ตอนที่1
Vocaloidคือ....
ตอนที่2
Cryptonผู้พาอนาคตมาสู่ปัจจุบัน [Meiko,Kaito,Miku,Rin,Len,Luka]
ตอนที่3
Internet Co., Ltd. เสียงของ"มืออาชีพ" [Gackpoid,Megpoid,Lily,Gachapoid,CUL,Galaco]
EX1
ทำไมVocaloidถึงไม่ได้ทำเป็นAnime
เผยแพร่ครั้งแรกที่
http://thvocalodata.blogspot.com/
-Tagบริษัทไอที เพราะเป็นบริษัทผลิตโปรแกรมสังเคราะห์เสียง
-Tagเทคโนโลยีเพราะไม่งั้นมีแบบมู้นี้อีก--->
http://ppantip.com/topic/30387096/comment14-1
-ไม่Tag เพลงการ์ตูนเพราะไม่ได้มาจากอนิเมะใดๆทั้งสิ้นตามตอนEX1
-การอ่านชื่อภาษาญี่ปุ่นไม่ได้อิงตามความนิยมแต่นำการออกเสียงตามหลักของจุฬามาดัดแปลง
-ข้อมูลส่วนใหญ่แปลมาจาก Vocaloidwiki (ข้อมูลพื้นฐาน) และEN Wikipedia (เรื่องที่เกี่ยวข้อง) และจากหลายๆแหล่งรวมกับความคิดเห็นที่ได้มาจากการสังเกตุ
2ตอนก่อนหน้านั้นได้กล่าวถึง2ยักษ์ใหญ่ (ไม่รวมYAMAHAซึ่งถ้าเปรียบเทียบแล้วเหมือนพระเจ้าในวงการเพราะมีอำนาจในการชี้นำแนวทางVocaloidอยู่มาก) ที่กุมวงการVocaloidไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ และแน่นอนจากการที่กุมตลาดไว้ทั้งคู่ ส่งผลให้เมื่อพูดถึงVocaloidแล้ว คนก็มักจะนึกถึงของ2บริษัทนี้กับของรายย่อยไม่กี่ตัว ทิ้งให้อีกหลายๆตัวจากทั้งโลกไม่มีใครรู้จักทั้งจากตะวันออกและตะวันตก ซึ่งดูๆไปฝั่งตะวันออกอย่างน้อยตลาดยังดีเพราะหลายตัวแม้ไม่ดังมากก็ยังพอขายได้เช่นIrohaหรือVY series แต่ฝั่งตะวันตกนั้นแม้จะเป็นผู้บุกเบิกVocaloidตัวจริง แต่ตลาดของVocaloidฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะVocaloidภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่าEngloid แทบเงียบกริบ เพิ่งมามีตัวที่ดังๆแค่ไม่กี่ตัว แต่ก็ไม่ดังมากมายอะไรเมื่อเทียบกับตะวันออก ซึ่งจะลองวิเคราะห์ดูตามควาคิดเห็นของข้าเจ้า
1.การตลาดในระยะแรกมุ่งไปแต่ลูกค้าที่เป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพ ทำให้มีลูกค้าน้อยเพราะพวกนี้มักจะฟังนักวิจารณ์เป็นหลักมากกว่าเลือกด้วยความชอบของตัวเอง ซึ่งจากเคสของMeikoที่แม้เป็นรุ่นเก่า ที่คุณภาพสู้รุ่นใหม่ๆไม่ได้แต่ก็มีคนชอบจนพัฒนาเทคนิคในการแต่งเพลง และปรับแต่ง จนบางเพลงสู้รุ่นใหม่ๆได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ และนักแต่งเพลงชื่อดังบาง คนก็มักซื้อตัวที่ชอบไว้ แม้จะมีผลงานที่ใช้ตัวนั้นทำแค่เพลงเดียวหรือไม่มีเลยก็ตาม หรือก็คือซื้อโดยไม่ได้คาดหวังถึงคุณภาพมากมายอะไรเพราะถ้าจะใช้จริงๆก็ไปปรับแต่งเองได้
2.บรรจุภัณฑ์ ในระยะแรกๆ นั้นฝั่งตะวันตกทำมาในแนวเรียบง่ายเหมือนกับซอฟต์แวร์ทั่วไป ซึ่งไม่มีความน่าดึงดูดใจสำหรับมือสมัครเล่นแม้แต่น้อย
เปรียบเทียบระหว่างVocaloid 2คู่แรกของทั้ง2ฝั่ง
แม้ขึ้นยุคVocaloid2แม้Engloidเริ่มมีการใส่คาแรคเตอร์หรือรูปภาพอิมเมจ แต่ระยะแรกก็ทำแบบไม่ได้ทำเพื่อดึงดูดลูกค้าแต่ทำเพื่อให้อิมเมจล้วนๆมากกว่า ซึ่งในระยะหลังที่นำแนวทางของญี่ปุ่นมาปรับใช้ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าความนิยมดีขึ้นมหาศาลแม้จะไม่เท่าของญี่ปุ่นก็ตาม
เปรียบเทียบระหว่างVocaloid2 ตัวแรกของทั้ง2ฝั่ง
3.ขาดการโปรโมต เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นแล้วของตะวันตกแทบไม่มีการโปรโมตอะไรเลย มักจะประกาศทางเน็ตไม่ก็งานแสดงสินค้ามากกว่า ซึ่งทั้ง2แบบเป็นลักษณะให้ผู้สนใจเข้าไปหาทั้งคู่ ไม่เหมือนของญี่ปุ่นที่ใช้วิธีเกาะกระแสวัฒนธรรมและใช้มันในการโปรโมต เห้นได้จากสินค้าVocaloidจำนวนมหาศาลในตลาดของสะสม จำพวกฟิคเกอร์,ตุ๊กตา และการจัดงานอีเว้นต์เพื่อกระตุ้นเป้นประจำ
4.สื่อกระแสหลักไม่มีการพูดถึง ซึ่งทุกสื่อที่พูดถึงVocaloidนั้นล้วนแต่พูดถึงแต่MikuและอาจมีไปถึงRin,Lenบ้าง แต่ไม่มีสื่อไหนพูดถึงVocaloidฝั่งตะวันตกแม้แต่คำเดียว แม้แต่สือตะวันตกเองก็ตาม
5.การใช้งานยาก เนื่องจากภาษาอังกฤษมีเสียงมากกว่าภาษาญี่ปุ่นหลายเท่า ทำให้ตัวVoicebankมีขนาดใหญ่กว่าภาษาญี่ปุ่นมาก ซึ่งตามมาตรฐานVocaloid3ของYAMAHAแล้ว Voicebankภาาาอังกฤษจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าญี่ปุ่นถึง5เท่า(จากกรณีMegpoid v3กับMegpoid English) และจากการฟังหลายๆเพลงที่ใช้Vocaloidอังกฤษร้อง การปรับแต่งเสียงทำได้ไม่ดีเท่าภาษาญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งก็มาจากการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ซับซ้อนกว่าภาษาญี่ปุ่นด้วย แม้จะเป็นVocaloid3ที่มีคุณภาพเสียงดีมากก็ตาม
6.Vocaloid-P(นักแต่งเพลง) ส่วนใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น แม้ว่าในญี่ปุ่นนั้นมีCryptonเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ตามก็ไม่ได้มีการโปรโมตอะไรทั้งสิ้น และทุกบริษัทก็เน้นแต่หนุนผลิตภัณฑ์ของตนอย่างเดียว ส่วนDwango ที่บริหารNico Nico Douga ที่เป็นผู้เดียวที่ทำการสนับสนุนหลายๆค่ายก็เป็นลักษณะทำให้ดังยิ่งขึ้นมากกว่าปั้นให้ดัง
7.ปัญหาทางด้านลิขสิทธิ Vocaloidของญี่ปุ่นนั้นทุกตัวล้วนใช้ข้อตกลงทางด้านลิขสิทธิเดียวกันหมด อาจมีแตกต่างทางด้านรายละเอียดได้บ้างแล้วแต่บริษัท แต่ของทางตะวันตกนั้นไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว ทำให้การเผยแพร่ทำได้ยากลำบากมากกว่าหลายเท่า และทำให้ไม่มีสิทธิเข้าร่วมในการประกวดต่างๆที่ถือเป็นโอกาศชั้นดีในการโปรโมตด้วย
ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทางบริษัทได้พยายามแก้ในหลายๆข้อเช่นด้าบบรรจุภัณฑ์
Vocaloid Database [4] Engloid เสียงจากอีกซีกโลก [LEON,LORA,Miriam,Sweet Ann,Prima,Sonika,Big Al,Tonio,Oliver,Avanna]
ตอนที่2 Cryptonผู้พาอนาคตมาสู่ปัจจุบัน [Meiko,Kaito,Miku,Rin,Len,Luka]
ตอนที่3 Internet Co., Ltd. เสียงของ"มืออาชีพ" [Gackpoid,Megpoid,Lily,Gachapoid,CUL,Galaco]
EX1 ทำไมVocaloidถึงไม่ได้ทำเป็นAnime
เผยแพร่ครั้งแรกที่http://thvocalodata.blogspot.com/
-Tagบริษัทไอที เพราะเป็นบริษัทผลิตโปรแกรมสังเคราะห์เสียง
-Tagเทคโนโลยีเพราะไม่งั้นมีแบบมู้นี้อีก--->http://ppantip.com/topic/30387096/comment14-1
-ไม่Tag เพลงการ์ตูนเพราะไม่ได้มาจากอนิเมะใดๆทั้งสิ้นตามตอนEX1
-การอ่านชื่อภาษาญี่ปุ่นไม่ได้อิงตามความนิยมแต่นำการออกเสียงตามหลักของจุฬามาดัดแปลง
-ข้อมูลส่วนใหญ่แปลมาจาก Vocaloidwiki (ข้อมูลพื้นฐาน) และEN Wikipedia (เรื่องที่เกี่ยวข้อง) และจากหลายๆแหล่งรวมกับความคิดเห็นที่ได้มาจากการสังเกตุ
2ตอนก่อนหน้านั้นได้กล่าวถึง2ยักษ์ใหญ่ (ไม่รวมYAMAHAซึ่งถ้าเปรียบเทียบแล้วเหมือนพระเจ้าในวงการเพราะมีอำนาจในการชี้นำแนวทางVocaloidอยู่มาก) ที่กุมวงการVocaloidไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ และแน่นอนจากการที่กุมตลาดไว้ทั้งคู่ ส่งผลให้เมื่อพูดถึงVocaloidแล้ว คนก็มักจะนึกถึงของ2บริษัทนี้กับของรายย่อยไม่กี่ตัว ทิ้งให้อีกหลายๆตัวจากทั้งโลกไม่มีใครรู้จักทั้งจากตะวันออกและตะวันตก ซึ่งดูๆไปฝั่งตะวันออกอย่างน้อยตลาดยังดีเพราะหลายตัวแม้ไม่ดังมากก็ยังพอขายได้เช่นIrohaหรือVY series แต่ฝั่งตะวันตกนั้นแม้จะเป็นผู้บุกเบิกVocaloidตัวจริง แต่ตลาดของVocaloidฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะVocaloidภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่าEngloid แทบเงียบกริบ เพิ่งมามีตัวที่ดังๆแค่ไม่กี่ตัว แต่ก็ไม่ดังมากมายอะไรเมื่อเทียบกับตะวันออก ซึ่งจะลองวิเคราะห์ดูตามควาคิดเห็นของข้าเจ้า
1.การตลาดในระยะแรกมุ่งไปแต่ลูกค้าที่เป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพ ทำให้มีลูกค้าน้อยเพราะพวกนี้มักจะฟังนักวิจารณ์เป็นหลักมากกว่าเลือกด้วยความชอบของตัวเอง ซึ่งจากเคสของMeikoที่แม้เป็นรุ่นเก่า ที่คุณภาพสู้รุ่นใหม่ๆไม่ได้แต่ก็มีคนชอบจนพัฒนาเทคนิคในการแต่งเพลง และปรับแต่ง จนบางเพลงสู้รุ่นใหม่ๆได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ และนักแต่งเพลงชื่อดังบาง คนก็มักซื้อตัวที่ชอบไว้ แม้จะมีผลงานที่ใช้ตัวนั้นทำแค่เพลงเดียวหรือไม่มีเลยก็ตาม หรือก็คือซื้อโดยไม่ได้คาดหวังถึงคุณภาพมากมายอะไรเพราะถ้าจะใช้จริงๆก็ไปปรับแต่งเองได้
2.บรรจุภัณฑ์ ในระยะแรกๆ นั้นฝั่งตะวันตกทำมาในแนวเรียบง่ายเหมือนกับซอฟต์แวร์ทั่วไป ซึ่งไม่มีความน่าดึงดูดใจสำหรับมือสมัครเล่นแม้แต่น้อย
เปรียบเทียบระหว่างVocaloid 2คู่แรกของทั้ง2ฝั่ง
แม้ขึ้นยุคVocaloid2แม้Engloidเริ่มมีการใส่คาแรคเตอร์หรือรูปภาพอิมเมจ แต่ระยะแรกก็ทำแบบไม่ได้ทำเพื่อดึงดูดลูกค้าแต่ทำเพื่อให้อิมเมจล้วนๆมากกว่า ซึ่งในระยะหลังที่นำแนวทางของญี่ปุ่นมาปรับใช้ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่าความนิยมดีขึ้นมหาศาลแม้จะไม่เท่าของญี่ปุ่นก็ตาม
เปรียบเทียบระหว่างVocaloid2 ตัวแรกของทั้ง2ฝั่ง
3.ขาดการโปรโมต เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นแล้วของตะวันตกแทบไม่มีการโปรโมตอะไรเลย มักจะประกาศทางเน็ตไม่ก็งานแสดงสินค้ามากกว่า ซึ่งทั้ง2แบบเป็นลักษณะให้ผู้สนใจเข้าไปหาทั้งคู่ ไม่เหมือนของญี่ปุ่นที่ใช้วิธีเกาะกระแสวัฒนธรรมและใช้มันในการโปรโมต เห้นได้จากสินค้าVocaloidจำนวนมหาศาลในตลาดของสะสม จำพวกฟิคเกอร์,ตุ๊กตา และการจัดงานอีเว้นต์เพื่อกระตุ้นเป้นประจำ
4.สื่อกระแสหลักไม่มีการพูดถึง ซึ่งทุกสื่อที่พูดถึงVocaloidนั้นล้วนแต่พูดถึงแต่MikuและอาจมีไปถึงRin,Lenบ้าง แต่ไม่มีสื่อไหนพูดถึงVocaloidฝั่งตะวันตกแม้แต่คำเดียว แม้แต่สือตะวันตกเองก็ตาม
5.การใช้งานยาก เนื่องจากภาษาอังกฤษมีเสียงมากกว่าภาษาญี่ปุ่นหลายเท่า ทำให้ตัวVoicebankมีขนาดใหญ่กว่าภาษาญี่ปุ่นมาก ซึ่งตามมาตรฐานVocaloid3ของYAMAHAแล้ว Voicebankภาาาอังกฤษจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าญี่ปุ่นถึง5เท่า(จากกรณีMegpoid v3กับMegpoid English) และจากการฟังหลายๆเพลงที่ใช้Vocaloidอังกฤษร้อง การปรับแต่งเสียงทำได้ไม่ดีเท่าภาษาญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งก็มาจากการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ซับซ้อนกว่าภาษาญี่ปุ่นด้วย แม้จะเป็นVocaloid3ที่มีคุณภาพเสียงดีมากก็ตาม
6.Vocaloid-P(นักแต่งเพลง) ส่วนใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น แม้ว่าในญี่ปุ่นนั้นมีCryptonเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ตามก็ไม่ได้มีการโปรโมตอะไรทั้งสิ้น และทุกบริษัทก็เน้นแต่หนุนผลิตภัณฑ์ของตนอย่างเดียว ส่วนDwango ที่บริหารNico Nico Douga ที่เป็นผู้เดียวที่ทำการสนับสนุนหลายๆค่ายก็เป็นลักษณะทำให้ดังยิ่งขึ้นมากกว่าปั้นให้ดัง
7.ปัญหาทางด้านลิขสิทธิ Vocaloidของญี่ปุ่นนั้นทุกตัวล้วนใช้ข้อตกลงทางด้านลิขสิทธิเดียวกันหมด อาจมีแตกต่างทางด้านรายละเอียดได้บ้างแล้วแต่บริษัท แต่ของทางตะวันตกนั้นไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว ทำให้การเผยแพร่ทำได้ยากลำบากมากกว่าหลายเท่า และทำให้ไม่มีสิทธิเข้าร่วมในการประกวดต่างๆที่ถือเป็นโอกาศชั้นดีในการโปรโมตด้วย
ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทางบริษัทได้พยายามแก้ในหลายๆข้อเช่นด้าบบรรจุภัณฑ์