เพิ่งย้ายบ้านจากบ้านนอกมาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น เล่นระดับที่คุณแม่ซื้อไว้นานแล้ว จะพาลูกมาเรียนในเมืองก็เลยพากันย้ายมา 3 พ่อ-แม่-ลูก เพิ่งย้ายมาได้เดือนเดียว

หลังบ้านเป็นบริเวณซักล้าง มุงหลังคาเหล็ก รั้วก่ออิฐบล็อคและมีประตูเหล็กเปิดออกไปซอยหลังบ้านได้ ก่อนนี้นอกรั้วมีเถาวัลย์ขึ้นกำแพงจนรกแต่ก็ตัดทิ้งไปเมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อนแล้ว

ตั้งแต่ย้ายเข้ามา คุณตุ๊กแกเจ้าที่ตัวโตก็ร้องทักทายทุกเช้าทุกเย็น วันไหนอากาศร้อนๆตอนดึกๆมันก็ร้อง ทุกเช้าเมียผมต้องมาเปิดน้ำล้างขี้ตุ๊กแกที่มันถ่ายทิ้งไว้เป็นที่ระลึกบนพื้นหลังบ้าน กลิ่นเหม็นพอสมควร

เคยได้ยินเรื่องงูเขียวกินตับตุ๊กแกอยู่บ้าง แต่ก็คิดว่าบ้านในเมืองคงไม่มีงูละมั้ง ปรากฎว่าเช้านี้ ผมกำลังนั่งทำงานเมียก็โทรมากรี๊ดว่า งูเขียวกำลังสู้กับตุ๊กแกอยู่บนพื้นนั่นเอง ตุ๊กแกกำลังกัดคองูเขียวอยู่ ผมเลยปลอบใจไปว่าเดี๋ยวงูเขียวมันกินตับตุ๊กแกแล้วมันก็จะแยกย้ายกันไปเอง คิดไม่ออกว่างูเขียวใช่ช่องทางไหนเข้ามาโจมตีตุ๊กแกได้ถึงถิ่น

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมียโทรมากรี๊ดอีก บอกว่าตอนนี้งูกลืนหัวตุ๊กแกเข้าไปแล้ว เอาละสิ มามุขนี้ ผมคิดต่อไปว่า งูเขียวมันตัวไม่โต ถ้าได้กลืนตุ๊กแกตัวโตลงท้องไป มันคงเลื้อยไปไม่ไหวแน่ น่าจะต้องนอนตีพุงอยู่แบบนั้นเป็นวันๆ ใครคงไม่กล้าออกไปหลังบ้านแน่ๆ

ก็เลยเดือดร้อนหน่วยกู้ภัย มาเอางูพุงป่องที่เขมือบตุ๊กแกตัวโตลงพุงไปซะ

ก็ได้แต่ทึ่งว่า กลางเมืองแบบนี้ยังมีงูเขียวอยู่ในระบบนิเวศน์ แถมยังเป็นระดับชั้นหนึ่งในห่วงโซ่อาหารอีกด้วย

ดีใจนิดหน่อยที่ตุ๊กแกไม่อยู่แล้ว แต่คิดแล้วก็สยองว่าในเมืองแบบนี้ยังมีงูมาล่าเหยื่อให้เห็น

เล่าสู่กันฟังครับ