[18+] การรักนวลสงวนตัวทำไปทำไมกันคะ?

บอกก่อนนะคะว่าจขกท.อายุเพิ่งจะ18ปี กำลังจะเข้าปี 1 และ ยังไม่เคยมีพสพ.ใดๆสิ้น

ความคิดอาจจะยังไม่โตพอ แต่อยากทราบจริงๆค่ะว่าการรักนวลสงวนตัว

ที่พร่ำสอนกันมาแต่โบราณเนี่ย มันดียังไง?(ไม่ได้จะกวนนะคะ แค่อยากทราบจริงๆ)





ในความคิดของเรา คิดว่า...


การรักษาเวอร์จิ้นจนวันแต่งงานไม่ได้น่ายกย่องสรรเสริญอะไรขนาดนั้นเลยค่ะ

มันไม่ได้ตัดสินว่าคนนั้นจะเป็นคนดีหรือไม่ดี? จะมีค่าไม่มีค่า?

ทำไมเราต้องไปยึดติดกับ"ค่านิยมสมัยโบราณ"ขนาดนั้นด้วย?

ความจริง "การรักนวลสงวนตัว"มันเป็นกุลศโลบายของคนสมัยก่อน


...เพื่ิอป้องกันไม่ให้ท้องก่อนแต่งมากกว่า เพราะ การคุมกำเนิดยังไม่ดีเท่าปัจจุบัน

ถ้ายังไม่แต่งงานเกิดท้องแล้วผู้ชายไม่รับขึ้นมาก็ซวยสิ เลยตัดปัญหาแต่ต้นตอ

โดยห้ามมีพสพ.ก่อนแต่งซะเลย ซึ่งหลักการนี้มันใช้ได้จริงในอดีตแต่ไม่ใช่ปัจจุบันค่ะ

โลกเราตอนนี้มันพัฒนาไปไกลแล้ว การคุมกำเนิดก็ก้าวหน้าด้วย

ดังนั้น...ความคิดเราก็ควรจะก้าวทันโลกบ้าง ไม่ใช่ยึดติดกับแต่อะไรเดิมๆ

เรื่องที่ถูกต้องในอดีตไม่ได้หมายความว่ามันต้องถูกต้องตลอดไปหรอกค่ะ


จะอ้างว่าทีคนรุ่นก่อนยังทำได้ มันก็ไม่ถูกนะคะ เพราะ รุ่นนั้นแต่งงานตั้งแต่อายุ15

จะเอาเวลาไหนไปมีก่อนแต่งล่ะ...???

ผิดกับปัจจุบันที่แต่งงานกันตอน30ถ้าเคยมี ก็ไม่น่าจะแปลกอะไรไม่ใช่หรอคะ?



ปล.ที่พูดไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนให้free sexนะคะ แต่คิดว่าถ้าอยากมีก็มีไปเถอะ

อย่ายึดคิดกับเยื่อบางๆกันมากนักเลย แค่รู้จักป้องกันตัวเองก็พอแล้ว


***************************************************

เสริมเรื่องกุศโลบายโบราณค่ะ ลองดูตัวอย่างนี่นะคะ...


1.ห้ามตัดเล็บตอนกลางคืนเดี๋ยวอายุจะสั้น

...ความจริง.. สมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีกรรไกรตัดเล็บแบบในปัจจุบัน

ถ้าตัดตอนกลางคืนจะต้องใช้ไฟจากตะเกียง ซึ่งมันสลัวมาก อาจทำให้มีดตัดเล็บ

บาดนิ้ว เลยอ้างเรื่องอายุสั่้นให้คนกลัว


แต่ตอนนี้เรามีไฟฟ้าแล้วก็ไม่จำเป็นต้องห้ามตัดตอนกลางคืนจริงมั๊ยคะ?





[[[[[[[edit] ]]]]]]]]]]]

ที่เราตอบความเห็นกลับไม่ใช่ว่าอยากเถียง รึอยากเอาชนะนะคะ

แค่ต้องการชี้แจงเรื่องที่เข้าใจผิดกันเท่านั้นเอง อย่างเรื่องที่บอกว่า...


1.ไม่มีอะไรป้องกันได้100%

|>> กรณีที่เค้าบอกว่าป้องกันไม่100%หมายถึง เกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆค่ะ

เช่น กรณีถุงขาด รั่ว เสื่อมคุณภาพ(อยู่ในที่อุณหภูมิสูงเกินไป/ซื้อมาไว้นานเกินแล้วไม่ใช้)

ถ้าเกิดว่าคุณใส่ถุงยางถูกวิธี ถุงไม่ขาด แตก รั่ว กินยาคุมครบทุกเม็ดและต่อเนื่อง

โอกาสท้อง 0% เลยค่ะ


2.เคยเห็นคนนู้นคนนี้เค้าป้องกันนะ แต่ก็ยังพลาด"ท้อง"

|>> เชื่อได้จริงๆหรอคะ ว่าเค้าป้องกันจริง+ถูกวิธี บางทีที่เค้าท้อง

เค้าอาจไม่ป้องกันเลยก็ได้ แต่มาบอกคนอื่นว่าป้องกันแล้วแต่"พลาด"

เพราะ ถ้าบอกไปตรงๆว่าไม่ป้องกันเลยท้องก็กลัวคนอื่นเค้าจะ"สมน้ำหน้า"เอา


3.เราอายุ18จริงๆนั่นแหละค่ะ ไม่ต้องมาคิดหรอกว่าความจริงแล้วเราไม่ซิง

แต่อยากมาหาพวกนั่นนี่ ดูเชี่ยวชาญจังนะบลาๆๆ

|>> สำหรับเราอายุ18นี่ไม่ได้ใสซื่ออินโนเซนต์เป็นนางเอกนิยาย

อย่างที่ผู้ใหญ่หลายๆคนคิดกันหรอก  เรื่องพวกนี้เรารู้มาตั้งแต่ป.4แล้วค่ะ


4.แทนที่จะมัวแต่ปิดหูปิดตาเรื่องเพศ เราว่ามาสอนให้ถูกวิธีเลยไม่ดีกว่าหรอคะ

เห็นบอกกันพร่ำเพื่อว่าต้องรักนวลสงวนตัว แต่ดันติดอันดับเป็นประเทศคุณแม่อายุน้อยซะงั้น

มันน่าภูมิใจหรอคะแบบนี้? พวกประเทศฝรั่งเสรีกันเต็มที่แต่ไม่เห็นมีปัญหาแบบเราเลย


5.เราย้ำหลายรอบแล้วค่ะ ว่า"มีได้ แต่ต้องป้องกัน และไม่มั่ว"


6.ถ้าผู้ชายหวังฟัน ได้แล้วทิ้ง บอกเลยค่ะ เราก็จะไม่เอามันมาเป็นเสนียดเหมือนกัน

เสียซิงไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจไปทั้งชีวิตหรอกค่ะ



7.ถ้าเรารักใคร เราอยากมีก็คงมีแหละค่ะ ไม่ได้ยึดคิดว่าต้องหลังแต่งงานเท่านั้น

เมื่อพร้อมก็จะให้ หากวันไหนต้องเลิกกันเราก็จะไม่เสียใจกับการกระทำตัวเอง




ปล.เรามาตั้งกระทู้เรารับฟังทุกความเห็นแน่นอนค่ะ ที่เห็นต่างเราก็จะอธิบายกลับ

ว่าทำไมเราถึงคิดแบบนี้ๆ บางคำพูดอาจดูแรงต้องขออภัยด้วยค่ะ

แต่คิดว่าการพูดตรงๆน่าจะเข้าใจกันมากกว่า


ปล.ความเห็นที่เห็นด้วย เราก็ไม่มีอะไรที่ต้องชี้แจง ก็เลยไม่ได้ตอบ ไม่อธิบาย

อาจจะกดแค่ถูกใจ ถ้าให้ตอบก็คงตอบว่า "อืม" เฉยๆ

แล้วจะให้ตอบทำไมคะ ถ้าจะตอบแค่นี้?




***************************************************





####  ข้อความต่อจากนี้อยากให้อ่าน เพราะ มัน"สำคัญมากที่สุดในกระทู้ค่ะ"... ####




เราไม่ได้บอกว่า"ผู้หญิงที่เก็บเวอร์จิ้นไว้จนวันแต่งงานเป็นคนโบราณคร่ำครึค่ะ"

แค่ต้องการจะสื่อว่า ผู้หญิงที่เสียเวอร์จิ้นไปแล้วไม่ใช่คนเลว

เพราะ คุณค่าคนไม่ได้วัดกันที่ตรงนั้น คนเรามีได้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ใช่เรื่องสกปรก

แต่ถ้ามีแล้วต้องยอมรับการกระทำตัวเองให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

คนที่ยังยึดถือปฏิบัติเรื่องนี้อยู่มันก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ เราเองก็ยังทำอยู่เหมือนกัน

เคยมีแฟนแต่ก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลย เพราะ เรายังถือว่าตัวเองยังไม่พร้อม



เราไม่ได้สนัยสนุนให้มีพสพ.ในวัยเรียนค่ะ แต่สนับสนุนให้มีเมื่อพร้อมต่างหาก

คำว่า "พร้อม"ของแต่ละคนมีความหมายที่ต่างกันค่ะ บางคนอาจเรียนจบ

บางคนอาจหลังแต่ง เรื่องนี้ก็แล้วแต่ว่าตัวใครจะตัดสินใจเอง  

ทุกคนย่อมมีทางเดินชีวิตของตนเอง ต่างคนก็ต่างต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

ตราบใดที่เราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอืี่น ครอบครัวรับได้ มันก็ไม่ผิดไม่ใช่หรอคะ?



เราคิดแต่แรกแล้วค่ะว่าถ้าตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาต้องมีคนรับไม่ได้แน่ๆ

แต่เราก็แค่อยากแชร์ความคิดส่วนตัวบ้าง ไม่ได้จะชักจูงให้มาเสียซิงเลย

อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วยค่ะ  ส่วนความเห็นทุกๆความเห็นเรารับฟังเสมอค่ะ

เข้าใจว่าคนเราย่อมคิดต่างกัน แต่เราก็อยากให้คนอื่นๆรับฟังเราบ้าง

ไม่ใช่อ่านแต่หัวกระทู้แล้วก็เข้ามาด่าเราฉอดๆ จิกกัด กระแนะกระแหนสารพัด



แทนที่จะคุยกันด้วยเหตุผลกลับใช้แต่อารมณ์ ไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาแว๊ดๆใส่ตัวเองหรอกค่ะ

ในเมื่อเราพูดดีขนาดนี้แล้ว เราก็อยากให้คนอื่นพูดดีกับเราด้วย ในฐานะที่เรายังไม่มีความคิดอ่านพอ

เราอยากได้คำแนะนำดีๆจากผู้ใหญ่ แต่ทำไมผู้ใหญ่หลายๆคนถึงจ้องแต่จะด่าเราท่าเดียวเลยล่ะคะ

บางคนด่าเราว่า"บ้า ต้องไปเช็คสมองบ้าง" ประชดว่า"เป็นหมอหรอรู้ดีจัง"นี่เกินไปมั๊ยคะ


งั้นตอบให้เลยค่ะเราไม่ใช่หมอหรอก ไม่ใช่เด็กเรียนเก่งอะไรเลยด้วย

ที่เรารู้ เราก็รู้ตามวัยของเรานั่นแหละค่ะ เราเป็นนักเรียนอาจารย์เคยสอนเรามาแบบนี้

เราก็เชื่อแหละค่ะ ศิษย์ถ้าไม่ฟังครูจะไปฟังใคร?






ฝากถึงทุกความเห็นเลยค่ะ ว่า"ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆค่ะที่อุตส่าห์มาตอบ"

และขอบคุณหลายๆคนที่เข้าใจเจตนาของเรา ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่ว่ากันค่ะ

ถือว่าความคิดแต่ละคนมันห้ามกันไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดในมุมตัวเอง




สุดท้ายก็ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ...


...................................................................................



[[[[[[[[ EDIT 2 ตอบความเห็นคร่าวๆค่ะ ]]]]]]]]]]]



บางคห.ตรงช่วงท้ายๆกระทู้ ที่พิมพ์ยาวยังกับจะมาประกวดเรื่องสั้นเราขอข้ามไม่อ่านค่ะ

พิมพ์ได้ไม่มีเว้นช่องไฟเลย มาทีเป็นพืดอ่านแล้วลายตามากค่ะ ยาวซะเปล่า

แต่ตีความเนื้อหากระทู้เราไม่แตก ก็คงหมดคำอธิบายค่ะ




ตอบแบบรวมๆในคห.ที่เราอ่านช่วงแรกๆนะคะ หลังๆเราไม่ได้อ่านแล้วเยอะเกิน



-คห.แรงๆ บางคห.ที่มีอายุมากกว่าเรา อยากให้ควบคุมภาวะทางอารมณ์ให้มากกว่านี้ค่ะ

ไม่เห็นด้วยเราไม่ว่าค่ะ เรารับฟังอยู่แล้ว แต่อย่ามาลามปามถึงครูเรา โรงเรียนเรา

ไม่ควรใช้อารมณ์ส่วนตัวอย่างเดียว คุยกันด้วยเหตุผลจะดีกว่าค่ะ


-คห.ที่บอกว่าเราชอบเถียง เราก็บอกแล้วค่ะว่าแค่เสนอในมุมมองของเราบ้าง

ไม่ใช่ไม่รับฟัง คุณด่าเราแต่ตัวคุณก็เป็นเองรึเปล่าคะ? กระทู้ท๊อปอีกกระทู้

เห็นบัตรผ่านโทรศัพท์บางคนเถียงเป็นเอาตายอยู่เหมือนกัน

แบบนี้เรียก ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง สินะคะ


- คห.ที่บอกว่าเราดูถูกความคิดคนอื่น ไม่ยอมรับฟังอะไรเลย งั้นถามกลับนะคะ

ว่าคุณเคยรับฟังเราบ้างมั๊ยคะ รึอยากเข้ามาด่าอย่างเดียว


-เราไม่ได้จะไปมีพสพ.ตอนนี้ค่ะ ไม่ได้มั่ว ไม่ได้เป็นเด็กใจแตกไม่สนใจเรียน

เรามีความคิดแบบนี้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปมี"ตอนนี้"ค่ะ ช่วยเข้าใจใหม่ด้วย


- มีบางคห.บอกว่าเราไม่ซิงแล้ว เป็นคนมีปม เลยมาหาพวก อันนี้ตามแต่จะคิดค่ะ


-ถ้าถึงเวลาที่เราอยากมี เราต้องมั่นใจว่าตัวเองป้องกันดีพอแล้ว ถ้าไม่กินยาคุม ไม่ใส่ถุงยาง

จะไม่ยอมมีเด็ดขาด ถ้าเกิดพลาดเช่นกินไม่ครบ ถุงยางแตกจะใช้ยาคุมฉุกเฉิน

ในเมื่อเรากล้ามี เรื่องเล็กๆแค่การป้องกัน เราต้องมีวินัยอยู่แล้วค่ะ



- ถ้าใครๆก็บอกว่าไม่มีอะไรคุมได้100เปอร์เซน แม้แต่ถุงยาง งั้นผู้ชายทุกคนก็ต้องห้าม

เที่ยวอาบอบนวดด้วยนะคะ เพราะ ถุงยางคุมไม่ได้100 เปอร์เซน อาจเสี่ยงต่อการติดเอดส์

ถ้าถุงเกิดแตกจะทำยังไงดีน้า? ก็คงต้องกินยาต้านเอดส์น่ะสิ แต่แหม มันคุมไม่ได้100เปอร์เซนนะคะ

จะเอาชีวิตไปเสี่ยงหรอ ถึงแม้เปอร์เซนจะน้อยนิด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นนะคะ

งั้นควรเก็บไว้ให้แฟนคนเดียวเท่านั้น แบบผู้หญิงบ้างดีมั๊ยล่ะคะ? ถ้าติดเอดส์ขึ้นมา

คุณพ่อ คุณแม่จะเสียใจเอานะคะ ท่านอุตส่าห์ทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก ทำแบบนี้ไม่รักท่านแล้วหรอ?



- เราไม่ยึดติดว่าต้องมีพสพ.หลังแต่งงานเท่านั้น จะมีก่อนก็ไม่ได้คิดมาก

ถ้าคนที่เราจะให้เป็นคนที่เรารักเค้าไปแล้วทั้งใจ


-ส่วนคนที่ถามว่าจะรู้ได้ไงว่าคนคนนี้จะเป็นคนที่เราได้แต่งงานด้วย ขอตอบว่า"ไม่รู้ค่ะ"

เพราะ เราไม่ได้ยึดติดว่าถ้าเสียให้ใครไปแล้วต้องได้แต่งงานกับคนนั้น ตอนที่เราให้ไป

เพราะ เรารักและผูกพันธ์กับเค้า ถ้าวันนึงมีเหตุต้องเลิกกัน เราก็จะไม่เสียใจ

ไม่มีเยื่อพรหมจรรย์เราก็ไม่ตายค่ะ ใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม ถ้ามีแฟนใหม่แล้วเค้ารับไม่ได้

เราก็เลิกค่ะ ถ้ารักเราต้องยอมรับตัวเราได้ อยากเลิกเพราะไม่ซิง เราก็ไม่แคร์ค่ะ ถือว่าไม่ได้รักจริง

แต่อยากได้ซิงมากกว่า!


- สุดท้ายเรื่องนี้ก็คงต้องนานาจิตตังค่ะ พูดไปคงไม่จบไม่สิ้น..
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 88
อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวของ คนอายุ22 อย่างผมนะครับ
สำหรับผมคิดว่า การรักนวลสงวนตัว เป็นสิ่งที่ดี และพึงทำครับ ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามด้วยครับ

จขกท ถามว่ามันดีอย่างไร? ลองยกตัวอย่างดูนะครับ
การที่จะมีอะไรกับใครคนหนึ่ง คำว่ารัก อย่างเดียวคงไม่ได้ครับ  เราต้องมีความพร้อมด้วยครับ
ความพร้อมในที่นี้คือ พร้อมที่เผชิญหน้ากับผลที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกต่อตนเอง ความคิดของแฟนที่มีต่อเราหลังจากที่มีอะไรกันแล้ว   และแน่ใจว่าป้องกันได้100เปอร์เซ็นต์?  เกิดพลาดมีน้องพร้อมจะทำอย่างไร ยังไม่นับเรื่องโรคต่างๆอีก  
แล้วถ้าเกิดวันนึงเลิกกันจะรับได้ไหม ถ้าเค้าเอาเรื่องของเราไปเล่าให้คนอื่นฟังจะรับได้มั้ย  ถ้าพ่อแม่รู้จะรับได้มั้ย
  
การรักนวลสงวนตัว เป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทย ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ก็ยอมรับ และยกย่องว่าเป็นสิ่งที่ดี  
   เหมือนกับการไหว้นั่นแหละครับ  ถามว่าถ้าเจอผู้ใหญ่แล้วเราไม่ไหว้ เราจะเป็นคนเลวมั้ย ก็ไม่ครับ แต่มันดูไม่ดี ไม่น่ารักใช่ไหมครับ
แต่ละชาติก็มีค่านิยมที่แตกต่างกันไป เราก็ควรนำสิ่งที่ดีมาใช้ อะไรที่ไม่ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตามนี่ครับ
  อีกอย่างครับ ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่ให้เชื่อคำผู้ใหญ่ไว้ดีกว่าครับ ท่านอาบน้ำร้อนมาก่อน

      อีกตัวอย่างนะครับ ถ้าเกิดทุกคนคิดว่า ไม่จำรักนวลสงวนตัวไม่ผิด แค่ป้องกัน ก็พอแล้ว
คนเราก็จะมีอะไรกัน โดยไม่มีการยับยั้งชั่งใจ  ทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิง  หลายๆครั้ง โอกาศพลาดมันก็เพิ่มขึ้นใช่มั้ยครับ
ผู้ชายถ้าพลาดก็เจอโรคร้าย ผู้หญิงทั้งโรคและลูก เลยนะครับ
     จนวันหนึ่ง วันที่เราพบคนที่ใช่ และเราต้องการจะใช้ชีวิตคู่ด้วย ปรากฎว่าเค้าหรือเธอติดโรคร้าย  เธอเคยทำแท้งมาก่อน เธอมีลูกติด หรือหลายๆอย่าง ที่อีกฝ่ายรับไม่ได้  ทั้งๆที่รักกันมากแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ มันจะเจ็บปวดทรมานใจแค่ไหนครับ กับแค่เพราะเมื่อก่อนเราไม่รักนวลสงวนตัว??

  แต่!! ผมไม่ได้หมายความว่าคนไม่รักนวลสงวนตัวจะเป็นคนเลว ชั่ว อะไรนะครับ  
และไม่ได้หมายความว่าไม่มีค่านี่ครับ  แต่คงไม่เท่ากับคนที่รักนวลสงวนตัวอ่าครับ
  จริงครับ ที่ผู้ชายบางคนเห็นเรื่องความบริสุทธิ์เป็นเรื่องใหญ่ แต่นั่นก็หมายถึงเธอที่เราจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันคนนั้น มั่นใจได้ว่าเธอปลอดภัย
ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะครับ คุณผู้หญิงก็คงอยากได้ผู้ชายที่ปลอดภัยไร้โรค และมีแต่คุณคนเดียวใช่มั้ยครับ

การแต่งงานกัน ได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากัน และมีความพร้อมรับผิดชอบเพียงพอ แบบนี้แหละครับ คือคำว่าพร้อมจริงๆ
  

อ้อ ที่ จขกท บอกว่า ป้องกัน ๆๆๆๆๆ อยากจะบอกเหมือนหลายๆความเห็นข้างบนนะครับว่า ไม่มีอะไรป้องกันได้100เปอร์เซนต์ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนครับ  (เกิดมีอะไรกันจริงๆ ลืมถุง ถุงหมด ถุงรั่ว ผช เอาออกกลางคัน  โรคติดแน่ๆครับ แล้วถ้า ผญ เกิดลืมกินยาคุมอีกหละครับ = = )อันนี้ต้องยอมรับความจริงข้อนี้ให้ได้นะครับ
ปล 2 จขกท บอกให้คนอื่นอ่านบ้างว่า ให้ป้องกัน ไม่สนับสนุนฟรีเซ็กส์
        ก็อยากจะให้จขกทก็ควรยอมรับความคิดเห็น ของคนที่คิดต่างจากคุณบ้างนะครับ


แค่คำว่ารัก....คงยังไม่พอครับ อมยิ้ม07

แก้ไข เพิ่มเติมเฉพาะส่วนล่างนี้เม่าจอแดง


1.ไม่มีอะไรป้องกันได้100%
|>> กรณีที่เค้าบอกว่าป้องกันไม่100%หมายถึง เกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆค่ะ
เช่น กรณีถุงขาด รั่ว เสื่อมคุณภาพ(อยู่ในที่อุณหภูมิสูงเกินไป/ซื้อมาไว้นานเกินแล้วไม่ใช้)
ถ้าเกิดว่าคุณใส่ถุงยางถูกวิธี ถุงไม่ขาด แตก รั่ว กินยาคุมครบทุกเม็ดและต่อเนื่อง  โอกาสท้อง 0% เลยค่ะ

== จขกท ก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดีว่ามันมีโอกาสพลาดได้
  ถุงขาด รั่ว เสื่อม  แตก ใส่ผิดวิธี ถุงหมด ลืมถุง หลุดกลางคัน  /ยาคุม ลืมกิน ยาหมด แพ้ยาคุม   มั่นใจได้ไหมครับว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
            กรุณายอมรับด้วยนะครับ ว่ามันมีโอกาสพลาด  ฟังและยอมรับข้อนี้ด้วยนะครับ  



2.เคยเห็นคนนู้นคนนี้เค้าป้องกันนะ แต่ก็ยังพลาด"ท้อง"
|>> เชื่อได้จริงๆหรอคะ ว่าเค้าป้องกันจริง+ถูกวิธี บางทีที่เค้าท้อง
เค้าอาจไม่ป้องกันเลยก็ได้ แต่มาบอกคนอื่นว่าป้องกันแล้วแต่"พลาด"
เพราะ ถ้าบอกไปตรงๆว่าไม่ป้องกันเลยท้องก็กลัวคนอื่นเค้าจะ"สมน้ำหน้า"เอา

== ที่เค้าป้องกันแล้วพลาดจริงๆก็มี จขกท ต้องยอมรับด้วยนะครับ  อ่านข้อ 1 อีกครั้งครับ




4.แทนที่จะมัวแต่ปิดหูปิดตาเรื่องเพศ เราว่ามาสอนให้ถูกวิธีเลยไม่ดีกว่าหรอคะ
เห็นบอกกันพร่ำเพื่อว่าต้องรักนวลสงวนตัว แต่ดันติดอันดับเป็นประเทศคุณแม่อายุน้อยซะงั้น
มันน่าภูมิใจหรอคะแบบนี้? พวกประเทศฝรั่งเสรีกันเต็มที่แต่ไม่เห็นมีปัญหาแบบเราเลย

  

== ถูกต้องครับ เราควรสอนเรื่องพศพ การหาทางแก้ไข และ การป้องกัน ให้ถูกต้อง ครับ
แต่ไม่ควรเน้นว่าป้องกันก็พอแล้ว ควรเน้นเรื่อง ความพร้อมและความเหมาะสม ไม่ชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าครับ
และถ้ารักนวลสงวนตัวจริง ตามที่บอก คงไม่มีปัญหาคุณแม่อายุน้อยแบบนั้นหรอก  จริงไหมครับ  
      การตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการรักนวลสงวนตัว ไม่มีทางพลาด และปลอดภัยที่สุดครับ



5.เราย้ำหลายรอบแล้วค่ะ ว่า"มีได้ แต่ต้องป้องกัน และไม่มั่ว"

== หลายๆคห ก็ย้ำหลายรอบมากๆเลยครับ ว่า ป้องกันดีอย่างไรก็พลาดกันได้ครับ



6.ถ้าผู้ชายหวังฟัน ได้แล้วทิ้ง บอกเลยค่ะ เราก็จะไม่เอามันมาเป็นเสนียดเหมือนกัน
เสียซิงไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจไปทั้งชีวิตหรอกค่ะ

      

==  จะรู้ได้งัยว่าคนที่เรารักอยู่ตอนนี้ พอมีอะไรกันแล้วเค้าจะไม่ฟันแล้วทิ้ง เอาอะไรมาการันตีหรอครับ
     เสียซิงไม่จำเป็นต้องเสียใจทั้งชีวิต อันนี้ถูกต้องครับ ค่าของคนไม่ได้ตัดสินกันแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวครับ



7.ถ้าเรารักใคร เราอยากมีก็คงมีแหละค่ะ ไม่ได้ยึดคิดว่าต้องหลังแต่งงานเท่านั้น
เมื่อพร้อมก็จะให้ หากวันไหนต้องเลิกกันเราก็จะไม่เสียใจกับการกระทำตัวเอง
  

==จขกทอาจไม่เสียใจ แต่กรุณา คิดถึงคนที่รักเรา คิดถึงหน้าพ่อแม่ด้วยครับ


พาพันขอบคุณ


==สรุปนะครับ  หวังว่าจขกท จะเปิดใจ  ทั้งรับ และ ฟัง นะครับ
1 คนไม่ซิง ไม่ใช่คนเลวไม่ใช่คนไร้ค่า   คนรักนวลสงวนตัวก็ไม่ใช่คนล้าสมัยหัวโบราณเหมือนกัน
2 ไม่มีวิธีป้องกันใดๆที่ไม่มีโอกาสพลาด ถึงแม้ว่าโอกาสที่มีมันน้อยนิด แต่จงยอมรับว่ามี  ฉะนั้นการรักนวลสงวนตัวจึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดครับ
3 คนที่รักคุณจริง เค้ารอได้ครับ
4 คนที่รักเรามากที่สุดคือพ่อแม่ครับ  ทำอะไรอย่าคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงท่านทั้งสองคนด้วยครับ

"อย่าทำร้ายคนที่รักเรา เพราะคนที่เรารักเลย"อมยิ้ม08

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 87
เชื่อล่ะ ว่าน้องจขกท.เด็กจริงๆ ทั้งๆที่พี่อายุมากกว่าน้องแค่2-3ปีเอง

ที่จริงน้องก็มีคำตอบและแนวทางของน้องอยู่แล้ว พอใครมาบอกความคิดของเค้า ที่ต่างจากน้อง
ถ้าน้องขัดได้ ก็ขัดเค้าตลอด ดูไม่เปิดใจจะรับฟังสิ่งอื่นๆนอกจากสิ่งที่ตัวเองปักใจเชื่อไปแล้ว
เช่นนี้ น้องจะมาตั้งกระทู้ทำไมคะ ?

สำหรับพี่ พี่ไม่ได้คิดหรอกค่ะ ว่าผิดถูกอะไรยังไง แต่ทุกวันนี้ที่ยังรักนวลสงวนตัวอยู่
เพราะคิดว่าตัวเองยังเรียน ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบตัวเองจริงๆ เลยไม่อยากเสี่ยงที่จะมีโอกาสท้อง
กินยาคุม ใส่ถึงยาง ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสท้องหรือติดโรคนี่คะ ยังไงก็ป้องกันได้ไม่100%
อีกทั้งคิดถึงพ่อแม่ด้วยค่ะ เวลาทำอะไรๆแล้วเกิดคำถามขึ้นมาในใจ แค่คิดว่าถ้าท่านรู้ ท่านคงเสียใจ พี่ก็ไม่ทำแค่นั้นเอง
ถ้าจะให้ทำ แล้วต้องปิดๆบังๆ ต่อหน้าท่าน ทำเป็นเด็กเรียบร้อย พี่ทำไม่ลงค่ะ ไม่เคยโกหกหรือปิดบังอะไรแม่ได้สักที
อีกอย่าง ท่านส่งเสียเราเพื่อให้เรียนหนังสือ พี่ว่าเราก็ควรทำให้ท่านสบายใจแบะภูมิใจมากกว่าเอาเวลาไปเสียให้กับเรื่องที่ทำให้ท่านไม่สบายใจนะคะ

ไว้ถึงวันที่พี่เรียนจบ ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ พี่อาจจะถึงคำว่า"พร้อม"ที่ว่า
นั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง ซึ่งบอกตรงๆว่าตอนนี้ยังไม่ได้คิดหรอก
ตอนนี้ขอทำหน้าที่ของตัวเองในปัจจุบันให้ดีก่อน อนาคตค่อยว่ากัน
ส่วนคนอื่น ใครจะยังไงก็แล้วแต่ โตแล้ว รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ก็พอ
ทำอะไรยังไงก็อย่าลืมคิดถึงหัวอกพ่อแม่ที่รอเราประสบความสำเร็จให้ท่านชื่นใจอยู่ละกัน
ความคิดเห็นที่ 21
ที่เรา Keep ตรงนี้ไว้ ไม่ใช่เพราะจะให้ผู้ชายค่ะ

เราทำเพื่อครอบครัว คุณพ่อคุณแม่เรา ท่านคงอับอายถ้าลูกทำตัวแบบที่คุณว่า ไหนจะสังคมท่านอีก ล้วนมีแต่คนหัวโบราณค่ะ


และที่สำคัญ เราก็ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ด้วย ไม่มีก็ไม่ตายค่ะ ไม่คิดจะมีใคร


ไม่อยากเสี่ยงติดโรค


ส่วนผู้ชาย มั่วมากๆ เราก็รังเกียจค่ะ ไม่ต้องทราบว่ามั่วหรอก เอาแค่เปลี่ยนแฟนบ่อยในระยะเวลาติดๆ กัน เราก็ไม่ชอบแล้ว

แสดงว่าเขาต้องมีอะไรแน่ๆ


เราไม่ดูถูกคนที่ทำแบบนั้น แต่จะสอนให้ลูกหลาน Keep มันไว้ค่ะ ถ้าลูกหลานเราชิงสุกก่อนห่าม แน่นอนเรารับไม่ได้แน่ๆ


จะโกรธมากด้วย

แต่ไม่ขอไปก้าวก่ายกับคนอื่นที่คิดคนละแบบ การเลี้ยงดูต่างกัน สิ่งแวดล้อมต่างกัน เอามาวัดมาตรฐานการตัดสินใจของแต่ละคนไม่ได้


แต่ว่าที่สะใภ้บ้านเรา แฟนของน้องชายเขาเรียบร้อยดีค่ะ ถึงไม่สวย ไม่ได้ร่ำรวย พวกเราก็ยินดีที่จะมีเขามาเป็นคนในครอบครัว

ถ้าเจอผู้หญิงที่ freesex เราก็คงรับไม่ได้เช่นกัน น้องชายเราไม่เคยล่วงเกินใครก่อน แต่เคยมีแฟนเก่าพยายามรุกเร้า ซึ่งภาพนั้นเรารังเกียจจริงๆค่ะ


ถ้ามันเป็นแค่ความพลั้งเผลอ ไม่กี่ครั้ง 1-2 ครั้ง เข้าใจได้ค่ะ


แต่ถ้าผ่านมาเป็นสิบ เราขออนุญาตที่จะรับไม่ได้ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายค่ะ


สำหรับเรา สิ่งที่ทำให้มนุษย์เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในโลก คือการรู้จักยับยั้งชั่งใจ และสิ่งนี้ การมีหลังแต่งงาน มันก็คือบททดสอบหนึ่งค่ะ


อ่อ อีกเรื่อง และที่บอกว่าป้องกัน ปลอดภัย มั่นใจเหรอคะว่ากันได้ แล้วที่เผาศพเด็กถูกทำแท้งไปพันกว่าศพน่ะ เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องตายเพราะความมักง่ายของคนคู่นึงเนี่ย มันคุ้มมั้ยคะ
ความคิดเห็นที่ 56
น้องจขกท ยังเข้าใจผิดเรื่องการคุมกำเนิดนะคะ
เราเองท้องป่อง ทั้งที่กินยาคุม เเละใส่ถุงยางค่ะ
อย่าคิดว่าวิทยาการก้าวไกล เเล้วอะไรมันจะ 100%

ส่วนเรื่องเก็บเวอร์จิ้นไว้เเต่งงาน อันนี้ค่อนข้างเห็นด้วย ว่าควรจะเก็บไว้
เพราะคิดว่าที่คนเขาว่ากันว่า เก็บไว้หลังเเต่งน่ะ เพราะจะเเก้ปัญหาการทำเเท้ง ติดโรคต่างๆมากกว่า
ซึ่งที่จริงจะฟรีเซ็กส์เเค่ไหนก็ได้ ปัจจัยมันอยู่ตรงนี้ต่างหาก
ต้องดูเเลตัวเองได้เเล้วระดับหนึ่งนะคะ นั่นหมายถึง ถ้าพลาดท้องขึ้นมา ต้องเลี้ยงดูลูกได้
ถ้าพลาดติดโรคขึ้นมา ต้องมีเงินรักษาตัวเอง ไม่เป็นภาระของสังคม เเละบุพการี

จริงค่ะ ไอ้เยื่อบางๆในช่องคลอดน่ะ มันไม่มีค่าอะไรหรอก
มันไม่ได้การันตีว่าเเต่งไปเเล้ว ผู้ชายจะไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อย หรือไม่ซื้อกินนอกบ้าน ถ้าเเต่งกับสาวจิ้น
กลับกัน หลังเเต่งงานผู้ชายที่ไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย เขาไม่ได้สรรหาสาวจิ้นมาเจาะไข่เเดงเเต่อย่างใด
ที่ว่าเมียน้อยเเสนบริสุทธิ์ นางเอกเเบบในละคร มันก็มีเเต่ในละครค่ะ ส่วนใหญ่บรรดาน้อยๆทั้งหลาย
น่าจะเเซ่บกว่าเมียหลวงทั้งนั้นเเหละ (บางคนหนังหน้าก็ยิ่งกว่าธรรมดา เเต่คาดว่าลีลาคงดี)

เเต่เราคิดว่า เมืองไทยมันไม่ค่อยมีทางเลือกมาก ไม่ค่อยให้ความรู้มาก หมายถึงอะไร
หมายถึง เด็กผู้ชาย เมื่อถึงวัยเจริญพันธ์ ก็กัน ทุกคนรู้ใช่ไหม ว่าทำยังไง
เเล้วเด็กผู้หญิงล่ะ เด็กผู้หญิงน้อยมากนะ จะรู้เรื่องการช่วยตัวเอง นั่นเเหละ ต้นตอของปัญหาอยากรู้อยากลอง

ถ้าเรามีลูกผู้หญิง จะสอนเรื่องการ ชตอ. ให้หมดเปลือกเลย ขอเเค่อย่างเดียว ถ้ายังไม่ทำงาน อย่าไปลองของจริง
เพราะผู้ใหญ่หัวโบราณไม่ได้พัฒนา จะคิดเเละมองว่า ผู้หญิงที่ยุ่งกับเรื่องเซ็กส์มากไป มันเป็นเรื่องที่น่าอาย ไม่งาม หรืออะไรก็เเล้วเเต่
เเต่ความจริง ผู้หญิงก็มีความต้องการ มีอารมณ์ กระสันได้เหมือนผู้ชาย เเต่ทางออกด้วยตัวเองมันไม่มี ทำไม่เป็น หาไม่ได้
เเล้วเขาจะทำยังไง ทางออกที่เขาคิดได้คือ หาคนช่วย นั่นเเหละ ไอ้ความหน้าบางของบรรดาผู้ใหญ่กำลังทำร้ายเด็กๆอยู่

ประมาณนี้ล่ะมั้ง
ความคิดเห็นที่ 24
รักนวลสงวนตัว หมายถึง รักทั้งใจ และ รักทั้งตัวของเราเอง

รักใจของเรา หมายถึงการรักในเกียรติของตัวเอง (และเกียรติของพ่อแม่ที่เลี้บงดูเรามา)

รักตัวของเรา หมายถึง การให้้เกียรติร่างกายของเรา ไม่ปล่อยให้เป็นเครื่องบำเรอความใคร่ของผู้ชายทั่วไปที่ไม่ได้รักเราแต่อยากเพียงแค่ใช้ร่างกายของเราเป็นเครื่องสนองตัญหาของตัวเอง

การรักนวลสงวนตัวทำได้ทุกวัยครับ เพราะไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ตราบเท่าที่เรายังให้เกียรติร่างกายและจิตใจของเรา เราก็จะรู้สึกว่าตัวเรามีคุณค่า นอกจากตัวเองแล้ว คนรอบข้างก็จะภูมิใจไปกับเราด้วย

การรักนวลสงวนตัวไม่ได้หมายถึงสาวบริสุทธิ์เท่านั้น แม้กับคนที่้คยพลั้งพลาดผิดไปก็สามารถกลับตัวกลับใจมารักนวลสงวนตัวได้ครับ

แม้กระทั่งภรรยาก็ยังมีสิทธิในการรักนวลสงวนตัวต่อสามีครับ

ทางร่างกาย .. ธรรมชาติสร้างความต้องการทางเพศมาให้เราเพื่อให้เราดำรงเผ่าพันธ์มนุษย์ต่อไปได้

แต่ธรรมชาติ ก็ให้พลังแก่จิตใจขิงเรา .. ให้สามารถจะควบคุมความต้องการนั้นให้อยู่ในดรอบที่ดีของสังคมได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 156
จากที่ผมอ่านมาข้างต้น เพียงแค่ไม่กี่สิบความเห้นแรกก็อธิบายชัดเจนแล้วว่าทำไมค่านิยมนี้ยังควรได้รับการส่งเสริมอยู่ ผมค่อนข้างแน่ใจว่าจริงๆแล้วเจตนาแต่แรกคุณเองต้องการสวนทางต่อความเชื่อของสังคมมาก มันแสดงให้เห็นแล้วตั้งแต่หัวข้อกระทู้

[18+] การรักนวลสงวนตัวทำไปทำไมกันคะ?

ถ้าอ่านเฉพาะหัวข้อกระทู้มันก็คิดได้แค่ว่า
1.การรักนวลสงวนตัวทำไปทำไม มีประโยชน์อะไร               หรือไม่ก็
2.ค่านิยมรักนวลสงวนตัวไม่ควรจะมีในสมัยนี้แล้ว อย่ามาหัวโบราณนัก หรืออีกนัยนึงคืออยากมีเซ็กส์ก็มีไปเถอะไอ้ความซิงมันไม่ได้สำคัญอะไรนักหนาหรอก จะมายกย่องเชิดชูความซิงอะไรกันหนักกันหนา

ต่อมาเนื้อหาก็อธิบายถึงความหมายของหัวข้อกระทู้ว่า

การรักษาเวอร์จิ้นจนวันแต่งงานไม่ได้น่ายกย่องสรรเสริญอะไรขนาดนั้นเลยค่ะ

มันไม่ได้ตัดสินว่าคนนั้นจะเป็นคนดีหรือไม่ดี? จะมีค่าไม่มีค่า?

ทำไมเราต้องไปยึดติดกับ"ค่านิยมสมัยโบราณ"ขนาดนั้นด้วย?

ความจริง "การรักนวลสงวนตัว"มันเป็นกุลศโลบายของคนสมัยก่อน


จากนั้นก็ยกตัวอย่าง บลาๆๆๆๆ ซึ่งพออ่านไปแล้ว มันยังมีน้ำหนักไม่พอที่จะสนับสนุนความเห็นของคุณได้

พอเนื้อหามันเขียนต่อจากหัวข้อกระทู้แบบนี้ เป็นใครก็ต้องเข้าใจว่าเจ้าของกระทู้นะ ต้องการบอกว่าอย่ามาหัวโบราณกับไอ้ค่านิยมแบบนี้นักเลย ไอ้ความคิดที่ว่ารักนวลสงวนตัวไม่ควรจะมีในยุคนี้แล้ว สอนเพียงแค่ให้รู้จักป้องกันก็พอ  แถมยังเขียนข้อความทำนองเหยียดหยันความคิดแบบนี้ว่างมงาย ยึดถือไปคิดไปมันก็ไม่มีคุณค่าพอให้คนอื่นยกย่องสักหน่อย

ตรงนี้แสดงว่าคุณกำลังล้ำเส้นความเชื่อของคนอื่น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ดีมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับแต่คุณก็ไม่ได้สนใจเหตุผลตรงนี้ จากหลักฐานคือคุณยังไม่แก้ไขข้อความในกระทู้หลักที่มีเนื้อหาทำนองดูถูกคนที่เชื่อในการรักนวลสงวนตัว

ประเด็นที่ว่ารู้จักป้องกันตัวมันไม่เกี่ยวกับการรักนวลสงวนตัวเลย เหตุผลนั้นความเห็นต้นๆก็อธิบายหมดแล้ว แต่คุณก็ทำหน้ามึนไม่ยอมเข้าใจแล้วอ้างแต่ว่าให้รู้จักป้องกันตัวก็พอแล้ว

เรื่องของเรื่องที่ผมจับได้คือ คุณเจ้าของกระทู้มีปัญหาในการรวมรวบความคิดในการตั้งกระทู้ ประเด็นสำคัญของกระทู้มันไม่มี เหมือนจะพูดอย่างนึงแต่อธิบายอย่างนึงแล้วในกระทู้ก็เอาหลายๆความคิดมารวมกันอย่างไม่กลมกลืน สุดท้ายมันก็เลยงงว่าตกลงเจ้าของกระทู้จะเอาไงกันแน่ จะต่อว่าค่านิยมนี้ว่าโบราณไปยึดถือทำไม(ตามข้อความที่คุณยกมาว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณ) หรือว่าจะต้องการบอกให้สังคมรู้ว่าถ้าคุณอยากมีเซ็กก็จงป้องกันซะ จงเลือกเอาสักทางครับ ไม่ใช่เนื้อหาในหัวข้อกระทู้หลักพูดถึงอย่าไปยึดติดค่านิยมเรื่องรักนวลสงวนตัว แต่พออธิบายโต้แย้งคนในกระทู้กลับกลายเปลี่ยนไปเป็นว่า คุณต้องการบอกว่าถ้าจะมีจงป้องกันตัวให้ดี

มันคนละเรื่องกับเนื้อหาในกระทู้หลักเลย คุณเล่นไม่มีจุดยืนแบบนี้จะให้คนอื่นเขาตอบตรงตามปัญหาที่คุณสงสัยได้อย่างไรครับ

จริงๆก่อนที่คุณจะแก้ไขเนื้อหาในกระทู้ที่ตั้ง ผมค่อนข้างแน่ใจว่าความคิดคุณไม่ใช่แบบนีแน่นอน แต่เมื่อเจอคนด่าคนคนอธิบายมากเข้า คุณก็เริ่มชักจะเขว่และพยายามโบ้ยเพื่อไม่ให้ตัวเองจนมุมว่าคุณพลาดไปแล้ว เพราะเนื้อหาตอนแรกก่อนจะแก้คุณมีเนื้อหาโจมตีคนที่มีความคิดสนับสนุการรักนวลสงวนตัวชัดๆแต่สุดท้ายคุณมากลับลำเพราะโดนเหตุผลประเคนใส่ รวมถึงคำด่าด้วยอีกมากมาย และที่เขาด่าเพราะคุณไม่รู้จักยอมรับความเห็นว่าคุณนั้นละพลาด แต่คุณกลับไปย้อนกลับอีกว่าคนพวกนั้นไม่เข้าใจคุณ ถ้าเขาจะไม่เข้าใจละก็ ก็มีเพียงเหตุผลเดียวคือความสามารถในการตั้งกระทู้ ในการสื่อสารของคุณอยู่ในขั้นแย่มาก ไม่สามารถเสนอประเด็นที่เหมาะสม อ่านแล้วคนที่เข้ามาดูในกระทู้สามารถเข้าใจได้ตรงกัน ก็คนอื่นจะเข้าใจได้ไงในเมื่อตัวคุณเองยังไม่สามารถยอมรับความเห็นต่างได้เลย ไม่สามารถที่จะใช้ข้อความสื่อสารถึงเจตนาจริงๆของคุณได้เลยครับ แต่สุดท้ายคุณก็ใช้วิธีโยนให้คนอื่นรับแทนว่าเขาไม่เข้าใจเจตนาคุณ

คุณลองคิดดูละกัน คนเป็นร้อยเห็นไปในทางเดียวกันว่าคุณคิดผิด แทนที่คุณจะพิจารณาตัวเองว่า เออนะ ตัวชั้นเองอาจจะบกพรอ่งในการสื่อความหมายในกระทู้ หรือชั้นอาจจะคิดผิดตั้งแต่แรก แต่คุณกลับเลือกทางที่จะบอกว่าคนเป็นสิบเป็นร้อยความเห็นพวกเขาล้วนเข้าใจคุณผิด พวกเขาไม่ได้เข้าใจอะไรเลย

ในเรื่องนี้คุณเองควรจะจำนนต่อเหตุผลที่หลายคนพยายามอธิบายให้คุณยอมรับและอย่าเที่ยวไปเผยแพร่ความคิดแบบนี้ต่อสังคม เพราะความคิดของคุณนั้นมันมีผลเสียมากกว่าผลดี เรียกว่าเป็นอันตรายต่อศีลธรรมของสังคมจะดีกว่า

คุณจะเสนอว่าอยากมีเซ็กส์ก็มีไป แต่ให้รู้จักป้องกัน ผมก็เห็นด้วย
คุณจะเสนอว่าให้มีเมื่อพร้อม อย่าไปมั่วผมก็เห็นด้วย
แต่คุณจะมาเสนอว่า ไม่ต้องไปรักนวลสงวนตัวหรอก แต่จงป้องกันเมื่อมีเซ็กส์ ตรงนี้ผมถือว่าความคิดคุณผิดเพี้ยน ไม่ควรได้รับการยอมรับและคุณควรจะไตร่ตรองให้ดีว่าคุณเองกำลังเสนอค่านิยมผิดๆ ที่ทำร้ายสังคมโดยรวม

ตอนผมพิมพ์คำตอบนี้นี้ผมรู้สึกเหนื่อยใจ เพราะเห็นว่าด้วยความสามารถในการเข้าใจเหตุผลของคุณตอนนี้ยังต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก ต่อให้ใครมีเหตุผลที่ดีเป็นความจริงแท้แค่ไหน คุณก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจได้

วันนี้คุณอาจะไม่เข้าใจในเหตุผลของหลายคนในที่นี้ แต่ผมเชื่อว่าสักวันคุณต้องเข้าใจโดยเฉพาะเมื่อคุณได้เป็นแม่คนแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่