[เรื่องสั้น+การ์ตูน] บริษัท(เกาหลี)ของหนู ภาค 1 ตอน 6

กระทู้สนทนา
ความเดิมตอนที่แล้ว ภาค 1 ตอน 1 :  http://ppantip.com/topic/30393069
ความเดิมตอนที่แล้ว ภาค 1 ตอน 2 :  http://ppantip.com/topic/30406507
ความเดิมตอนที่แล้ว ภาค 1 ตอน 3 :  http://ppantip.com/topic/30420586
ความเดิมตอนที่แล้ว ภาค 1 ตอน 4 :  http://ppantip.com/topic/30447989
ความเดิมตอนที่แล้ว ภาค 1 ตอน 5 :  http://ppantip.com/topic/30477975



ตอนที่ 6   นามบัตร



                  หลังจากพบนายเช้านั้น หนูต้องติดรถนายไปโรงงานของเราที่หนองแขม นายใช้รถเบนซ์นำเข้า ราคาตอนนั้นก็ร่วม 10 ล้านบาท หนูนั่งหน้าคู่ไปกับคนขับรถ ส่วนนายนั่งตอนหลังคู่กับคุณผู้จัดการทั่วไป ได้ยินท่านพูดไปตลอดทาง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องงานค่ะ เสียงผู้จัดการทั่วไปตอบว่า “yes, sir” “yes, sir” ไปตลอดทางเช่นกัน เวลาพูดกับนาย จะมีคำลงท้ายว่า sir ด้วยทุกครั้งค่ะ หลิ่วตา

                  นอกจากพนักงานคนไทยแล้ว ที่โรงงานก็ยังมีผู้จัดการโรงงานเป็นคนเกาหลี วิศวกรหรือช่างเทคนิคญี่ปุ่นผลัดกันประจำอยู่ 1 คน นายแนะนำหนูกับวิศวกรญี่ปุ่นซึ่งควักนามบัตรออกมาให้ หนูรีบล้วงนามบัตรที่อยู่ในกระเป๋าออกมาแลก แต่ความที่มีกระเป๋าใบโตสะพายอยู่ที่ไหล่ซ้าย และด้วยความรีบ หนูจึงยื่นนามบัตรให้ด้วยมือขวาเพียงมือเดียว

                   ทันใดนั้น นายก็ตวาดว่า “You’re bad !...” และถ้าแปลเป็นไทยก็จะได้ความว่า “ทำไมยื่นนามบัตรมือเดียว ! บริษัทเราเป็นบริษัทใหญ่โตก่อตั้งมานาน มารยาทของยู จะทำให้ภาพพจน์ของบริษัทตกต่ำ” ร้องไห้


                      หนูเรียนรู้ว่า การรับของหรือส่งของให้ผู้อื่น แขก ผู้ใหญ่หรือนาย มี 2 วิธี

    1. มือเดียว กรณีของชิ้นเล็กหรือเบา ยื่นหรือรับด้วยมือขวา ใช้ปลายนิ้วมือซ้ายแตะที่ข้อมือขวา ให้มือเราต่ำกว่าอีกฝ่าย โค้งตัวไปข้างหน้า
    2. สองมือ ได้ทั้งของเบาหรือหนัก ใช้สองมือยื่นหรือรับ ให้มือเราต่ำกว่าอีกฝ่าย โค้งตัวไปข้างหน้า

                     กรณีเป็นนามบัตร ให้หันตัวหนังสือไปด้านผู้รับ ให้อ่านได้สะดวก ดอกไม้

                      เรื่องนามบัตรนี้ นายให้ความสำคัญ ถือว่าทุกคนต้องมีติดตัวคู่กายตลอดเวลาขาดไม่ได้ เปรียบเสมือนดาบของซามูไรผู้กล้า นักธุรกิจและพนักงานขายยิ่งขาดไม่ได้ ถือเป็นมารยาท เป็นใบเบิกทาง เป็นการแนะนำตัวเอง บริษัท สินค้า และเป็นการสานต่อธุรกิจได้อย่างดี

                   พนักงานเกาหลีหรือญี่ปุ่นทราบเรื่องนี้ดี แต่ก็มีเผลอหลุดได้เหมือนกัน มีครั้งหนึ่ง นายนัดเลี้ยงข้าววิศวกรญี่ปุ่น เมื่อพบกันก็แนะนำทั้งสองฝ่าย แล้วแลกนามบัตรกัน หนูรับนามบัตรมาดู อ้าว...ทำไมเป็นชื่อนาย... เข้าใจว่าคงเหลือนามบัตรใบเดียวซึ่งแลกกับนายไปแล้ว พอมาแลกนามบัตรกับหนู จึงเอาของนายให้ เป็นการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าด้วยปฏิภาณไหวพริบได้หน้าตาเฉย ส่วนหนูก็สามารถรับมุขได้เป็นอย่างดีค่ะ หลิ่วตา


                    อีกครั้งที่ไปดูงานที่ญี่ปุ่น หนูกับพนักงานคนไทย 3  คน คิดว่าเอานามบัตรไปมากพอแล้ว แต่ที่ไหนได้ เราพบพนักงานญี่ปุ่นเยอะมาก แลกกันจนนามบัตรหมดเกลี้ยง พนักงานเกาหลีที่ไปด้วยกันก็แลกจนหมดเหมือนกัน แรก ๆ เราใช้วิธีตื้อขอเอานามบัตรคนที่เอามาเป็นกล่องมาเขียนชื่อเรา ก็หมดอีก สุดท้าย ก็วิ่งกันพล่าน หาที่ถ่ายเอกสารในโรงแรม แล้วเอาไปตัด ก็พอรอดตัวรอดตายกันไปได้แหละค่ะ เราจะถ้อยทีถ้อยอาศัยรักกันมากในหมู่พนักงานไทย เกาหลี เวียดนามที่ไปดูงานกันในครั้งนั้น หัวใจ

                    จากญี่ปุ่น เราบินไปดูงานต่อที่เกาหลี มีเลขานายที่เป็นผู้ชายและพนักงานเกาหลีมาต้อนรับเราที่สนามบิน มีการแนะนำตัวกันตามธรรมเนียม เลขานาย*ถึงคราวชะตาขาด ไม่ได้พกนามบัตรติดตัวมาด้วย ก็เป็นเรื่อง ถูกนายเล่นงานด่าต่อหน้าพวกเราว่า “He’s my secretary but he’s so stupid !….” แปลความได้ว่า “นายคนนี้เป็นเลขาฉัน แต่ว่าโง่งี่เง่ามาก...ที่ไม่พกนามบัตร” เรื่องนามบัตรนี้เป็นเรื่องคอขาดทีเดียว ร้องไห้

                        ตั้งแต่นั้น เรื่องนามบัตรสำหรับพวกเราแล้ว ไม่มีลืมซะให้ยากหรอกนะ จะบอกให้ เยี่ยม




* นายมีเลขาที่เกาหลีเกือบสิบคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง




จาก ผู้เขียน   - แสดงความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ได้นะคะ จะยินดีมากเลย จะพยายามโพสต์อาิทิตย์ละ 1 ตอนค่ะ
สามารถติดตามผลงานอื่น ๆ ได้ที่นี่ค่ะ  : )


เรื่องโดย > thanachit writer  : https://www.facebook.com/thanachitwriter


ภาพประกอบโดย > komai กอไหม https://www.facebook.com/pages/komai-%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1/214147661979588
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่