อึ้ง!'หมวดน๊อด'สารภาพถูกหลอกเชิดเงินยังไม่ได้เป็นทหาร....................... ข่าวขำๆ เอามาฝากมาร์ค มีสาวอยากเป็นทหาร

อึ้ง!'หมวดน๊อด'สารภาพถูกหลอกเชิดเงินยังไม่ได้เป็นทหาร



อึ้ง "หมวดน๊อด" นายทหารสาวสวยที่โด่งดังในโลกอินสตาแกรม ยอมรับ ไม่ได้เป็นทหาร เผยถูกนายทหารหลอกเรียกรับเงินแสนวิ่งเต้น ขณะแก๊งรับฝากเชิดเงินแยกย้ายหนีหาย วอนสังคมให้อภัยไม่มีเจตนาใช้เครื่องแบบในทางเสียหายแค่ทำตามฝันพ่อเท่านั้น...

วันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีผู้ร้องเรียนไปยังกองทัพบกกล่าวหาว่า ร้อยตรีหญิง ปิยมาภรณ์ ดวงอาจ หรือ หมวดน๊อด ไม่ใช่ทหารจริง ล่าสุดกองทัพบก ได้มีการตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีชื่อ ร.ต.หญิงปิยมาภรณ์ อยู่ในทะเบียนกำลังพลของ ทบ. แต่ในอินสตาแกรม(IG) ส่วนตัว(notto_n) อ้างว่า เป็น ทหารหญิงสังกัด สำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ.) และช่วยราชการสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้บอกกล่าวกับคนที่รู้จักส่วนตัวมาตลอดกว่า 2 ปี จนทุกคนเชื่อว่า เป็นทหารหญิงจริง เนื่องจากรู้จักนายทหารระดับสูงในกองทัพและผู้คนในแวดวงทหาร ล่าสุดวันนี้ น.ส.ปิยมาภรณ์ ยอมรับแล้วว่า ไม่ใช่ทหาร

น.ส.ปิยมาภรณ์ เล่าที่มาของเรื่องดังกล่าวว่า บิดาที่อยู่ศรีสะเกษ มีความหวังต้องการให้ลูกสาวคนเดียวได้เป็นทหารจึงไปวิ่งเต้นกับนายทหาร ที่อยู่กับ อดีตนายทหารระดับ พล.อ.สังกัดกระทรวงกลาโหม และได้ไปขอร้องนายทหารในทีมของ พล.อ.รายดังกล่าว ทั้งชายและหญิง โดยมีผู้หญิงรายหนึ่งเป็นผู้ประสานงานให้อีกที พร้อมเรียกเงินไปหลายแสนบาท โดยอ้างว่าต้องวิ่งเต้น จ่ายหลายที่ ต้องให้ทีมเอกสารที่ กองบัญชาการกองทัพไทย ดำเนินการให้ในการเข้าสมัครเป็นทหารบก

น.ส.ปิยมาภรณ์ กล่าวต่อว่า ได้นำเอกสารหลักฐาน การเรียนจบรัฐศาสตร์รามคำแหง ไปให้กับทหารที่ บก.กองทัพไทยหลายครั้งจนได้รับคำยืนยันว่าได้เป็นทหารแน่นอน โดยเข้าสังกัดที่สำนักงานเลขานุการกองทัพก่อน จากนั้นก็รอการเรียกตัวอย่างเป็นทางการ ที่ผ่านมาบิดาได้ไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องมา เพื่อมาจ่ายวิ่งเต้นให้เป็นทหาร แต่รอจนข้ามปี จนบิดาอาการมะเร็งกำเริบ และเสียชีวิตไปก่อน

“คุณพ่อตายอย่างสบายใจ เพราะท่านหมดห่วง เพราะคิดว่า มีงานทหารทำแล้ว ได้เป็นทหารแน่ พ่ออยากให้เป็นทหารมาก เพราะเราเป็นคนบ้านนอก เวลาเห็นนายทหารก็อยากให้ลูกเป็นทหาร แต่พ่อมีลูกสาวคนเดียว ไม่มีลูกชาย ก็อยากให้เป็นทหาร ก็เลยไปวิ่งเต้น ส่วนตัวเองก็อยากเป็น อยากแต่งเครื่องแบบ แต่เมื่อรออยู่นานหลายเดือน ทวงถามไป ทางทีมที่รับเงินไป และเป็นทหารทั้งชายและหญิง ก็เรียกตัวมากรุงเทพฯ แล้วบอกว่าให้มาทำงานเป็นทหารเลย จัดหาเครื่องแบบทหารบก ยศร้อยตรี ให้สวมใส่ แล้วให้ไปทำงาน เวลามีผู้ใหญ่ไปงานสังคมเช่น ทำบุญในต่างจังหวัด งานกิจการพลเรือน พบชาวบ้าน หรือให้กำลังใจทหาร ก็จะสวมเครื่องแบบทหารไป เหมือนเป็นการฝึกงาน โดยทีมงานบอกว่า ใครถามให้บอกว่า สังกัด สลก.ทบ. และช่วยราชการ สำนักปลัดกลาโหม เวลาไปงานไหน ก็จะมีคนมาขอถ่ายรูปคู่ด้วย จนทำให้กลายเป็น หมวดน๊อด ทหารหญิงคนสวยที่ถูกเอ่ยถึงบ่อยไปโดยปริยาย" น.ส.ปิยมาภรณ์ กล่าว

“ตอนนั้น ไม่คิดว่าจะถูกหลอก เพราะคนที่รับเงินไปก็ล้วนอยู่กับผู้ใหญ่ทั้งนั้น แล้วให้มาทำงานแล้วด้วยก็คิดว่า ได้เป็นร้อยตรีหญิงแน่ ก็แต่งเครื่องแบบทหาร ถ่ายรูป โพสต์ลงอินสตาแกรม เวลาไปไหนก็บอกว่าเป็นทหาร เพราะช่วงนั้นเชื่อว่าเป็นทหารจริงๆ ทำงานทหารแล้ว แต่งเครื่องแบบทหาร ซึ่งไม่คิดว่าจะถูกหลอก”

ต่อมาภายในกระทรวงกลาโหมมีการเปลี่ยนแปลง มีการสั่งโยกย้ายนายทหารทีมงานที่รับเงินไป ก็อ้างว่ามีปัญหาเรื่องการบรรจุเธอเข้ารับราชการ ให้รอก่อน แต่ยังให้ทำงานต่อเหมือนเดิม จนที่สุดทีมงานนั้นก็ใช้กรณีการเปลี่ยนแปลงภายในกระทรวงกลาโหมเป็นข้ออ้างว่า ทำให้ไม่ได้แล้ว ต่างแยกย้ายกันเอาตัวรอด และไม่มีการรับผิดชอบ ไม่คืนเงืน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าจะไปทวงคืนจากใคร จนในที่สุดต้องพยายามหาเงินจากทุกทางมาเพื่อผ่อนใช้หนี้ญาติๆ ที่ยืมมาจ่ายค่าวิ่งเต้นเป็นทหาร”



ซึ่งจากนั้นมาเวลาใครถามไถ่ก็ยังสวมบท หมวดน๊อด ตลอดมา กระทั่งได้มีโอกาสพูดคุยกับคนที่รู้เรื่องในวงการทหาร ด้วยความที่ห่างออกมาจากวงการจึงทำให้ข้อมูลที่พูดคุยกันผิดพลาด จึงเกิดข้อสงสัยในการเป็นทหารของตนเอง และเริ่มมีการตรวจสอบในที่สุด

น.ส.ปิยมาภรณ์ กล่าวต่อว่า “ยอมรับว่าผิด ที่ทำแบบนี้ แต่ก็มันมาแบบนี้แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยไปแอบอ้าง หรือเอาเครื่องแบบทหารบก ไปทำความผิดอะไรให้เกิดความเสื่อมเสีย แต่เพราะคนเชื่อไปแล้วว่าเป็นทหารก็เลยตามเลย ส่วนคนที่เข้ามาด่าว่า ก็ขอให้เข้าใจและสอบถามกันก่อน อย่ารีบตัดสินใจ กล่าวหาว่าเป็นคนเลว คนไม่ดี ตั้งแต่เรียนหนังสือมาตอนเด็กๆ ที่ศรีสะเกษ ก็เป็นคนดีมาตลอด ถ้าวันนี้ทุกคนประณามไม่ใช่แค่วิญญาณของพ่อที่จะเสียใจ แต่แม่ที่เธอเหลือเป็นที่พึ่งอยู่คนเดียวในชีวิตก็จะเสียใจ ที่สำคัญ บรรดาคุณครู ก็จะเสียใจ ขอแค่เข้าใจกันบ้างก็พอ ซึ่งที่ผ่านมาขอยอมรับผิด แต่ด้วยความสัตย์จริงไม่มีเจตนาจะหลอกลวงใครเลย อยากให้กรณีนี้เป็นบทเรียน อย่าให้ใครถูกหลอกอีกเท่านั้นเอง แต่คงพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าใครจะมาทำอะไรหรือเปล่า แต่ต้องขอโทษ เพราะอยากเป็นทหารจริงๆ”

อย่างไรก็ตาม ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกถึงกรณีดังกล่าว ได้รับการชี้แจงว่า กรณีของคนที่ชื่อ หมวดน๊อด ตามที่มีการกล่าวอ้างนั้น ส่วนตัวที่ทำงานไม่เคยพบเห็นว่าเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ซึ่งการจะเข้ามาทำงานไม่ว่าในหน่วยใดนั้น ต้องมีหนังสือส่งตัวเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่แล้ว คงยากที่จะเข้ามาสวมรอยโดยไม่มีการตรวจสอบก่อน ขณะที่เรื่องของการโพสต์รูปภาพใน อินสตาแกรมส่วนตัวนั้นยังไม่เห็น ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวอ้างถึงขบวนการรับเงินวิ่งเต้นเข้ารับราชการทหารนั้น โดยปกติแล้วในหน่วยงานอาจจะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการตรวจสอบเป็นการภายในว่าเรื่องดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากว่าตรวจสอบพบความผิดจริงก็จะแจ้งออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง.


ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
    24 พฤษภาคม 2556, 18:20 น.

http://www.thairath.co.th/content/pol/346870
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่