपञ्चविंशति)
http://www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=31&wpid=0037
http://www.larnbuddhism.com/vetal/15.html
มีการจดทะเบียนสมรส โดยความสมยอม และไปขอขมาพ่อตา เพราะไปผิดผี ที่ไม่ได้บอกกล่าวพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อน ด้วยสาวเจ้า มีพ่อแม่เลี้ยงดูด้วยความรักและห่วงใย มิใช่เกิดจากระบอกไม้ไผ่ หรือเป็นข้าวนอกนาแต่อย่างใด
เมื่อพ่อตาให้อภัย อโหสิกรรมให้ การละเมิดศีลข้อสามกาเม ย่อมตกไป ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาช้านานในแถบนี้ สำหรับบ้านใดที่ต้องการชายที่เข้าตามตรอก ออกทางประตู และเห็นแก่หน้าตาวงศ์ตระกูลทั้งสองฝ่าย มิใช่แบบสำนวนที่ว่า รถไฟ เรือเมล์ ยี่เก ตำรวจ
ความรักของพระนางคู่นี้ ต่างไม่ยอมเผยความนัยแก่กันง่ายๆ ต้องตีความ แปลความเป็นเนืองๆไป ตรงกับบทเพลงฝรั่งอมตะ เพลงนี้
VIDEO
Fly Me to the Moon (In Other Words)
Words and music by:Bart Howard (1954)
Vocal Claire Littley
Orchestra arrangement was by Toshi Omori
Album Neon Genesis Evangelion - OST1
Fly me to the moon
And let me play among the stars
Let me see what spring is like
On Jupiter and Mars
In other words, hold my hand
In other words, darling kiss me
Fill my heart with song
And let me sing forevermore
You are all I long for
All I worship and adore
In other words, please be true
In other words, I love you
นำฉันโบยบินสู่ดวงจันทร์
ให้ฉันได้ร้องร่ายกลางหมู่ดาว
ให้ฉันได้เห็นฤดูใบไม้ผลิ
บนดาวพฤหัสและอังคาร
แปลความว่า โปรดกุมมือฉัน
แปลความว่า ที่รัก โปรดจุมพิตฉัน
เติมใจฉันด้วยบทเพลง
ให้ฉันร้องบรรเลงไปชั่วกาล
เธอคือคนที่ฉันรอคอยมาเนิ่นนาน
ด้วยใจรัก ภักดีแลบูชา
แปลความว่า โปรดมั่นคงจริงใจต่อฉัน
แปลความว่า ฉันรักเธอ
อ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Fly_me_to_the_moon
http://bluewhaleguild.exteen.com/20080922/fly-me-to-the-moon
http://symposium74.wordpress.com/2009/05/13/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89/
ฝากเพลงนี้แก่หมอ ยศวิน ผู้มีมุธิตาจิตแก่พระนาง
VIDEO
รักเอาบุญ
คำร้อง : ชอุ่ม ปัญจพรรค์ / ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
เรียบเรียง : กิตติคุณ สดประเสริฐ
บรรเลง : วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ (BSO)
ขับร้อง : นรอรรถ จันทร์กล่ำ
อัลบั้ม : บีเอสโอบรรเลงสุนทราภรณ์
มาถึงชายสี่ วิศวกรโยธา แต่มาดเหมือนจอมพราน อลัน ควอเตอร์เมน บางขณะ สะพายปืนยาวหรู แบบคานเหวี่ยง ยิงแม่น และไม่ลังเลราวกับว่า วิศวกรเป็นงานอดิเรก จีบสาวเป็นงานรอง กำลังสร้างตำนานรักข้ามฝั่งโขง กับกุหลาบแห่งเวียงภูคำ นามว่าเจ้านางสร้อยฟ้า แต่สาวเจ้ารู้เล่ห์หนุ่มเมืองกรุง ดั่งที่ปรากฏในเพลงอมตะในอดีต คือ
VIDEO
กุหลาบเวียงพิงค์ พ.ศ.2500
คำร้อง-ทำนอง วงจันทร์ ไพโรจน์
กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกนี้บ่มีเจ้าของ
เพิ่งแรกแย้มบ่มีไผจอง เป็นเจ้าของครองใจเด็ดดม
ส่งกลิ่นอบอวล ยั่วยวนหัวใจไปตามสายลม
เปิ้นทั่วแคว้นแดนไทยหมายชม สมเป็นกุหลาบเวียงเหนือ
กุหลาบเมืองไหน ทั่วดินแคว้นในแดนสยาม
ยังบ่เทียมเทียบเท่าความงาม เปรียบดังสาวชาวพิงค์งามเหลือ
บ่ได้แต่งเติม เสริมส่งไว้ลวงให้ใครหลงเชื่อ
ปากบ่แดงแป้งบ่ได้เจือ คิ้วบ่ได้เถือดินสอ
กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกนี้สวยจริงเจ้าเอ๋ย
ยังบ่มีผู้ใดไหนเลย มาโลมเล้าเอาไปพะนอ
ด้วยสาวชาวพิงค์ กลัวบ่ฮักจริงของชายรูปหล่อ
กลัวเสียนักกลัวคำป้อยอ กลัวน้ำตาหล่อรินทรวง
หมู่เฮาชาวเหนือ อย่าไปเชื่อเชียวหนอคำชาย
เดี๋ยวจะต้องเจ็บช้ำใจตาย เปิ้นเมืองใต้พูดจาหลอกลวง
หากเปิ้นได้เฮา เปิ้นคงทิ้งเฮาน้ำตาไหลร่วง
หากหลงลมคงโดนหลอกลวง ช้ำทรวงเหมือนดั่งบัวบาน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moresaw&month=30-10-2011&group=6&gblog=43
ขณะจีบนางเอก ก็ยังมีแม่หญิงจันทาไว้ในใจ ตามภาษาพ่อพวงมาลัย ปากว่ามือถึง หากจะถามว่ารักใครมากกว่ากัน
อาจได้คำตอบแบบเดียวกับจะเด็ด ความว่า
"ข้ารักจันทราด้วยใจภักดิ์ และรักกุสุมาด้วยใจปอง"
หลังจากตอบแล้วอาจโดนหน้าไม้คอมโปสิค เจาะกบาลได้ง่ายๆ เพราะเจ้านางทรงปืน(อาวุธยิง)ได้แม่นราวกับจับวาง
นางเอกดูขาว หมวย ไม่แปลกแต่อย่างใด เพราะเชื้อพระวงศ์เวียงภูคำ มักเกี่ยวดองกับทางเชียงรุ่ง สิบสองปันนา หรือ เชียงตุง ไทใหญ่ แบบเครือญาติ
แต่ไม่น่าจะดองกับสกุลต้วน แห่งต้าหลี่ แต่อย่างใด ไม่เช่นนั้นคงใช้ ดัชนีเอกสุริยัน กระบี่หกชีพจร แทนหน้าไม้ไปแล้ว
เรื่องนี้เลือกตัวละครได้ดี หน้าแบบคนพื้นที่ ไม่มีเกาหลี ฝรั่งหลงถิ่น แต่งหน้าสมจริง แต่มีขนตางอนเล็กน้อย
ภาษาพูด พยายามกันดี ตั้งใจมากโดยเฉพาะนางเอก ทำให้เสียงนุ่มน่าฟังด้วยเหน่อเล็กน้อย มากกว่าสำเนียงภาคกลาง
คิวบู๊ ดุเดือดกว่าเรื่องที่ผ่านมา นางเอกบู๊หลายฉาก แบบเจ้านางเลอขิ่ง ถ่ายได้ดี นึกว่าจะมีเข่าลอยแบบจาพนม ในบางฉาก
หวังว่าจะมีระเบิดภูเขาเผากระท่อม กันตลอดเรื่อง นางเอกมีกระบอกไม้ไผ่ ไว้ช่วยฟังเสียงฝีเท้า ไม่ได้ล้าสมัยแต่อย่างใด
การเดินเรื่องช่วงแรก เร็วทันใจ แต่เริ่มเนิบตอนเข้าพระเข้านาง
มุมกล้อง ฉากพิราบส่งสาสน์ ถ่ายดีมาก เห็นหมู่บ้านวลาหกจากมุมสูง
เรื่องนี้มีปมให้คลายไม่น้อย จากชื่อและสกุลพระเอกที่พ้องกับคำทำนาย ดีที่มีการอธิบายช่วยทำให้ผู้ชมเข้าใจได้มากขึ้น
แถมมีคนมาร่วมกลุ่มแก้ปัญหาจำนวนมาก คงต้องติดตามต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ
ปล.แถมท้ายด้วยบทเพลง ต่อพระนางคู่นี้เพราะต้องบุกดงผจญพนา เสียส่วนใหญ่จนผูกพันธ์
(เฉกเช่น อ้ายเสมากับแม่หญิงเรไร ในขุนศึก ที่ฝากรักกันบนนาวารัก กลางสระปทุม)
VIDEO
เพลงเงาไม้ เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "ลูกทุ่ง" ของ บริษัท"ไทยฟิล์ม" เมื่อ พ.ศ. 2483
ประพันธ์คำร้องโดย พระยาโกมารกุลมนตรี
ทำนอง โดย หม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์
ขับร้อง รัดเกล้า อามระดิษ
ดนตรี Bangkok Symphony Orchestra
สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายรัชชานนท์ มนต์รักข้ามฝั่งโขง
คำร้อง : ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ
ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
เรียบเรียงเสียงประสาน : ศักดิ์ชาย เล็กวงษ์เดิม
ขับร้อง : สุภัทรา อินทรภักดี
อัลบั้ม ไหมไทย รังสรรค์วันสวย
หวีดๆ วอนๆ อ้อนออดโอยมา...โอ้อนิจจาอ่อนอาลัย
เหมันต์ครวญคลั่งฟังคล้ายเสียงใคร..เสียงใครครวญใคร่ ร้องไปร่ำไปในสายลม
หลับตื่นคืนวัน หวาดหวั่นรัญจวน...โอ้ลมหวนอวลป่วนอารมณ์
เหมันต์กระหน่ำตำคล้ายเข็มคม..สักแทงโศกซม เจ็บเหลือจะข่มแล้วกรรมเวร
หวีดวอนคลอนทรวง...ล้วงหาใจคว้านไปค้นไป คงได้แต่ไร้เหลือเดน
โอ้อสุราคว้าหัวใจฉันไปดูเล่น แล้วโยนกระเด็นลอยร้างรา
อย่ากลับมาเลย..อย่ากลับมาเลย โอ้ลมหนาวเอยอย่าเลยมา
ฉันคงตายเมื่อลมเหนือพัดพา..หอบอดีตมา ปล้นขวัญฟันฆ่าไร้ปรานี
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=342421
กรองแก้ว ยอดยาใจคุณชายหมอ ต้องผ่านมรสุมชีวิตใช่น้อย แต่ก็รอดปากเหยี่ยวปากกามาครองคู่กับชายสามในท้ายสุด
เปรียบดังเหมันตฤดู ที่หนาวเหน็บเจ็บถึงทรวง ให้รัญจวนป่วนจิตทุกข์ระทม มาบัดนี้ย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ สิ่งดีๆก็มาแทนที่เรื่องร้ายๆที่ผ่านไป
ฉากทำอาหารในวังจุฑาเทพ นางเอกสำแดงเสน่ห์ปลายจวักให้เป็นที่ประจักษ์ได้ นะจังงัง ระหว่างทำหมี่กรอบ ถ่ายดีมากแบบหมึกแดง ผสมพลนักปรุง ดูแล้วน่ารับประทาน นางเอกมีทักษะไม่ใช้สแตนอิน แถมบอกเคล็ดลับจริงเป็นช่วงๆ ตามแบบอาหารชาววัง และมีแกงรัญจวน ที่ไม่ได้อธิบายไว้ ขอยกมาไว้ดังนี้
แกงรัญจวน
ตำรับ ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์
เครื่องปรุง
เนื้อวัว
น้ำพริกกะปิอย่างจิ้มผัก ตำไว้ถ้วยโตๆ
ตะไคร้หั่นฝอย
หอม กระเทียม
ใบโหระพา
วิธีทำ
ปอกหอมเล็ก ปอกกระเทียม ใช้ทั้งกลีบไม่ต้องหั่น
ใส่ต้มรวมลงไปกับหม้อเนื้อ
เนื้อเปื่อยดีแล้ว เทน้ำพริกกะปิรวมลงในหม้อ
ชิมให้ได้ 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวาน
รสจัดๆได้ที่แล้ว ยกลงใส่ใบโหระพา
ไม่เปรี้ยวบีบมะนาวเติม ต้องกินกำลังร้อนโฉ่
ถ้าไม่กินเนื้อ จะแกงด้วยหมู่ ไก่ กุ้ง ย่อมได้
(เนื่อง นิลรัตน์,ม.ล. 2537 : 46,60)
ในสมัยโบราณนั้น ท่านจะไม่ทิ้งอาหาร(ไม่กินทิ้ง กินขว้าง) น้ำพริกกะปิที่ท่าน ม.ล.เนื่อง นำมาปรุงแกงรัญจวน
ก็ใช้น้ำพริกกะปิถ้วยเก่า ที่เหลือจากการกินในมื้อก่อนๆ
(หากใครว่าน้ำพริกถ้วยเก่าน่าเบื่อ ชะรอยคงไร้ทักษะในการพลิกแพลง ดีแต่ย้ำอยู่กับที่ หรือดีแต่กินอย่างเดียว ไม่ช่วยปรับปรุงแต่อย่างใด)
รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ร่วมกับไข่เจียวกากหมู มะม่วงสับ จะเพิ่มความอร่อยได้มาก
http://www.oknation.net/blog/yaya2508/2013/05/01/entry-1
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4838.45
เรื่องนี้ลงทุนฉากใหญ่ถึงสองฉาก คือ
ฉากประกวดนางสาวศรีสยาม
ฉากงานเลี้ยงท่านชายเกริก
ฉากเต้นรำ ณ งานเลี้ยงท่านชายเกริก ถ่ายทำตัดต่อ ได้ดีมากกว่าคุณชายธราธรแบบหนังคนละม้วน ดูลื่นไหลเข้ากับบทสนทนาและเพลงที่บรรเลง ทำให้ผู้ชมหรรษ์รมย์ ไม่น้อย ราวกับซินเดอเรลล่าเต้นรำกับเจ้าชายมิปาน
พระเอก นางเอก แสดงออกทางสายตาได้ดี ไม่เหม่อลอย ตาปรือ ไม่เสียแรงของครูฝึกการแสดงและผู้กำกับ
ช่วงท้ายเรื่องอาจดูรวบรัดไปบ้าง แต่ก็เก็บความได้ดี ไม่ขาดแกว่งจนเกินไปตามข้อจำกัด
ละครชุดนี้การแต่งหน้าตัวเอก แต่งหน้าได้ดีมาก ดูเด่น อ่อนวัย มากว่าตัวละครรองๆ ในเรื่องนั้นๆ แม้แต่ทรงผม เสื้อผ้าก็ต่างกัน
สาระสำคัญที่ชายสามได้กระทำโดยวิสัยสุภาพบุรุษ ต่อสตรีอันเป็นที่รัก โดยมีการผู้สมัครรักใคร่ตามธรรมเนียมอินเดียโบราณ แบบนี้เรียกว่า
คนธรรพวิวาห์ หรือ คานธรรพวิวาหะ (คานฺธรฺววิวาห) คือ การวิวาห์โดยความพึงพอใจของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ที่จะได้เสียกันเองโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากญาติของฝ่ายหญิง พูดง่ายๆ ว่าเป็นการแต่งงานโดย วิธีลัด หรือ “วิวาห์เหาะ”
เป็นหนึ่งในการแต่งทั้ง ๘ แบบ ตามคัมภีร์มนูธรรมศาสตร์ และนิทานเวตาล เรื่องที่ ๑๕ (เวตาลปัญจวิงศติ สันสกฤต: वेतालपञ्चविंशति)
http://www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=31&wpid=0037
http://www.larnbuddhism.com/vetal/15.html
มีการจดทะเบียนสมรส โดยความสมยอม และไปขอขมาพ่อตา เพราะไปผิดผี ที่ไม่ได้บอกกล่าวพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อน ด้วยสาวเจ้า มีพ่อแม่เลี้ยงดูด้วยความรักและห่วงใย มิใช่เกิดจากระบอกไม้ไผ่ หรือเป็นข้าวนอกนาแต่อย่างใด
เมื่อพ่อตาให้อภัย อโหสิกรรมให้ การละเมิดศีลข้อสามกาเม ย่อมตกไป ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาช้านานในแถบนี้ สำหรับบ้านใดที่ต้องการชายที่เข้าตามตรอก ออกทางประตู และเห็นแก่หน้าตาวงศ์ตระกูลทั้งสองฝ่าย มิใช่แบบสำนวนที่ว่า รถไฟ เรือเมล์ ยี่เก ตำรวจ
ความรักของพระนางคู่นี้ ต่างไม่ยอมเผยความนัยแก่กันง่ายๆ ต้องตีความ แปลความเป็นเนืองๆไป ตรงกับบทเพลงฝรั่งอมตะ เพลงนี้
Fly Me to the Moon (In Other Words)
Words and music by:Bart Howard (1954)
Vocal Claire Littley
Orchestra arrangement was by Toshi Omori
Album Neon Genesis Evangelion - OST1
Fly me to the moon
And let me play among the stars
Let me see what spring is like
On Jupiter and Mars
In other words, hold my hand
In other words, darling kiss me
Fill my heart with song
And let me sing forevermore
You are all I long for
All I worship and adore
In other words, please be true
In other words, I love you
นำฉันโบยบินสู่ดวงจันทร์
ให้ฉันได้ร้องร่ายกลางหมู่ดาว
ให้ฉันได้เห็นฤดูใบไม้ผลิ
บนดาวพฤหัสและอังคาร
แปลความว่า โปรดกุมมือฉัน
แปลความว่า ที่รัก โปรดจุมพิตฉัน
เติมใจฉันด้วยบทเพลง
ให้ฉันร้องบรรเลงไปชั่วกาล
เธอคือคนที่ฉันรอคอยมาเนิ่นนาน
ด้วยใจรัก ภักดีแลบูชา
แปลความว่า โปรดมั่นคงจริงใจต่อฉัน
แปลความว่า ฉันรักเธอ
อ้างอิง http://en.wikipedia.org/wiki/Fly_me_to_the_moon
http://bluewhaleguild.exteen.com/20080922/fly-me-to-the-moon
http://symposium74.wordpress.com/2009/05/13/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89/
ฝากเพลงนี้แก่หมอ ยศวิน ผู้มีมุธิตาจิตแก่พระนาง
รักเอาบุญ
คำร้อง : ชอุ่ม ปัญจพรรค์ / ทำนอง : เอื้อ สุนทรสนาน
เรียบเรียง : กิตติคุณ สดประเสริฐ
บรรเลง : วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ (BSO)
ขับร้อง : นรอรรถ จันทร์กล่ำ
อัลบั้ม : บีเอสโอบรรเลงสุนทราภรณ์
มาถึงชายสี่ วิศวกรโยธา แต่มาดเหมือนจอมพราน อลัน ควอเตอร์เมน บางขณะ สะพายปืนยาวหรู แบบคานเหวี่ยง ยิงแม่น และไม่ลังเลราวกับว่า วิศวกรเป็นงานอดิเรก จีบสาวเป็นงานรอง กำลังสร้างตำนานรักข้ามฝั่งโขง กับกุหลาบแห่งเวียงภูคำ นามว่าเจ้านางสร้อยฟ้า แต่สาวเจ้ารู้เล่ห์หนุ่มเมืองกรุง ดั่งที่ปรากฏในเพลงอมตะในอดีต คือ
กุหลาบเวียงพิงค์ พ.ศ.2500
คำร้อง-ทำนอง วงจันทร์ ไพโรจน์
กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกนี้บ่มีเจ้าของ
เพิ่งแรกแย้มบ่มีไผจอง เป็นเจ้าของครองใจเด็ดดม
ส่งกลิ่นอบอวล ยั่วยวนหัวใจไปตามสายลม
เปิ้นทั่วแคว้นแดนไทยหมายชม สมเป็นกุหลาบเวียงเหนือ
กุหลาบเมืองไหน ทั่วดินแคว้นในแดนสยาม
ยังบ่เทียมเทียบเท่าความงาม เปรียบดังสาวชาวพิงค์งามเหลือ
บ่ได้แต่งเติม เสริมส่งไว้ลวงให้ใครหลงเชื่อ
ปากบ่แดงแป้งบ่ได้เจือ คิ้วบ่ได้เถือดินสอ
กุหลาบเวียงพิงค์ ดอกนี้สวยจริงเจ้าเอ๋ย
ยังบ่มีผู้ใดไหนเลย มาโลมเล้าเอาไปพะนอ
ด้วยสาวชาวพิงค์ กลัวบ่ฮักจริงของชายรูปหล่อ
กลัวเสียนักกลัวคำป้อยอ กลัวน้ำตาหล่อรินทรวง
หมู่เฮาชาวเหนือ อย่าไปเชื่อเชียวหนอคำชาย
เดี๋ยวจะต้องเจ็บช้ำใจตาย เปิ้นเมืองใต้พูดจาหลอกลวง
หากเปิ้นได้เฮา เปิ้นคงทิ้งเฮาน้ำตาไหลร่วง
หากหลงลมคงโดนหลอกลวง ช้ำทรวงเหมือนดั่งบัวบาน
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moresaw&month=30-10-2011&group=6&gblog=43
ขณะจีบนางเอก ก็ยังมีแม่หญิงจันทาไว้ในใจ ตามภาษาพ่อพวงมาลัย ปากว่ามือถึง หากจะถามว่ารักใครมากกว่ากัน
อาจได้คำตอบแบบเดียวกับจะเด็ด ความว่า
"ข้ารักจันทราด้วยใจภักดิ์ และรักกุสุมาด้วยใจปอง"
หลังจากตอบแล้วอาจโดนหน้าไม้คอมโปสิค เจาะกบาลได้ง่ายๆ เพราะเจ้านางทรงปืน(อาวุธยิง)ได้แม่นราวกับจับวาง
นางเอกดูขาว หมวย ไม่แปลกแต่อย่างใด เพราะเชื้อพระวงศ์เวียงภูคำ มักเกี่ยวดองกับทางเชียงรุ่ง สิบสองปันนา หรือ เชียงตุง ไทใหญ่ แบบเครือญาติ
แต่ไม่น่าจะดองกับสกุลต้วน แห่งต้าหลี่ แต่อย่างใด ไม่เช่นนั้นคงใช้ ดัชนีเอกสุริยัน กระบี่หกชีพจร แทนหน้าไม้ไปแล้ว
เรื่องนี้เลือกตัวละครได้ดี หน้าแบบคนพื้นที่ ไม่มีเกาหลี ฝรั่งหลงถิ่น แต่งหน้าสมจริง แต่มีขนตางอนเล็กน้อย
ภาษาพูด พยายามกันดี ตั้งใจมากโดยเฉพาะนางเอก ทำให้เสียงนุ่มน่าฟังด้วยเหน่อเล็กน้อย มากกว่าสำเนียงภาคกลาง
คิวบู๊ ดุเดือดกว่าเรื่องที่ผ่านมา นางเอกบู๊หลายฉาก แบบเจ้านางเลอขิ่ง ถ่ายได้ดี นึกว่าจะมีเข่าลอยแบบจาพนม ในบางฉาก
หวังว่าจะมีระเบิดภูเขาเผากระท่อม กันตลอดเรื่อง นางเอกมีกระบอกไม้ไผ่ ไว้ช่วยฟังเสียงฝีเท้า ไม่ได้ล้าสมัยแต่อย่างใด
การเดินเรื่องช่วงแรก เร็วทันใจ แต่เริ่มเนิบตอนเข้าพระเข้านาง
มุมกล้อง ฉากพิราบส่งสาสน์ ถ่ายดีมาก เห็นหมู่บ้านวลาหกจากมุมสูง
เรื่องนี้มีปมให้คลายไม่น้อย จากชื่อและสกุลพระเอกที่พ้องกับคำทำนาย ดีที่มีการอธิบายช่วยทำให้ผู้ชมเข้าใจได้มากขึ้น
แถมมีคนมาร่วมกลุ่มแก้ปัญหาจำนวนมาก คงต้องติดตามต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ
ปล.แถมท้ายด้วยบทเพลง ต่อพระนางคู่นี้เพราะต้องบุกดงผจญพนา เสียส่วนใหญ่จนผูกพันธ์
(เฉกเช่น อ้ายเสมากับแม่หญิงเรไร ในขุนศึก ที่ฝากรักกันบนนาวารัก กลางสระปทุม)
เพลงเงาไม้ เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "ลูกทุ่ง" ของ บริษัท"ไทยฟิล์ม" เมื่อ พ.ศ. 2483
ประพันธ์คำร้องโดย พระยาโกมารกุลมนตรี
ทำนอง โดย หม่อมหลวงพวงร้อย สนิทวงศ์
ขับร้อง รัดเกล้า อามระดิษ
ดนตรี Bangkok Symphony Orchestra