คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
1. ก็เป็นตัวเลขโดยประมาณใช้ได้ทั่วไป
1.1 ถ้าจะเอาละเอียดต้องมีการวัดด้วย เครื่องมือวัดก็อย่างเช่น ParkTool CC-3.2 http://www.parktool.com/product/chain-wear-indicator-CC-3-2
ถ้าซีเรียสจริงๆ เป๊ะๆ เปลี่ยนโซ่แล้วเฟืองไม่โดด วัดโซ่ได้ยืด 0.75% ก็ควรเปลี่ยนโซ่ได้
ไม่มีเครื่องมือ ก็วัดด้วยไม้บรรทัดเหล็กหรือเวอร์เนียร์ http://sheldonbrown.com/chains.html
โซ่ 10 ข้อ ควรวัดได้ 25.4 เซนติเมตร ถ้าวัดได้เริ่มเกิน 25.5 เซนติเมตร ควรรีบเปลี่ยนโซ่
การเปลี่ยนโซ่ช้าเกินไป มันจะทำให้เฟืองมีการสึกหรอมากไปด้วย เมื่อเฟืองสึก + โซ่ใหม่ มันจะมีอาการโซ่โดดบนเฟืองที่สึกมาก เฟืองสึกน้อยอาการก็จะน้อย อาการแบบนี้ถ้าทนใช้ไปสักพัก โซ่ยืดสักหน่อยมันก็เข้าที่เองได้
ถ้ารับอาการไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนเฟืองตามโซ่ไปด้วย
2. การยืดอายุการใช้งาน? ก็ทำความสะอาดเข้าไป
โซ่โสโครกทำให้เฟืองกับจานหน้าพังเร็วนะจะบอกให้
ถ้าถอดโซ่มาล้างได้ยิ่งดี ล้างเสร็จทำให้แห้งแล้วหยอดน้ามมันลงไปทีละข้อ แล้วค่อยประกอบกลับ
ถ้ามีเวลามากๆ ไปปั่นสัก 200-500 กิโล กลับมาล้างทีนึงจะดีมาก โซ่ไม่ซกมกมาก ล้างง่ายกว่ากันเยอะ
ให้ดีขึ้นไปอีก ถ้ามีโซ่สำรองอีก 1-2 เส้น ก็สบายเบย ล้างโซ่ทีนึง ก็เอาโซ่สำรองสะอาดๆ หล่อลื่นดีๆ มาเปลี่ยนแทน หมุนเวียนการใช้งานกันไปเรื่อยๆ แบบนี้โซ่เส้นนึงใช้เกินสามพันกิโลเมตรได้ไม่ยาก
นอกจากความสะอาดและการหล่อลื่น การใช้เกียร์ก็สำคัญ เห็นมาเยอะ พวกปั่นอยู่เกียร์หนักเกียร์เดียว ปั่นจนโซ่ยืดไปหมด เฟืองท้ายอันเล็กก็แหลมเปี๊ยววววอันเดียว
ลูกกลิ้งตีนผีกับจานหน้าก็แหลมไปด้วย เห็นแล้วสยองมั่กๆ
ปั่นจักรยานมันก็ไม่ต่างกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ใช้เกียร์ใช้รอบให้เหมาะกับเส้นทางและความเร็ว จะดีกว่ามาทู่ซี้โชว์พาวว์ว่าตูเจ๋งนะ ใช้เกียร์หนักก็ได้ (แต่รอบต่ำชิบหัย)
1.1 ถ้าจะเอาละเอียดต้องมีการวัดด้วย เครื่องมือวัดก็อย่างเช่น ParkTool CC-3.2 http://www.parktool.com/product/chain-wear-indicator-CC-3-2
ถ้าซีเรียสจริงๆ เป๊ะๆ เปลี่ยนโซ่แล้วเฟืองไม่โดด วัดโซ่ได้ยืด 0.75% ก็ควรเปลี่ยนโซ่ได้
ไม่มีเครื่องมือ ก็วัดด้วยไม้บรรทัดเหล็กหรือเวอร์เนียร์ http://sheldonbrown.com/chains.html
โซ่ 10 ข้อ ควรวัดได้ 25.4 เซนติเมตร ถ้าวัดได้เริ่มเกิน 25.5 เซนติเมตร ควรรีบเปลี่ยนโซ่
การเปลี่ยนโซ่ช้าเกินไป มันจะทำให้เฟืองมีการสึกหรอมากไปด้วย เมื่อเฟืองสึก + โซ่ใหม่ มันจะมีอาการโซ่โดดบนเฟืองที่สึกมาก เฟืองสึกน้อยอาการก็จะน้อย อาการแบบนี้ถ้าทนใช้ไปสักพัก โซ่ยืดสักหน่อยมันก็เข้าที่เองได้
ถ้ารับอาการไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนเฟืองตามโซ่ไปด้วย
2. การยืดอายุการใช้งาน? ก็ทำความสะอาดเข้าไป
โซ่โสโครกทำให้เฟืองกับจานหน้าพังเร็วนะจะบอกให้
ถ้าถอดโซ่มาล้างได้ยิ่งดี ล้างเสร็จทำให้แห้งแล้วหยอดน้ามมันลงไปทีละข้อ แล้วค่อยประกอบกลับ
ถ้ามีเวลามากๆ ไปปั่นสัก 200-500 กิโล กลับมาล้างทีนึงจะดีมาก โซ่ไม่ซกมกมาก ล้างง่ายกว่ากันเยอะ
ให้ดีขึ้นไปอีก ถ้ามีโซ่สำรองอีก 1-2 เส้น ก็สบายเบย ล้างโซ่ทีนึง ก็เอาโซ่สำรองสะอาดๆ หล่อลื่นดีๆ มาเปลี่ยนแทน หมุนเวียนการใช้งานกันไปเรื่อยๆ แบบนี้โซ่เส้นนึงใช้เกินสามพันกิโลเมตรได้ไม่ยาก
นอกจากความสะอาดและการหล่อลื่น การใช้เกียร์ก็สำคัญ เห็นมาเยอะ พวกปั่นอยู่เกียร์หนักเกียร์เดียว ปั่นจนโซ่ยืดไปหมด เฟืองท้ายอันเล็กก็แหลมเปี๊ยววววอันเดียว
ลูกกลิ้งตีนผีกับจานหน้าก็แหลมไปด้วย เห็นแล้วสยองมั่กๆ
ปั่นจักรยานมันก็ไม่ต่างกับรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ใช้เกียร์ใช้รอบให้เหมาะกับเส้นทางและความเร็ว จะดีกว่ามาทู่ซี้โชว์พาวว์ว่าตูเจ๋งนะ ใช้เกียร์หนักก็ได้ (แต่รอบต่ำชิบหัย)
แสดงความคิดเห็น
ถามการ maintenance ชุดขับเสือหมอบ 105 หน่อยครับ ...
http://ppantip.com/topic/30508678
บอกไว้เรื่องการ maintenance ชุดขับเคลื่อน
" 3000โลเปลี่ยนโซ่ทีนึง 6000โลเปลี่ยนโซ่กับเฟืองหลัง 9000โลเปลี่ยนจานหน้า "
คำถามครับ
1.ตัวเลขประมาณนี้ ใช้กับทุกชุดตั้งแต่ 2300 จนถึง 105 เลยหรือเปล่าครับ?
(คิดว่าพวกที่สูงขึ้นไปกว่าน่าจะทนกว่านี้พอสมควร)
1.1 หรือว่ามีอาการอะไรแล้วค่อยเปลี่ยนที่พอจะสังเกตได้ครับ
2.มีเทคนิคการยืด หรือ ใช้งานให้ทนๆแบบไหนบ้างครับ ช่วยบอกมือใหม่อย่างผมทีครับ
---------------------------
อันที่ผมเคยอ่านเจอ (แต่จำไม่ได้แล้วว่าท่านไหนบอกไว้ขออภัยครับ)
ประมาณว่า ใช้โซ่ 2 ชุดสลับกันทุกๆ 500 กม หรือเปล่าเนี่ย เพื่อให้เฟืองหลังสึกไปพร้อมๆกัน
วิธีนี้ใช้ดีหรือไม่ครับ สำหรับเปลี่ยนเฟืองหลังประมาณ 9,000 ถึง 10,000 โลครั้งเดียวนะครับ
พอดีผมขี่มาเดือนค่อนครบไป 1,000 โลแล้วอ่ะครับเห็นแล้วลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาเลย
ขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้านะครับ