และแล้วแมตช์สุดท้ายของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ก็จบลงอย่างเป็นทางการเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วนะครับ หลายๆ ทีมประสบความสำหรับตามเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ แต่หลายๆ ทีมก็ต้องผิดหวัง ทั้งที่ก็ทำผลงานได้เป็นที่น่าประทับใจ แต่สุดท้ายบางครั้ง ในเกมการแข่งขัน ถึงคุณจะทำได้ดีแค่ไหน ลูกฟุตบอลกลมๆ ไม่สามารถการันตีความสำเร็จให้คุณได้เสมอไป
แมตช์สุดท้ายของการแข่งขัน ผมได้รับเกียรติและมีโอกาสไปร่วมงานฉลองแชมป์ของแมนฯ ยูฯ ที่ทางสยามสปอร์ตฯ จัดขึ้น อยากขอบคุณและดีใจมากครับที่ให้เด็กผีอย่างผมมีส่วนร่วมในความประทับใจครั้งนี้ถึงแม้ว่าผลสกอร์ในแมตช์นี้ของแมนฯ ยูฯจะค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่ก็ตาม ถ้าเป็นแบบนี้ช่วงกลางฤดูกาลคงจะต้องมีคนเส้นเลือดในสมองแตกกันบ้าง 555 ...นำอยู่5-2 โดน เวสต์บรอมวิช เปลี่ยนปืนสั้นเป็นปืนกลรัวใส่ช่วงท้ายเกม 3 ลูกรวด!เป็นผลให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตามตีเสมอแมนฯ ยูฯ ในแมตช์สุดท้ายที่บ้านของตัวเองไปได้ และเป็นสกอร์ส่งท้ายการคุมทีมของเฟอร์กี้อย่างเป็นทางการ ด้วยตัวเลขแห่งความฮา 55...
บทสรุปของการฟาดฟันบนถนนสายพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2012 - 2013 นี้ เป็นดังนี้ครับ แมนฯ ยูฯ คว้าแชมป์ไปอย่างรวดเร็วก่อนจบฤดูกาลถึง 5 นัดเก็บไป 89 คะแนน ...ถามว่าแมนฯ ยูฯ ฤดูกาลนี้ผลงานดีรึเปล่า? ในสายตาของป๋า ป๋าเคยบอกว่า แมนฯ ยูฯ ชุดนี้ดีที่สุด และที่สำคัญ ป๋าเคยบอกถึงว่า ดีกว่าชุดที่คว้าทริปเปิลแชมป์เมื่อปี1999 อีกด้วย นี่คือความคิดเห็นของป๋าผู้สร้างและผสมผสานรวมตัวนักเตะชุดนี้ขึ้นมา
ผมเชื่อว่าก็มีอีกหลายๆ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ในสายตาผม ผมมองว่าดีจริง แต่ยังไม่สุดเนื่องจากความผิดพลาดหลายๆ อย่างของนักเตะบางคนที่เห็นได้เด่นชัด จนส่งผลกระทบต่อทีม (ในบางแมตช์) แผงกองหลังที่ยังดูไม่ค่อยลงตัวและเสียประตูแบบง่ายมากๆ ในช่วงหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วก็ยังได้เกมรุกและการจบสกอร์ที่ดี ช่วยให้ทีมเอาตัวรอดได้เสมอมา
ในฤดูกาลนี้ผมยังรู้สึกว่าโชคอันเบ้อเร้อเท่อเข้าข้าง แมนฯ ยูฯ ด้วยซ้ำนะครับที่สามารถคว้าแชมป์มาได้เนื่องจากคู่แข่งที่โคตรน่ากลัวสำหรับผมอย่าง แมนฯ ซิตี้ และเชลซี ที่ได้อันดับ 2 และ 3 ตามลำดับนั้น ออกอาการ "แพ้ภัยตัวเอง" ค่อนข้างเยอะ
ทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ น่ากลัว เพราะว่ามีตัวผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวดีแทบจะทั้งทีม และนักเตะตัวจริงกับตัวสำรองสามารถทดแทนกันได้อย่างไม่เหลื่อมล้ำ ทำให้การเล่นฟุตบอลในหลายๆ รายการพร้อมๆ กันของเรือใบสีฟ้าไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่ในเรื่องของขุมกำลังที่มีอยู่ในทีม ...
แต่ที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้น่าจะเป็นเรื่องของผลงานโดยรวมมากกว่าครับ เพราะฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้จะหนักไปทางเสมอซะส่วนใหญ่ ทำให้แต้มไล่กดดันแมนฯ ยูฯได้ไม่เต็มที่ จึงได้จบแค่อันดับ 2 แต้มห่างจากอันดับ 1 อย่างแมนฯ ยูฯ ถึง 11 คะแนน และเป็นที่มาของการปลดกุนซือมาดเนี้ยบอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ อีกด้วย ...
ส่วน เชลซี จบอันดับ 3 ที่ 75 คะแนน ...สิงโตน้ำเงินครามนี่ก็เป็นอีกทีมนึงครับที่ทำผลงานโดยรวมได้น่าผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะมีเกมรุกที่ดุดัน ลื่นไหล แบบโหมใส่ไม่ยั้ง จากนักเตะอย่าง มาต้า, ออสการ์ และ อาซาร์ ก็ตาม
ผมมองว่า นักเตะ 3 คนนี้จะเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเชลซีในอนาคตอย่างแน่นอน และ 3 ตัวจี๊ดนี้ได้ทำให้เกมรุกของเชลซีเปลี่ยนสไตล์ไปจากเดิมอยู่เหมือนกันนะครับ ตำแหน่งแดนกลางที่เคยผูกขาดกับนักเตะอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ดมานาน มันก็ต้องถึงเวลาสั่นคลอนกันบ้างและการเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก ดิ มัตเตโอ เป็น ราฟาเอล เบนิเตซ ในช่วงกลางฤดูกาลของเชลซีนั้นส่งผลกระทบกับฟอร์มการเล่นของทีมพอสมควร ไหนจะอีกปัญหาหนึ่งของกองหน้าค่าตัวแพงอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ฟอร์มการถล่มประตูฝืดไปอย่างหน้าใจหาย สาเหตุพวกนี้จึงทำให้เชลซีไม่สยดสยองอย่างที่ควรจะเป็นครับ
มาถึงโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าที่แย่งกันมาตลอดระหว่าง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล กับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่เพิ่งเฉือนกันไปในแมตช์สุดท้ายของฤดูกาลเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
อาร์เซน่อล เป็นผู้คว้าโควตานั้นไป และจบที่อันดับ 4 มี 73 คะแนน ส่วนสเปอร์สนั้นจบที่อันดับ 5 มี 72คะแนน ...โดยรวมแล้ว ผมมองว่าฤดูกาลนี้ สเปอร์ส อยู่เหนือ อาร์เซน่อล อยู่เล็กน้อยนะครับ แต่ อาร์เซน่อลมีสุดยอดขงเบ้งอย่าง เวนเกอร์ ที่สามารถพาทีมไปสู่เป้าหมายได้อยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าฟอร์มจะกระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง
ด้วยอายุเฉลี่ยทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อลนั้นยังน้อย จึงทำให้ทีมดูไม่ค่อยนิ่งนักเมื่อเจอเกมใหญ่ๆ และด้วยผู้เล่นในตำแหน่งตัวจริงและตัวสำรองที่ยังไม่สามารถทดแทนกันได้อย่างสมดุลจึงทำให้ยอดกุนซืออย่างเวนเกอร์ ต้องคอยตามแก้ปัญหานี้กันต่อไป
ส่วน สเปอร์ส เป็นทีมที่คึกคักเสมอเวลาลงเล่นและคึกคักเสมอเมื่อมีชื่อของ แกเร็ธ เบล ในเกม ฤดูกาลนี้เป็นซีซั่นของเบลอย่างแท้จริง เล่นตำแหน่งปีกซ้ายแต่กดไปถึง 21 ประตู พาไก่เดือยทองคว้าชัยชนะมานับไม่ถ้วน แต่ข้อเสียของสเปอร์สที่ยังแก้ไม่หายคือ แพ้กับแมตช์ที่ไม่ควรแพ้อยู่หลายครั้ง ...และผมเชื่อว่าแฟนๆ ไก่หลายๆ คนคงเจ็บปวดกับการพลาดไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าของทีมอยู่ไม่น้อย
ส่วนทีมแถบเมอร์ซี่ย์ไซด์อย่าง เอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล นั้น ได้อันดับ 6 และ 7 ตามลำดับครับมาถึงทีมที่ตกชั้นกันบ้าง 3 ทีมดังนี้ วีแกน 36 แต้ม, เร้ดดิ้ง 28 แต้ม, ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 25 แต้ม และทีมที่จะเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้าได้แก่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และ ฮัลล์ ซิตี้ ครับ ส่วนอีกทีมก็รอเพลย์ออฟเลื่อนชั้น
เมื่อซีซั่นนี้จบลงก็มีเรื่องที่สำคัญและลืมไม่ได้อีกเช่นกัน สำหรับเหล่าแฟนๆ ปีศาจแดง นั่นก็คือการรีไทร์ที่ยิ่งใหญ่ของ 3 ผู้ทรงคุณค่าในโลกฟุบอลได้แก่ เฟอร์กี้, พอล สโคลส์ และ เดวิด เบ็คแฮม
เฟอร์กี้ คงไม่ต้องพูดถึงว่าบรรยากาศการอำลานั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน ส่วน พอล สโคลส์ คงถึงเวลาแล้วครับที่นักเตะคนนี้ต้องแขวนสตั๊ดจริงๆ ซักที หลังจากที่โชว์สปิริตกลับมาช่วยทีมตามคำขอของป๋า และสุดท้ายเมื่อไม่นานมานี้ ...นักเตะที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดกับ 4 ประเทศอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้ว
สุดท้ายนี้ขออวยพรให้ทั้ง 3 ชีวิตที่หันหลังให้กับ พื้นหญ้านุ่มๆ สีเขียวๆ ที่พวกเขาคุ้นเคยนั้น จงโชคดีและอยากบอกว่า "พวกคุณคือตำนาน ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดไป" ...รักคนอ่านนะครับ
[บทความผีแดง 2013-05-26] สิ้นสุดฤดูกาล & ตำนานผี (โดยเกรท วรินทร์ - นักแสดงช่อง 3 แฟนพันธ์แท้ปีศาจแดง ตั้งแต่ยุคก๊องโต้)
แมตช์สุดท้ายของการแข่งขัน ผมได้รับเกียรติและมีโอกาสไปร่วมงานฉลองแชมป์ของแมนฯ ยูฯ ที่ทางสยามสปอร์ตฯ จัดขึ้น อยากขอบคุณและดีใจมากครับที่ให้เด็กผีอย่างผมมีส่วนร่วมในความประทับใจครั้งนี้ถึงแม้ว่าผลสกอร์ในแมตช์นี้ของแมนฯ ยูฯจะค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่ก็ตาม ถ้าเป็นแบบนี้ช่วงกลางฤดูกาลคงจะต้องมีคนเส้นเลือดในสมองแตกกันบ้าง 555 ...นำอยู่5-2 โดน เวสต์บรอมวิช เปลี่ยนปืนสั้นเป็นปืนกลรัวใส่ช่วงท้ายเกม 3 ลูกรวด!เป็นผลให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตามตีเสมอแมนฯ ยูฯ ในแมตช์สุดท้ายที่บ้านของตัวเองไปได้ และเป็นสกอร์ส่งท้ายการคุมทีมของเฟอร์กี้อย่างเป็นทางการ ด้วยตัวเลขแห่งความฮา 55...
บทสรุปของการฟาดฟันบนถนนสายพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2012 - 2013 นี้ เป็นดังนี้ครับ แมนฯ ยูฯ คว้าแชมป์ไปอย่างรวดเร็วก่อนจบฤดูกาลถึง 5 นัดเก็บไป 89 คะแนน ...ถามว่าแมนฯ ยูฯ ฤดูกาลนี้ผลงานดีรึเปล่า? ในสายตาของป๋า ป๋าเคยบอกว่า แมนฯ ยูฯ ชุดนี้ดีที่สุด และที่สำคัญ ป๋าเคยบอกถึงว่า ดีกว่าชุดที่คว้าทริปเปิลแชมป์เมื่อปี1999 อีกด้วย นี่คือความคิดเห็นของป๋าผู้สร้างและผสมผสานรวมตัวนักเตะชุดนี้ขึ้นมา
ผมเชื่อว่าก็มีอีกหลายๆ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป ในสายตาผม ผมมองว่าดีจริง แต่ยังไม่สุดเนื่องจากความผิดพลาดหลายๆ อย่างของนักเตะบางคนที่เห็นได้เด่นชัด จนส่งผลกระทบต่อทีม (ในบางแมตช์) แผงกองหลังที่ยังดูไม่ค่อยลงตัวและเสียประตูแบบง่ายมากๆ ในช่วงหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วก็ยังได้เกมรุกและการจบสกอร์ที่ดี ช่วยให้ทีมเอาตัวรอดได้เสมอมา
ในฤดูกาลนี้ผมยังรู้สึกว่าโชคอันเบ้อเร้อเท่อเข้าข้าง แมนฯ ยูฯ ด้วยซ้ำนะครับที่สามารถคว้าแชมป์มาได้เนื่องจากคู่แข่งที่โคตรน่ากลัวสำหรับผมอย่าง แมนฯ ซิตี้ และเชลซี ที่ได้อันดับ 2 และ 3 ตามลำดับนั้น ออกอาการ "แพ้ภัยตัวเอง" ค่อนข้างเยอะ
ทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ น่ากลัว เพราะว่ามีตัวผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวดีแทบจะทั้งทีม และนักเตะตัวจริงกับตัวสำรองสามารถทดแทนกันได้อย่างไม่เหลื่อมล้ำ ทำให้การเล่นฟุตบอลในหลายๆ รายการพร้อมๆ กันของเรือใบสีฟ้าไม่ส่งผลกระทบเท่าไหร่ในเรื่องของขุมกำลังที่มีอยู่ในทีม ...
แต่ที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้น่าจะเป็นเรื่องของผลงานโดยรวมมากกว่าครับ เพราะฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้จะหนักไปทางเสมอซะส่วนใหญ่ ทำให้แต้มไล่กดดันแมนฯ ยูฯได้ไม่เต็มที่ จึงได้จบแค่อันดับ 2 แต้มห่างจากอันดับ 1 อย่างแมนฯ ยูฯ ถึง 11 คะแนน และเป็นที่มาของการปลดกุนซือมาดเนี้ยบอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ อีกด้วย ...
ส่วน เชลซี จบอันดับ 3 ที่ 75 คะแนน ...สิงโตน้ำเงินครามนี่ก็เป็นอีกทีมนึงครับที่ทำผลงานโดยรวมได้น่าผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะมีเกมรุกที่ดุดัน ลื่นไหล แบบโหมใส่ไม่ยั้ง จากนักเตะอย่าง มาต้า, ออสการ์ และ อาซาร์ ก็ตาม
ผมมองว่า นักเตะ 3 คนนี้จะเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเชลซีในอนาคตอย่างแน่นอน และ 3 ตัวจี๊ดนี้ได้ทำให้เกมรุกของเชลซีเปลี่ยนสไตล์ไปจากเดิมอยู่เหมือนกันนะครับ ตำแหน่งแดนกลางที่เคยผูกขาดกับนักเตะอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ดมานาน มันก็ต้องถึงเวลาสั่นคลอนกันบ้างและการเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก ดิ มัตเตโอ เป็น ราฟาเอล เบนิเตซ ในช่วงกลางฤดูกาลของเชลซีนั้นส่งผลกระทบกับฟอร์มการเล่นของทีมพอสมควร ไหนจะอีกปัญหาหนึ่งของกองหน้าค่าตัวแพงอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ฟอร์มการถล่มประตูฝืดไปอย่างหน้าใจหาย สาเหตุพวกนี้จึงทำให้เชลซีไม่สยดสยองอย่างที่ควรจะเป็นครับ
มาถึงโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้าที่แย่งกันมาตลอดระหว่าง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล กับ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่เพิ่งเฉือนกันไปในแมตช์สุดท้ายของฤดูกาลเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
อาร์เซน่อล เป็นผู้คว้าโควตานั้นไป และจบที่อันดับ 4 มี 73 คะแนน ส่วนสเปอร์สนั้นจบที่อันดับ 5 มี 72คะแนน ...โดยรวมแล้ว ผมมองว่าฤดูกาลนี้ สเปอร์ส อยู่เหนือ อาร์เซน่อล อยู่เล็กน้อยนะครับ แต่ อาร์เซน่อลมีสุดยอดขงเบ้งอย่าง เวนเกอร์ ที่สามารถพาทีมไปสู่เป้าหมายได้อยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าฟอร์มจะกระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง
ด้วยอายุเฉลี่ยทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อลนั้นยังน้อย จึงทำให้ทีมดูไม่ค่อยนิ่งนักเมื่อเจอเกมใหญ่ๆ และด้วยผู้เล่นในตำแหน่งตัวจริงและตัวสำรองที่ยังไม่สามารถทดแทนกันได้อย่างสมดุลจึงทำให้ยอดกุนซืออย่างเวนเกอร์ ต้องคอยตามแก้ปัญหานี้กันต่อไป
ส่วน สเปอร์ส เป็นทีมที่คึกคักเสมอเวลาลงเล่นและคึกคักเสมอเมื่อมีชื่อของ แกเร็ธ เบล ในเกม ฤดูกาลนี้เป็นซีซั่นของเบลอย่างแท้จริง เล่นตำแหน่งปีกซ้ายแต่กดไปถึง 21 ประตู พาไก่เดือยทองคว้าชัยชนะมานับไม่ถ้วน แต่ข้อเสียของสเปอร์สที่ยังแก้ไม่หายคือ แพ้กับแมตช์ที่ไม่ควรแพ้อยู่หลายครั้ง ...และผมเชื่อว่าแฟนๆ ไก่หลายๆ คนคงเจ็บปวดกับการพลาดไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าของทีมอยู่ไม่น้อย
ส่วนทีมแถบเมอร์ซี่ย์ไซด์อย่าง เอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล นั้น ได้อันดับ 6 และ 7 ตามลำดับครับมาถึงทีมที่ตกชั้นกันบ้าง 3 ทีมดังนี้ วีแกน 36 แต้ม, เร้ดดิ้ง 28 แต้ม, ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 25 แต้ม และทีมที่จะเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้าได้แก่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และ ฮัลล์ ซิตี้ ครับ ส่วนอีกทีมก็รอเพลย์ออฟเลื่อนชั้น
เมื่อซีซั่นนี้จบลงก็มีเรื่องที่สำคัญและลืมไม่ได้อีกเช่นกัน สำหรับเหล่าแฟนๆ ปีศาจแดง นั่นก็คือการรีไทร์ที่ยิ่งใหญ่ของ 3 ผู้ทรงคุณค่าในโลกฟุบอลได้แก่ เฟอร์กี้, พอล สโคลส์ และ เดวิด เบ็คแฮม
เฟอร์กี้ คงไม่ต้องพูดถึงว่าบรรยากาศการอำลานั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน ส่วน พอล สโคลส์ คงถึงเวลาแล้วครับที่นักเตะคนนี้ต้องแขวนสตั๊ดจริงๆ ซักที หลังจากที่โชว์สปิริตกลับมาช่วยทีมตามคำขอของป๋า และสุดท้ายเมื่อไม่นานมานี้ ...นักเตะที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดกับ 4 ประเทศอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้ว
สุดท้ายนี้ขออวยพรให้ทั้ง 3 ชีวิตที่หันหลังให้กับ พื้นหญ้านุ่มๆ สีเขียวๆ ที่พวกเขาคุ้นเคยนั้น จงโชคดีและอยากบอกว่า "พวกคุณคือตำนาน ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดไป" ...รักคนอ่านนะครับ