ตัวเราเองเริ่มเป็นสิวตั้งแต่ประมาณ ม. 1 ก็คือเริ่มมีประจำเดือน แต่ก็เป็นไม่มาก พยายามหายามาทาเอง ก็ตามที่เห็นโฆษณาในทีวีนั่นแหละค่ะ
แต่มันก็ไม่ดีขึ้นจนประมาณ ม. 2 แม่ก็พาไปหาหมอผิวหนัง ก็ทายาและกินยาแก้อักเสบ สิวก็หาย แต่ถ้าเลิกทายาสิวก็จะกลับมาขึ้นอีก
ดังนั้นชีวิตเราจึงผูกติดกับยารักษาสิวของคลินิกมาโดยตลอด ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่ายาที่หมอให้มาทามันคือยาอะไร ยาประกอบด้วย
เจลใสรักษาสิวทาตอนเช้า
ครีมรักษาสิวทาตอนกลางคืน
และมีอีกตัวก็คือ ยาตลับทาผื่น ซึ่งหมอให้ทา 3 วัน แบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์
ที่เหลือก็เป็นวิตามินซีลดรอยสิว
ชีวิตเราก็วนเวียนกับยาพวกนี้ ซึ่งสำหรับเรามันก็มีราคาแพงนะ ซื้อยาทีก็หมดเกือบพัน อยู่ได้ประมาณเดือนนึง
ช่วง ม. ปลาย ผิวหน้าเราดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย สิวอาจจะมีขึ้นมาบ้างช่วงที่ยาหมดแล้วเรายังไม่มีเวลาไปซื้อ แต่ถ้ากลับมาทาก็โอเคเหมือนเดิม ชีวิตขาดยาทาสิวไม่ได้จริงๆ
แล้วจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตก็เกิดขึ้นกับเราค่ะ
ช่วงใกล้จบ ม. หก สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเราค่ะ เริ่มจากมีสิวผดเล็กๆขึ้นเต็มใบหน้าของเราไปหมดเลยค่ะ ขอย้ำว่าทุกพื้นผิวบนใบหน้าเลยจริงๆ ซึ่งสาเหตุจริงๆ มาจนบัดนี้เราก็ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่เราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคืนหนึ่งในช่วงนั้นเรายืมยาแต้มคลินด้ามัยซินของน้องมาใช้โดยที่เราก็ทายาตลับแก้ผื่นของหมอด้วย แล้วมันอาจจะตีกัน หรืออาจจะทำให้เราแพ้ อันนี้เราเดาจริงๆค่ะ (ซึ่งเราก็เพิ่งจะมาเดาอีกทีหลังเหมือนกันค่ะ ว่ายาทาผื่นอันนั้นมันน่าจะเป็น steroid)
แต่เราก็ยังนอนใจค่ะ คิดว่าทายาหมอปกติไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็หายเอง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นสิคะ จากสิวผดเล็กๆ มันก็กลายเป็นสิวอักเสบแดงเม็ดใหญ่เต็มไปหมดเลยค่ะ ตอนนั้นเราเศร้าใจมาก
เราไปพบหมออีกครั้ง หมอเค้าก็ตกใจมากนะคะ แล้วเค้าก็รักษาเราโดยการให้เรากินยาชนิดหนึ่ง ซึ่งก่อนที่จะกินหมอเค้าก็คุยกับเราว่ายานี้ทานในผู้หญิงที่จะตั้งครรภ์ไม่ได้นะ และสั่งให้เราไปเจาะเลือดตรวจค่า SGOT SGPT มาก่อนกินยา(ปัจจุบันก็ทราบว่าคือยา acnotin) ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาต่อมาของเราจนถึงปัจจุบันค่ะ
เราก็กินยามาเรื่อยๆค่ะ ประมาณ 1 เทอมได้ตอนนี้ขึ้นปีหนึ่งแล้ว มันก็ดีขึ้นนิดหน่อยนะคะ แต่ด้วยความจิตตก เราไปบ้านเพื่อนแล้วเพื่อนก็แนะนำให้ใช้สบู่ก๊กเลี้ยงลองเอามาล้างหน้าดูเพื่อนบอกว่าเค้าใช้แล้วหาย ตอนนั้นอะไรก็ได้ถ้าหายเราก็อยากจะลองเลยซื้อมาใช้
คือมันก็หายนะคะแต่แบบ มันกัดผิวค่ะ ตอนล้างๆถูๆนี่ มีเลือดไหลออกมาเลยนะคะ แล้วก็แสบมากด้วย แต่สิวที่อักเสบนูนๆมันก็เรียบไป เราก็หลงดีใจนึกว่ามันหาย หารู้ไม่ว่านี่แหละที่ทำให้เราต้องเป็นหลุมสิวมาจนถึงทุกวันนี้ซึ่งมันแก้ไขไม่ได้ TT O TT
เอ่อ คือมันยาวมากเลยค่ะ TT^TT หลังจากนี้จะเล่าแบบย่อๆที่สุดเท่าที่จะย่อได้
- เราอยากจะหยุดหาหมอสักที เรากลัวการกิน acnotin ด้วย เราเลยศึกษาใน internet และซื้อ benzac AC กับ retin A มาทาเอง
- เราแพ้ยาทั้ง 2 ตัวนั้นค่ะ เบนเซค ใช้แล้วผดขึ้นตามแนวกรามเยอะมากก retin A ทนใช้ไป 1 หลอด ไม่ไหวแล้วจริงๆ
-ตัดสินใจ ไปหาหมอศิริราชค่ะ เล่าให้เค้าฟังว่าเคยใช้เบนเซค เรตินเอ คลินด้ามัยซินแล้วแพ้ เคยกิน acnotin
- หมอศิริราชให้ใช้ยาทา duac once daily gel กับ eryacne ยากินก็ doxycycline หาหมอมาอย่างนี้ประมาณ 2 เดือนได้ก็ดีขึ้น
- หมอบอกหายแล้ว ก็ทายาไปเรื่อยๆ สิวขึ้นก็ทา คือแบบหมอจะต่างกับคลินิกตรงเค้าไม่ได้จะรักษาแผลเป็นให้กับเราค่ะ
(ขอแทรกว่าช่วงนี้คือช่วงเทอม 2 ของปี 1 หลังจากนั้นเราต้องย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดและต้องใช้น้ำบาดาล และสิวของเราก็เริ่มกลับมา คือทายาแบบเดิมก็ไม่หายแล้ว โอ๊ย ตอนนี้รู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก ซื้อ doxy มากินเองก็ไม่หายและรู้ว่ามันไม่ดีที่กินยาปฎิชีวนะพร่ำเพรื่อ เราเลยหยุด และเราก็ไม่สะดวกจะไปหาหมอศิริราชเหมือนเดิมอีกแล้วด้วยเพราะรอคิวนานมากและไปวันธรรมดา แต่เราย้ายมาเรียน ตจว. แล้ว)
- ในที่สุด..... เราก็กลับมาหาหมอที่คลินิกเดิมอีกครั้ง
- หมอเริ่มต้นด้วยการให้ยาทาเราเหมือนเดิมก่อนค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องแย่ขึ้น เมื่อเราแพ้ยาเจลใสรักษาสิวที่เราเคยใช้มาตลอดค่ะ สิวขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกก หน้าเรากลับไปเลวร้ายอีกแล้วววววว (ตอนนี้เริ่มขึ้นปี 2 ในมหาวิทยาลัย ตจว. )
- ช่วงนี้เรานอนร้องไห้ทุกคืนเลยค่ะ มันเศร้ามากจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แบบ ตอนนั้นอยู่ ตจว ก็พยายามโทรคุยกับหมอ หมอก็บอกให้เรามาหา คือหมอจ่ายยาให้เรามาทา 1 เดือนค่ะ แต่ใช้แค่ 1 อาทิตย์เราก็ไม่ไหวแล้วค่ะ รอวันหยุดแล้วกลับไปหาหมอ จิตใจตอนนั้นย่ำแย่มาก
- สุดท้าย เราก็ต้องกลับมากินเจ้า acnotin และเปลี่ยนยาทาใหม่ แรกๆกินacnotin ทุกวัน เป็นวันเว้นวัน เป็นวันเว้นสองวัน และเป็นวันเว้นสามวัน
- เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ถึง 2 ปี สิวก็ยังมีขึ้นมาบ้างประปรายต้องคอยคุมอย่างเข้มงวดเสมอ หมอบอกว่าหน้าเราบางมาก ได้ไปทำทรีตเม้น หรือใช้ครีมประหลาดอะไรรึเปล่า เราบอกว่าไม่เคยเลยค่ะ ช่วงที่เราหายไปรักษาเองหรือไปหาหมอศิริราชเราก็เล่าให้หมอฟังทั้งหมด (แต่เราไม่ได้พูดถึงสบู่ก๊กเลี้ยงนะคะ เพราะตอนนั้นเรายังไม่รู้ตัว เราเพิ่งจะมานึกถึงได้ไม่นานนี้เองค่ะ และเราคิดว่านี่แหละน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราหน้าบางแพ้ง่ายมาจนถึงตอนนี้)
- ค่ะ อย่างที่บอกเรากิน acnotin มานานมากแล้ว หมอก็อยากให้เราหยุดยากินนะคะ แต่หมอบอกว่ายังหยุดไม่ได้สิวยังขึ้นอยู่
- แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจหยุดกินยา acnotin ด้วยตัวเองค่ะ เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจเลย แต่เราก็ยังซื้อยาทาของหมอใช้เองอยู่เรื่อยๆนะคะ แต่เราก็พยายามจะหยุดยาทาผื่นซึ่งเราคิดว่าเป็น steroid อะค่ะ
- เราหยุดกินยามาได้ 3 เดือนกว่าแล้ว แต่ปัญหาคือสิวเริ่มจะกลับมาขึ้นอีกครั้งแล้วค่ะ คือตลอด 3 เดือนนี่มันก็ยังขึ้นๆวนเวียนไปมาอยู่ตลอดนะคะ แต่ตอนนี้มันเริ่มจะเยอะจนเรากลัวว่าจะกลับไปเป็นมากอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วค่ะ ตอนนี้เราเลยลังเลว่าเราจะกลับไปกิน acnotin อีกดีมั้ย คือถ้าเรากลับไปพบหมออีกครั้งเราก็กลัวจะถูกว่าอ่ะค่ะที่เราหยุดกินยาไปกลางคันแล้วต้องมาเริ่มกินใหม่อีก แต่ใจจริงเราก็ไม่อยากกินเลยนะคะ แต่เราก็ไม่อยากกลับไปเป็นสิวมากๆแบบเดิมแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เรากังวลและกลุ้มใจมากค่ะ
ถ้ามีคนอ่านถึงตรงนี้เราขอขอบคุณมากนะคะ เพราะเราพิมพ์มายาวมากจริงๆ เรากลุ้มใจมานานแล้วแต่ไม่รู้จะพูดกับใคร เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆในห้องนี้ค่ะ จริงๆแค่ได้ระบายก็รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมากจริงๆนะคะ
อยากระบายและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องสิวค่ะ
แต่มันก็ไม่ดีขึ้นจนประมาณ ม. 2 แม่ก็พาไปหาหมอผิวหนัง ก็ทายาและกินยาแก้อักเสบ สิวก็หาย แต่ถ้าเลิกทายาสิวก็จะกลับมาขึ้นอีก
ดังนั้นชีวิตเราจึงผูกติดกับยารักษาสิวของคลินิกมาโดยตลอด ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่ายาที่หมอให้มาทามันคือยาอะไร ยาประกอบด้วย
เจลใสรักษาสิวทาตอนเช้า
ครีมรักษาสิวทาตอนกลางคืน
และมีอีกตัวก็คือ ยาตลับทาผื่น ซึ่งหมอให้ทา 3 วัน แบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์
ที่เหลือก็เป็นวิตามินซีลดรอยสิว
ชีวิตเราก็วนเวียนกับยาพวกนี้ ซึ่งสำหรับเรามันก็มีราคาแพงนะ ซื้อยาทีก็หมดเกือบพัน อยู่ได้ประมาณเดือนนึง
ช่วง ม. ปลาย ผิวหน้าเราดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย สิวอาจจะมีขึ้นมาบ้างช่วงที่ยาหมดแล้วเรายังไม่มีเวลาไปซื้อ แต่ถ้ากลับมาทาก็โอเคเหมือนเดิม ชีวิตขาดยาทาสิวไม่ได้จริงๆ
แล้วจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตก็เกิดขึ้นกับเราค่ะ
ช่วงใกล้จบ ม. หก สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเราค่ะ เริ่มจากมีสิวผดเล็กๆขึ้นเต็มใบหน้าของเราไปหมดเลยค่ะ ขอย้ำว่าทุกพื้นผิวบนใบหน้าเลยจริงๆ ซึ่งสาเหตุจริงๆ มาจนบัดนี้เราก็ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ แต่เราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะคืนหนึ่งในช่วงนั้นเรายืมยาแต้มคลินด้ามัยซินของน้องมาใช้โดยที่เราก็ทายาตลับแก้ผื่นของหมอด้วย แล้วมันอาจจะตีกัน หรืออาจจะทำให้เราแพ้ อันนี้เราเดาจริงๆค่ะ (ซึ่งเราก็เพิ่งจะมาเดาอีกทีหลังเหมือนกันค่ะ ว่ายาทาผื่นอันนั้นมันน่าจะเป็น steroid)
แต่เราก็ยังนอนใจค่ะ คิดว่าทายาหมอปกติไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็หายเอง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นสิคะ จากสิวผดเล็กๆ มันก็กลายเป็นสิวอักเสบแดงเม็ดใหญ่เต็มไปหมดเลยค่ะ ตอนนั้นเราเศร้าใจมาก
เราไปพบหมออีกครั้ง หมอเค้าก็ตกใจมากนะคะ แล้วเค้าก็รักษาเราโดยการให้เรากินยาชนิดหนึ่ง ซึ่งก่อนที่จะกินหมอเค้าก็คุยกับเราว่ายานี้ทานในผู้หญิงที่จะตั้งครรภ์ไม่ได้นะ และสั่งให้เราไปเจาะเลือดตรวจค่า SGOT SGPT มาก่อนกินยา(ปัจจุบันก็ทราบว่าคือยา acnotin) ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาต่อมาของเราจนถึงปัจจุบันค่ะ
เราก็กินยามาเรื่อยๆค่ะ ประมาณ 1 เทอมได้ตอนนี้ขึ้นปีหนึ่งแล้ว มันก็ดีขึ้นนิดหน่อยนะคะ แต่ด้วยความจิตตก เราไปบ้านเพื่อนแล้วเพื่อนก็แนะนำให้ใช้สบู่ก๊กเลี้ยงลองเอามาล้างหน้าดูเพื่อนบอกว่าเค้าใช้แล้วหาย ตอนนั้นอะไรก็ได้ถ้าหายเราก็อยากจะลองเลยซื้อมาใช้
คือมันก็หายนะคะแต่แบบ มันกัดผิวค่ะ ตอนล้างๆถูๆนี่ มีเลือดไหลออกมาเลยนะคะ แล้วก็แสบมากด้วย แต่สิวที่อักเสบนูนๆมันก็เรียบไป เราก็หลงดีใจนึกว่ามันหาย หารู้ไม่ว่านี่แหละที่ทำให้เราต้องเป็นหลุมสิวมาจนถึงทุกวันนี้ซึ่งมันแก้ไขไม่ได้ TT O TT
เอ่อ คือมันยาวมากเลยค่ะ TT^TT หลังจากนี้จะเล่าแบบย่อๆที่สุดเท่าที่จะย่อได้
- เราอยากจะหยุดหาหมอสักที เรากลัวการกิน acnotin ด้วย เราเลยศึกษาใน internet และซื้อ benzac AC กับ retin A มาทาเอง
- เราแพ้ยาทั้ง 2 ตัวนั้นค่ะ เบนเซค ใช้แล้วผดขึ้นตามแนวกรามเยอะมากก retin A ทนใช้ไป 1 หลอด ไม่ไหวแล้วจริงๆ
-ตัดสินใจ ไปหาหมอศิริราชค่ะ เล่าให้เค้าฟังว่าเคยใช้เบนเซค เรตินเอ คลินด้ามัยซินแล้วแพ้ เคยกิน acnotin
- หมอศิริราชให้ใช้ยาทา duac once daily gel กับ eryacne ยากินก็ doxycycline หาหมอมาอย่างนี้ประมาณ 2 เดือนได้ก็ดีขึ้น
- หมอบอกหายแล้ว ก็ทายาไปเรื่อยๆ สิวขึ้นก็ทา คือแบบหมอจะต่างกับคลินิกตรงเค้าไม่ได้จะรักษาแผลเป็นให้กับเราค่ะ
(ขอแทรกว่าช่วงนี้คือช่วงเทอม 2 ของปี 1 หลังจากนั้นเราต้องย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดและต้องใช้น้ำบาดาล และสิวของเราก็เริ่มกลับมา คือทายาแบบเดิมก็ไม่หายแล้ว โอ๊ย ตอนนี้รู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก ซื้อ doxy มากินเองก็ไม่หายและรู้ว่ามันไม่ดีที่กินยาปฎิชีวนะพร่ำเพรื่อ เราเลยหยุด และเราก็ไม่สะดวกจะไปหาหมอศิริราชเหมือนเดิมอีกแล้วด้วยเพราะรอคิวนานมากและไปวันธรรมดา แต่เราย้ายมาเรียน ตจว. แล้ว)
- ในที่สุด..... เราก็กลับมาหาหมอที่คลินิกเดิมอีกครั้ง
- หมอเริ่มต้นด้วยการให้ยาทาเราเหมือนเดิมก่อนค่ะ แต่ก็เกิดเรื่องแย่ขึ้น เมื่อเราแพ้ยาเจลใสรักษาสิวที่เราเคยใช้มาตลอดค่ะ สิวขึ้นเยอะมากกกกกกกกกกก หน้าเรากลับไปเลวร้ายอีกแล้วววววว (ตอนนี้เริ่มขึ้นปี 2 ในมหาวิทยาลัย ตจว. )
- ช่วงนี้เรานอนร้องไห้ทุกคืนเลยค่ะ มันเศร้ามากจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แบบ ตอนนั้นอยู่ ตจว ก็พยายามโทรคุยกับหมอ หมอก็บอกให้เรามาหา คือหมอจ่ายยาให้เรามาทา 1 เดือนค่ะ แต่ใช้แค่ 1 อาทิตย์เราก็ไม่ไหวแล้วค่ะ รอวันหยุดแล้วกลับไปหาหมอ จิตใจตอนนั้นย่ำแย่มาก
- สุดท้าย เราก็ต้องกลับมากินเจ้า acnotin และเปลี่ยนยาทาใหม่ แรกๆกินacnotin ทุกวัน เป็นวันเว้นวัน เป็นวันเว้นสองวัน และเป็นวันเว้นสามวัน
- เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ถึง 2 ปี สิวก็ยังมีขึ้นมาบ้างประปรายต้องคอยคุมอย่างเข้มงวดเสมอ หมอบอกว่าหน้าเราบางมาก ได้ไปทำทรีตเม้น หรือใช้ครีมประหลาดอะไรรึเปล่า เราบอกว่าไม่เคยเลยค่ะ ช่วงที่เราหายไปรักษาเองหรือไปหาหมอศิริราชเราก็เล่าให้หมอฟังทั้งหมด (แต่เราไม่ได้พูดถึงสบู่ก๊กเลี้ยงนะคะ เพราะตอนนั้นเรายังไม่รู้ตัว เราเพิ่งจะมานึกถึงได้ไม่นานนี้เองค่ะ และเราคิดว่านี่แหละน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราหน้าบางแพ้ง่ายมาจนถึงตอนนี้)
- ค่ะ อย่างที่บอกเรากิน acnotin มานานมากแล้ว หมอก็อยากให้เราหยุดยากินนะคะ แต่หมอบอกว่ายังหยุดไม่ได้สิวยังขึ้นอยู่
- แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจหยุดกินยา acnotin ด้วยตัวเองค่ะ เพราะเรารู้สึกไม่สบายใจเลย แต่เราก็ยังซื้อยาทาของหมอใช้เองอยู่เรื่อยๆนะคะ แต่เราก็พยายามจะหยุดยาทาผื่นซึ่งเราคิดว่าเป็น steroid อะค่ะ
- เราหยุดกินยามาได้ 3 เดือนกว่าแล้ว แต่ปัญหาคือสิวเริ่มจะกลับมาขึ้นอีกครั้งแล้วค่ะ คือตลอด 3 เดือนนี่มันก็ยังขึ้นๆวนเวียนไปมาอยู่ตลอดนะคะ แต่ตอนนี้มันเริ่มจะเยอะจนเรากลัวว่าจะกลับไปเป็นมากอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วค่ะ ตอนนี้เราเลยลังเลว่าเราจะกลับไปกิน acnotin อีกดีมั้ย คือถ้าเรากลับไปพบหมออีกครั้งเราก็กลัวจะถูกว่าอ่ะค่ะที่เราหยุดกินยาไปกลางคันแล้วต้องมาเริ่มกินใหม่อีก แต่ใจจริงเราก็ไม่อยากกินเลยนะคะ แต่เราก็ไม่อยากกลับไปเป็นสิวมากๆแบบเดิมแล้วเหมือนกัน ตอนนี้เรากังวลและกลุ้มใจมากค่ะ
ถ้ามีคนอ่านถึงตรงนี้เราขอขอบคุณมากนะคะ เพราะเราพิมพ์มายาวมากจริงๆ เรากลุ้มใจมานานแล้วแต่ไม่รู้จะพูดกับใคร เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆในห้องนี้ค่ะ จริงๆแค่ได้ระบายก็รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมากจริงๆนะคะ