ASTVผู้จัดการรายวัน- ซีทีเอชแย้มแพกเกจพรีเมียร์ลีกสูงสุด เบ็ดเสร็จจ่าย 899 บาทต่อเดือน ได้ชมทุกแมทช์ ถือฤกษ์ดีจัดงานรีแบรนด์ดิ้งโลโก้ใหม่ สู่รูปแบบบริการอย่างเป็นทางการอีก 35 วันข้างหน้า ฟากทรูวิชั่นส์เก้าอี้ร้อน เตรียมอัดงบการตลาดเพิ่ม 200 ล้านบาท ลุยศึกเคเบิลทีวีหลังพรีเมียร์ลีกหลุดมือ จากทั้งปีใช้งบ 400 ล้านบาท ประเดิมทุ่ม 20 ล้านบาท จัดงานแรก “Visions Ahead Magenta Party” ตอกย้ำเจ้าแห่งคอนเท้นท์ระดับโลกชนซีทีเอชวันเดียวกัน
นายสุรพล ซีประเสริฐ ประธานกรรมการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เดิม คือ บริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้จัดทำแพกเกจรองรับคอนเท้นท์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกได้เกืิอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยจะมีการเปิดตัวแพกเกจอย่างเป็นทางการกลางเดือนมิ.ย ที่จะถึงนี้ เบื้องต้นลูกค้าที่ต้องการรับชมช่องรายการแบบมาตรฐานปกติจำนวน 120 ช่อง จะเีสียค่าบริการที่ 399 บาทต่อเดือน พร้อมรับชมพรีเมียร์ลีกได้อย่างน้อย 1 คู่ต่อสัปดาห์
ส่วนแพกเกจที่จัดทำขึ้นเพื่อรองรับคอนเท้นท์พรีเมียร์ลีกนั้น จะมีอยู่ 2-3 แพกเกจ สำหรับผู้ที่ต้องการรับชมแบบน้อยไปหามาก โดยราคาสูงสุดของแพกเกจพรีเมียร์ลีก แบบเบ็ดเสร็จ คือ 899 บาทต่อเดือน (รวมVATแล้ว) สามารถรับชมพรีัเมียร์ลีกได้ครบทุกคู่พร้อมช่องรายการทั่วไปอีก 120 ช่อง ขณะที่งบการตลาดสำหรับพรีเมียร์ลีกจะใช้200 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ภายหลังจากคู่การแข่งขันพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของฤดูกาลแข่งจบลงในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. นี้
ด้านนายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดวานนี้ (16พ.ค.) บริษัทได้จัดงานเปิดตัวการรีแบรนด์ดิ้ง โลโก้ใหม่ จากเดิมใช้สีสันที่ดูเหมือนช่องรายการโทรทัศน์ เปลี่ยนมาเป็นสีฟ้า-เทอร์ควอยส์ ซึ่งเป็นสีแห่งการเชื่องโยง ติดต่อสื่อสาร ให้เหมาะสมกับโพซิชั่นนิ่งของซีทีเอชที่จะก้าวสู่ความเป็นดิจิตอลบรอดแบนด์เซอร์วิส ที่มาพร้อมกับสโลแกน WE SHARE รวมถึงยังได้มีการปรับชื่อให้สั้นลงเป็น บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ด้วย หลังจากที่ชื่อนี้เป็นชื่อที่ทุกคนรู้จักกันดี ภายใต้งบการจัดงานครั้งนี้ประมาณ 2 แสนบาท
สำหรับการปรับโลโก้ใหม่ครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่ซีทีเอชจะรุกตลาดอย่างจริงจัง โดยในอีก 35 วันข้างหน้า ซีทีเอชพร้อมเปิดตัวครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการสำหรับการให้บริการและช่องรายการใหม่ทั้งหมด รวมถึงการเปิดตัวแพกเกจพรีเมียร์ลีก และสปอนเซอร์ที่สนับสนุนด้วย ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจของซีทีเอชสู่การเป็นดิจิตอลบรอดแบนด์เซอร์วิสนั้น ตั้งเป้าว่าภายใน 2 ปี จะมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า 7 ล้านราย และมีมูลค่ารายได้ร่วม 100,000 ล้านบาท จาก 6-7 กลุ่มธุรกิจที่จะให้บริการได้มากขึ้น เช่น โฮมชอปปิ้ง, บีทูบี, รีเสิร์ตมาร์เก็ตติ้ง, เคเบิลทีวี และดิจิตอลมีเดีย เป็นต้น โดยธุรกิจด้านเคเบิล น่าจะทำรายได้อยู่ที่ 30% ของรายได้รวมในขณะนั้น
ทรูวิชั่นส์ อัดเพิ่ม 200ล.รักษาฐานสมาชิก
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปกติบริษัทจะใช้งบการตลาดราวปีละ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 300 ล้านบาท ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังที่จะไม่มีคอนเท้นท์พรีเมียร์ลีก คาดว่าจะต้องใช้งบเพิ่มอีกราว 200 ล้านบาท รวมแล้วครึ่งปีหลังน่าจะใช้งบการตลาดไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
ด้านนายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ล่าสุดวานนี้ (16พ.ค.) ทุ่มงบ 20 ล้านบาท สำหรับการจัดงาน Visions Ahead Magenta Party เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งทางด้านพันธมิตรทางธุรกิจ จากทั่วโลก ในการเป็นผู้นำการให้บริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกของไทย
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว 2 แพกเกจใหม่ด้วย คือ 1.ซูเปอร์โนว-เลจ แพกเกจ ราคา 590 บาทต่อเดือน รับชมได้ 116 ช่อง โดยมีช่องรายการเพิ่มเข้ามาใหม่ 7 ช่อง คือ Discovery Home&Health, Discovery Turbo, Discovery Science, TLC, Discovery Kids และ H2 และ2.ซูเปอร์ สปอร์ต แพกเกจ ราคา 495 บาทต่อเดือน รับชมได้ 95 ช่อง ซึ่งเดิมแพกเกจนี้มีอยู่แล้ว ในราคาเดิมคือ 495.15 บาท แต่ครั้งนี้ได้เพิ่ม 4 ช่อง ใหม่ คือ TrueSport HD2, Golf Channel Thailand HD, TrueSport6 และ TrueSport7
ส่งผลให้ปัจจุบันทรูวิชั่นส์ มีทั้งหมด 6 แพกเกจ โดย 4 แพกเกจที่เหลือ คือ 1.แพลทินัม แพกเกจ ราคา 2,155.15 บาทต่อเดือน รับชมได้ 145 ช่อง และเป็น HD 23 ช่อง 2.โกลด์ แพกเกจ ราคา1,568.12 บาทต่อเดือน รับชมได้ 124 ช่อง เป็นHD 16 ช่อง 3.ซูเปอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แพกเกจ ราคา 790บาทต่อเดือน รับชมได้ 115 ช่อง และเป็นHD 8 ช่อง และ4.โนวเลจ แพกเกจ ราคา 299บาทต่อเดือน รับชมได้ 88 ช่อง
อย่างไรก็ตามเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกจบลงครั้งนี้ เชื่อว่ายอดสมาชิกที่ต้องการชมแต่พรีเมียร์ลีกจริืงๆจะหายไปเป็นตัวเลข 1 หลัก เมื่อเทียบกับฐานสมาชิกโดยรวมทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทพร้อมนำเสนอคอนเท้นท์รายการอื่นๆที่มีคุณภาพมาเสริมทัพ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งภาพยนตร์ และกีฬาอื่นๆ รวมถึงจะเพิ่มช่อง HD ให้เป็น 30 ช่อง ภายในไตรมาสสามนี้ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 23 ช่อง ภายใต้งบการซื้อคอนเท้นท์ของปีนี้กว่า 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปกติ 1,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะส่งผลให้ยอดสมาชิกยังเติบโตต่อเนื่องในตัวเลข 1 หลัก จากฐานสมาชิกในปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ราว 2 ล้านราย
ชมคลิป :
กระหึ่มโลก! CTHเคาะแพกเกจดูบอลพรีเมียร์ลีก899บาท ทรูฯดิ้นเพิ่มงบตลาด200ล้านรั้งลูกค้า(ชมคลิป)
ASTVผู้จัดการรายวัน- ซีทีเอชแย้มแพกเกจพรีเมียร์ลีกสูงสุด เบ็ดเสร็จจ่าย 899 บาทต่อเดือน ได้ชมทุกแมทช์ ถือฤกษ์ดีจัดงานรีแบรนด์ดิ้งโลโก้ใหม่ สู่รูปแบบบริการอย่างเป็นทางการอีก 35 วันข้างหน้า ฟากทรูวิชั่นส์เก้าอี้ร้อน เตรียมอัดงบการตลาดเพิ่ม 200 ล้านบาท ลุยศึกเคเบิลทีวีหลังพรีเมียร์ลีกหลุดมือ จากทั้งปีใช้งบ 400 ล้านบาท ประเดิมทุ่ม 20 ล้านบาท จัดงานแรก “Visions Ahead Magenta Party” ตอกย้ำเจ้าแห่งคอนเท้นท์ระดับโลกชนซีทีเอชวันเดียวกัน
นายสุรพล ซีประเสริฐ ประธานกรรมการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เดิม คือ บริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้จัดทำแพกเกจรองรับคอนเท้นท์ฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกได้เกืิอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยจะมีการเปิดตัวแพกเกจอย่างเป็นทางการกลางเดือนมิ.ย ที่จะถึงนี้ เบื้องต้นลูกค้าที่ต้องการรับชมช่องรายการแบบมาตรฐานปกติจำนวน 120 ช่อง จะเีสียค่าบริการที่ 399 บาทต่อเดือน พร้อมรับชมพรีเมียร์ลีกได้อย่างน้อย 1 คู่ต่อสัปดาห์
ส่วนแพกเกจที่จัดทำขึ้นเพื่อรองรับคอนเท้นท์พรีเมียร์ลีกนั้น จะมีอยู่ 2-3 แพกเกจ สำหรับผู้ที่ต้องการรับชมแบบน้อยไปหามาก โดยราคาสูงสุดของแพกเกจพรีเมียร์ลีก แบบเบ็ดเสร็จ คือ 899 บาทต่อเดือน (รวมVATแล้ว) สามารถรับชมพรีัเมียร์ลีกได้ครบทุกคู่พร้อมช่องรายการทั่วไปอีก 120 ช่อง ขณะที่งบการตลาดสำหรับพรีเมียร์ลีกจะใช้200 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ภายหลังจากคู่การแข่งขันพรีเมียร์ลีกคู่สุดท้ายของฤดูกาลแข่งจบลงในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. นี้
ด้านนายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ล่าสุดวานนี้ (16พ.ค.) บริษัทได้จัดงานเปิดตัวการรีแบรนด์ดิ้ง โลโก้ใหม่ จากเดิมใช้สีสันที่ดูเหมือนช่องรายการโทรทัศน์ เปลี่ยนมาเป็นสีฟ้า-เทอร์ควอยส์ ซึ่งเป็นสีแห่งการเชื่องโยง ติดต่อสื่อสาร ให้เหมาะสมกับโพซิชั่นนิ่งของซีทีเอชที่จะก้าวสู่ความเป็นดิจิตอลบรอดแบนด์เซอร์วิส ที่มาพร้อมกับสโลแกน WE SHARE รวมถึงยังได้มีการปรับชื่อให้สั้นลงเป็น บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ด้วย หลังจากที่ชื่อนี้เป็นชื่อที่ทุกคนรู้จักกันดี ภายใต้งบการจัดงานครั้งนี้ประมาณ 2 แสนบาท
สำหรับการปรับโลโก้ใหม่ครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่ซีทีเอชจะรุกตลาดอย่างจริงจัง โดยในอีก 35 วันข้างหน้า ซีทีเอชพร้อมเปิดตัวครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการสำหรับการให้บริการและช่องรายการใหม่ทั้งหมด รวมถึงการเปิดตัวแพกเกจพรีเมียร์ลีก และสปอนเซอร์ที่สนับสนุนด้วย ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจของซีทีเอชสู่การเป็นดิจิตอลบรอดแบนด์เซอร์วิสนั้น ตั้งเป้าว่าภายใน 2 ปี จะมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า 7 ล้านราย และมีมูลค่ารายได้ร่วม 100,000 ล้านบาท จาก 6-7 กลุ่มธุรกิจที่จะให้บริการได้มากขึ้น เช่น โฮมชอปปิ้ง, บีทูบี, รีเสิร์ตมาร์เก็ตติ้ง, เคเบิลทีวี และดิจิตอลมีเดีย เป็นต้น โดยธุรกิจด้านเคเบิล น่าจะทำรายได้อยู่ที่ 30% ของรายได้รวมในขณะนั้น
ทรูวิชั่นส์ อัดเพิ่ม 200ล.รักษาฐานสมาชิก
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปกติบริษัทจะใช้งบการตลาดราวปีละ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 300 ล้านบาท ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังที่จะไม่มีคอนเท้นท์พรีเมียร์ลีก คาดว่าจะต้องใช้งบเพิ่มอีกราว 200 ล้านบาท รวมแล้วครึ่งปีหลังน่าจะใช้งบการตลาดไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
ด้านนายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ล่าสุดวานนี้ (16พ.ค.) ทุ่มงบ 20 ล้านบาท สำหรับการจัดงาน Visions Ahead Magenta Party เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งทางด้านพันธมิตรทางธุรกิจ จากทั่วโลก ในการเป็นผู้นำการให้บริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกของไทย
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว 2 แพกเกจใหม่ด้วย คือ 1.ซูเปอร์โนว-เลจ แพกเกจ ราคา 590 บาทต่อเดือน รับชมได้ 116 ช่อง โดยมีช่องรายการเพิ่มเข้ามาใหม่ 7 ช่อง คือ Discovery Home&Health, Discovery Turbo, Discovery Science, TLC, Discovery Kids และ H2 และ2.ซูเปอร์ สปอร์ต แพกเกจ ราคา 495 บาทต่อเดือน รับชมได้ 95 ช่อง ซึ่งเดิมแพกเกจนี้มีอยู่แล้ว ในราคาเดิมคือ 495.15 บาท แต่ครั้งนี้ได้เพิ่ม 4 ช่อง ใหม่ คือ TrueSport HD2, Golf Channel Thailand HD, TrueSport6 และ TrueSport7
ส่งผลให้ปัจจุบันทรูวิชั่นส์ มีทั้งหมด 6 แพกเกจ โดย 4 แพกเกจที่เหลือ คือ 1.แพลทินัม แพกเกจ ราคา 2,155.15 บาทต่อเดือน รับชมได้ 145 ช่อง และเป็น HD 23 ช่อง 2.โกลด์ แพกเกจ ราคา1,568.12 บาทต่อเดือน รับชมได้ 124 ช่อง เป็นHD 16 ช่อง 3.ซูเปอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แพกเกจ ราคา 790บาทต่อเดือน รับชมได้ 115 ช่อง และเป็นHD 8 ช่อง และ4.โนวเลจ แพกเกจ ราคา 299บาทต่อเดือน รับชมได้ 88 ช่อง
อย่างไรก็ตามเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกจบลงครั้งนี้ เชื่อว่ายอดสมาชิกที่ต้องการชมแต่พรีเมียร์ลีกจริืงๆจะหายไปเป็นตัวเลข 1 หลัก เมื่อเทียบกับฐานสมาชิกโดยรวมทั้งหมด ซึ่งทางบริษัทพร้อมนำเสนอคอนเท้นท์รายการอื่นๆที่มีคุณภาพมาเสริมทัพ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งภาพยนตร์ และกีฬาอื่นๆ รวมถึงจะเพิ่มช่อง HD ให้เป็น 30 ช่อง ภายในไตรมาสสามนี้ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 23 ช่อง ภายใต้งบการซื้อคอนเท้นท์ของปีนี้กว่า 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปกติ 1,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะส่งผลให้ยอดสมาชิกยังเติบโตต่อเนื่องในตัวเลข 1 หลัก จากฐานสมาชิกในปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ราว 2 ล้านราย
ชมคลิป :