ว่าจะไม่เขียนถึงแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ
ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) มีรถเมล์หลายสายวิ่งบริการ
58,113,143,168,519,514, ปอ.8, ปอ.พ4, และ ปอ.173 ที่น่าจะมีรถวิ่งอยู่คันเดียวมั้ง
113 มีรถที่วิ่งอยู่ 2 สี ครีมน้ำเงินกับ สีชมพูหวานซึ้ง วิ่งจากมีนบุรี-หัวลำโพง
ความต่างกันจากความรู้สึกผมเองว่า รถสีชมพูคือรถด่วนสภาพดีหน่อย(จะด่วนนรกรึเปล่าก็แล้วแต่บุคคล)
แต่สีชมพูนี้มาทีไรผมก็จะถึงที่ทำงานเร็วขึ้นประมาณ 10 นาที
ส่วนสีครีมน้ำเงินสภาพเหมือนเอารถที่สายอื่นเค้าทิ้งแล้ว เอามาพ่นสีวิ่งรับคนกันใหม่
สิ่งที่พบเห็นเป็นปกติคือ 2 สีนี้ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกันเท่าไหร่ เหมือนอยู่คนละสาย
ขับมาทันกันเมื่อไหร่ ผู้โดยสารเตรียมตัวหาหลักยึดกันให้มั่น แข่งนรกกำลังจะเริ่ม
แต่สิ่งที่จะพูดถึงในวันนี้คือ สาย 113 เป็นรถที่มีผู้โดยสารแน่นขนัด ทั้งที่เป็นเวลาตี 5
ขณะที่สายอื่นๆ เบาบางเลือกที่นั่งได้ตามสบาย
วันนี้เช่นกัน ตี 5 แน่นเป็นปลากระป๋องสามแม่ครัว เป็นธรรมเนียมอิกระปี๋ก็จะบอกว่าชิดในหน่อยเพ่
เดินในเลยเพ่ จนผมรู้สึกว่าผู้โดยสารบางส่วน อาจจำเป็นต้องไปจดทะเบียนสมรสกันโดยเร็ว
ตี 5 วันนี้อากาศชุ่มช่ำจากที่ฝนตกเมื่อคืน แต่ผมเหงื่อแตกโชกเพราะผู้โดยสารที่ยัดทะนานกันขึ้นมา
รถวิ่งผ่านรามคำแหงที่มีรถเมล์จากหลายทิศทางวิ่งผ่านอีกหลายสิบสาย แต่ 113 ก็ยังมีคนพยายามขึ้นมาอีก
เพ่ เพ่ คนนั้นน่ะเดินในหน่อยเพ่ เสียงที่ได้ยินตลอดทาง ทั้งที่ด้านในมันขยับไปไม่ได้แล้ว
เรื่องก็มาเกิดตรงที่เลยแยกอโศกมาเล็กน้อย ป้าคนนึงอายุประมาณ 70 ลงจากรถแล้วเสียหลักล้มลง
คนขับไม่เห็น กระปี๋ไม่เห็น ขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนพ่อค้า แม่ค้าตรงนั้นร้องเสียงเอะอะโวยวาย
จึงรู้ว่ามีผู้โดยสารถูกรถทับที่เท้า ขณะล้มลงบาดแผลมากเอาการ ดูแล้วคงหักแผลแตกปริ
กระเป๋าไม่ลงมาดู คนขับนั่งเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นช่วยกันหามพาขึ้นรถเมล์นั่นแหละ ไปส่งโรงพยาบาล
ได้ยินผู้โดยสารที่ลงมาต่อรถคุยกันว่า ไม่จำเป็นจะไม่ขึ้นมันหรอกสายนี้
ผมก็คิดแบบนั้น แต่จำเป็นที่จะต้องขึ้นไม่มีทางเลือก
องค์การขนส่งฯ ช่วยดูแลให้เป็นพิเศษมากกว่านี้หน่อยครับ
*******รถเมล์สาย 113
ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) มีรถเมล์หลายสายวิ่งบริการ
58,113,143,168,519,514, ปอ.8, ปอ.พ4, และ ปอ.173 ที่น่าจะมีรถวิ่งอยู่คันเดียวมั้ง
113 มีรถที่วิ่งอยู่ 2 สี ครีมน้ำเงินกับ สีชมพูหวานซึ้ง วิ่งจากมีนบุรี-หัวลำโพง
ความต่างกันจากความรู้สึกผมเองว่า รถสีชมพูคือรถด่วนสภาพดีหน่อย(จะด่วนนรกรึเปล่าก็แล้วแต่บุคคล)
แต่สีชมพูนี้มาทีไรผมก็จะถึงที่ทำงานเร็วขึ้นประมาณ 10 นาที
ส่วนสีครีมน้ำเงินสภาพเหมือนเอารถที่สายอื่นเค้าทิ้งแล้ว เอามาพ่นสีวิ่งรับคนกันใหม่
สิ่งที่พบเห็นเป็นปกติคือ 2 สีนี้ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกันเท่าไหร่ เหมือนอยู่คนละสาย
ขับมาทันกันเมื่อไหร่ ผู้โดยสารเตรียมตัวหาหลักยึดกันให้มั่น แข่งนรกกำลังจะเริ่ม
แต่สิ่งที่จะพูดถึงในวันนี้คือ สาย 113 เป็นรถที่มีผู้โดยสารแน่นขนัด ทั้งที่เป็นเวลาตี 5
ขณะที่สายอื่นๆ เบาบางเลือกที่นั่งได้ตามสบาย
วันนี้เช่นกัน ตี 5 แน่นเป็นปลากระป๋องสามแม่ครัว เป็นธรรมเนียมอิกระปี๋ก็จะบอกว่าชิดในหน่อยเพ่
เดินในเลยเพ่ จนผมรู้สึกว่าผู้โดยสารบางส่วน อาจจำเป็นต้องไปจดทะเบียนสมรสกันโดยเร็ว
ตี 5 วันนี้อากาศชุ่มช่ำจากที่ฝนตกเมื่อคืน แต่ผมเหงื่อแตกโชกเพราะผู้โดยสารที่ยัดทะนานกันขึ้นมา
รถวิ่งผ่านรามคำแหงที่มีรถเมล์จากหลายทิศทางวิ่งผ่านอีกหลายสิบสาย แต่ 113 ก็ยังมีคนพยายามขึ้นมาอีก
เพ่ เพ่ คนนั้นน่ะเดินในหน่อยเพ่ เสียงที่ได้ยินตลอดทาง ทั้งที่ด้านในมันขยับไปไม่ได้แล้ว
เรื่องก็มาเกิดตรงที่เลยแยกอโศกมาเล็กน้อย ป้าคนนึงอายุประมาณ 70 ลงจากรถแล้วเสียหลักล้มลง
คนขับไม่เห็น กระปี๋ไม่เห็น ขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนพ่อค้า แม่ค้าตรงนั้นร้องเสียงเอะอะโวยวาย
จึงรู้ว่ามีผู้โดยสารถูกรถทับที่เท้า ขณะล้มลงบาดแผลมากเอาการ ดูแล้วคงหักแผลแตกปริ
กระเป๋าไม่ลงมาดู คนขับนั่งเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นช่วยกันหามพาขึ้นรถเมล์นั่นแหละ ไปส่งโรงพยาบาล
ได้ยินผู้โดยสารที่ลงมาต่อรถคุยกันว่า ไม่จำเป็นจะไม่ขึ้นมันหรอกสายนี้
ผมก็คิดแบบนั้น แต่จำเป็นที่จะต้องขึ้นไม่มีทางเลือก
องค์การขนส่งฯ ช่วยดูแลให้เป็นพิเศษมากกว่านี้หน่อยครับ