.......................หนังสือพิมพ์เมียนมาร์ ไทมส์ รายงานอ้างนายทาเกฮารุ อิมาชิโร อธิบดีกรมเก็บเกี่ยวผลผลิต กระทรวงการเกษตร ประมง และป่าไม้ ของญี่ปุ่น กล่าวในระหว่างพิธีลงนามซื้อข้าวจากพม่า ว่า พม่าจะเริ่มส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 45 ปี นับตั้งแต่ปี 2511 ในเดือน มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ข้าวจากพม่าที่จะส่งออกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษนี้ เป็นข้าวหัก 5% โดยจะส่งไปญี่ปุ่นเป็นปริมาณ 5,000 ตัน ในราคา 490 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยพม่าได้ประมูลข้าวเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และหลังจากมีการส่งข้าวล็อตแรกไปในเดือน มิ.ย.นี้แล้ว พม่าจะมีการประมูลส่งข้าวไปญี่ปุ่นอีกเรื่อยๆ ในอนาคต
“หากพม่าสามารถแข่งขันทางด้านราคาและคุณภาพข้าวกับประเทศไทยได้ เราก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่เราจะไม่รับข้าวจากพม่าเพิ่มในอนาคต” นายทาเกฮารุ กล่าว
ทางด้านนายโซตุน ประธานสมาพันธ์เกษตรกรแห่งพม่า กล่าวว่า พม่าเองยังมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาคุณภาพข้าวเช่นกัน เพื่อเพิ่มการส่งออกให้มากขึ้น
“เราจะต้องได้โควต้าการส่งออกไปต่างประเทศอย่างเช่นญี่ปุ่นเป็นประจำ ดั่งที่ประเทศไทยทำได้” นายโซตุน กล่าว และเสริมว่า นอกเหนือจากที่พม่าต้องเร่งพัฒนาคุณภาพข้าวแล้ว พม่ายังต้องเร่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายอู่วินมินต์ รัฐมนตรีพาณิชย์พม่า กล่าวว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของพม่านั้นยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้านอยู่มาก โดย 80% ของข้าวที่พม่าส่งออกนั้นเป็นข้าวหัก 25% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพต่ำ
“แม้ว่าเราจะเพิ่มปริมาณการส่งออกได้ปีต่อปี แต่เราก็ไม่สามารถเพิ่มรายได้จากการส่งออกได้ เราจำเป็นต้องเร่งยกระดับระบบการจัดการสต๊อกข้าว และต้องส่งเสริมให้ภาคเอกชนส่งออกข้าวที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น” นายมินต์ กล่าว
ด้านนายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่หลายประเทศในเอเชียหันมานำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น ญี่ปุ่น ที่นำเข้าจากพม่านั้น ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง เพราะข้าวไทยและข้าวพม่าเป็นคนละชนิดกัน โดยข้าวของพม่าเป็นข้าวเมล็ดสั้นและเป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่น ส่วนข้าวไทยเป็นข้าวเมล็ดยาว ไทยจึงส่งออกข้าวไปขายที่ญี่ปุ่นไม่มากนักในแต่ละปี อย่างไรก็ตามในอนาคตไทยจะมีความร่วมมือค้าข้าวกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ซึ่งนอกจากจะมีการแบ่งตลาดกันขายอย่างชัดเจนแล้ว ไทยยังอาจนำข้าวของประเทศเพื่อนบ้านไปทำตลาดหรือไปส่งออกให้ด้วย
ที่มา
http://www.posttoday.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/222479/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A45%E0%B8%9B%E0%B8%B5
พม่าได้ส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นครั้งแรกรอบ 45 ปี ล็อตแรก 5,000 ตัน ไทยไม่ห่วงเสียตลาดเหตุคนละสายพันธุ์
ทั้งนี้ ข้าวจากพม่าที่จะส่งออกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษนี้ เป็นข้าวหัก 5% โดยจะส่งไปญี่ปุ่นเป็นปริมาณ 5,000 ตัน ในราคา 490 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยพม่าได้ประมูลข้าวเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และหลังจากมีการส่งข้าวล็อตแรกไปในเดือน มิ.ย.นี้แล้ว พม่าจะมีการประมูลส่งข้าวไปญี่ปุ่นอีกเรื่อยๆ ในอนาคต
“หากพม่าสามารถแข่งขันทางด้านราคาและคุณภาพข้าวกับประเทศไทยได้ เราก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่เราจะไม่รับข้าวจากพม่าเพิ่มในอนาคต” นายทาเกฮารุ กล่าว
ทางด้านนายโซตุน ประธานสมาพันธ์เกษตรกรแห่งพม่า กล่าวว่า พม่าเองยังมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งพัฒนาคุณภาพข้าวเช่นกัน เพื่อเพิ่มการส่งออกให้มากขึ้น
“เราจะต้องได้โควต้าการส่งออกไปต่างประเทศอย่างเช่นญี่ปุ่นเป็นประจำ ดั่งที่ประเทศไทยทำได้” นายโซตุน กล่าว และเสริมว่า นอกเหนือจากที่พม่าต้องเร่งพัฒนาคุณภาพข้าวแล้ว พม่ายังต้องเร่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน นายอู่วินมินต์ รัฐมนตรีพาณิชย์พม่า กล่าวว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของพม่านั้นยังตามหลังประเทศเพื่อนบ้านอยู่มาก โดย 80% ของข้าวที่พม่าส่งออกนั้นเป็นข้าวหัก 25% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพต่ำ
“แม้ว่าเราจะเพิ่มปริมาณการส่งออกได้ปีต่อปี แต่เราก็ไม่สามารถเพิ่มรายได้จากการส่งออกได้ เราจำเป็นต้องเร่งยกระดับระบบการจัดการสต๊อกข้าว และต้องส่งเสริมให้ภาคเอกชนส่งออกข้าวที่มีคุณภาพสูงมากขึ้น” นายมินต์ กล่าว
ด้านนายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่หลายประเทศในเอเชียหันมานำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น ญี่ปุ่น ที่นำเข้าจากพม่านั้น ไม่ใช่เรื่องน่าห่วง เพราะข้าวไทยและข้าวพม่าเป็นคนละชนิดกัน โดยข้าวของพม่าเป็นข้าวเมล็ดสั้นและเป็นที่ต้องการของตลาดญี่ปุ่น ส่วนข้าวไทยเป็นข้าวเมล็ดยาว ไทยจึงส่งออกข้าวไปขายที่ญี่ปุ่นไม่มากนักในแต่ละปี อย่างไรก็ตามในอนาคตไทยจะมีความร่วมมือค้าข้าวกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ซึ่งนอกจากจะมีการแบ่งตลาดกันขายอย่างชัดเจนแล้ว ไทยยังอาจนำข้าวของประเทศเพื่อนบ้านไปทำตลาดหรือไปส่งออกให้ด้วย
ที่มา http://www.posttoday.com/%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/222479/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A45%E0%B8%9B%E0%B8%B5