ตัดสินใจยืมเงินแฟน 8 พันทั้งที่คบกันมาแค่ 3 เดือน น่าละอายไหมคะ

กระทู้คำถาม
พอดีเราชอร์ทกระทันหัน เราไม่ใช่คนกินเหล้า สูบบุหรี่เที่ยวกลางคืน เงินที่จะยืมก็เอาไปหมุนกับงาน ไม่รู้จะมองหาใคร ไม่เคยยืมใครมาก่อนด้วย นี่เป็นครั้งแรก และเยอะขนาดนี้ นั่งคิดอยู่ทั้งคืน เลยตัดสินใจว่าจะยืมเงินแฟน แต่กลับมาคิดว่าเพิ่งคบกันได้ 3 เดือนเอง แต่เราก็แพลนจะแต่งงานกันอีก 2 ปี เลยยคิดว่าเค้าคงไว้ใจเรา  ก็เลยตัดสินใจรวบรวมความกล้าในเช้าวันรุ่งขึ้น พอตกเย็นเค้ามารับเราไปที่บ้านเค้า เราก็บอกเค้าว่า
"พี่...เรามีเรื่องให้ช่วย" พี่เค้าก็บอกว่าเรื่องอะไร เราก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดบอกไป...แล้วบอกว่าจะคืนสิ้นเดือนนี้ก่อน 4 พัน

ปรากฏว่าหน้าพี่เค้าเจื้อนๆลง เราก็คิดในใจว่าไม่น่าเลย เค้าก็ถามว่ารีบหรอ เราก็บอกว่าต้องใช้แล้วอีก 3 วัน พี่เค้าก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เราก็นั่งรอคำตอบ ใจเสียแล้วตอนนั้น กลัวพี่เค้าจะคิดว่าเรามาหลอก พอเค้าเดินออกจากห้องน้ำมา เค้าไม่พูดอะไรเลย เดินไปเปิดทีวี ชวนดูหนัง แกะกับข้าวกิน ในใจเราก็เห้ย!!...อยากได้คำตอบ ได้ ไม่ได้แค่นั้นเอง เราก็แอบดูหางตาพี่เค้าก็แวบๆมองมาที่เราบ้าง แต่เราไม่ได้สบตาไป เพราะตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ได็แต่นั่งหน้าเซงๆชีวิต ก็เลยตัดสินใจบอกขอโทษไป แล้วบอกว่าไม่เอาแล้วนะเงิน แต่เราคาดหวังเอาไว้ว่าจะได้คนช่วยคิดแก้ปัญหา แต่พี่เค้าก็ไม่พูดอะไร ไม่ถามเราเลยว่าแล้วเราจะหาจากไหน ยังไง ทันไหม เราก็เลยเซงๆว่านี้หรือคนที่เคยบอกว่าจะดูแลเราเอง คนที่เราจะฝากชีวิตเอาไว้ด้วย จริงๆเราก็ไม่ได้หวังว่าพี่เค้าจะต้องดดูแลเราทั้งหมด เพราะเราก็หาเงินเองได้ ก่อนหน้านี้เราก็ตั้งเป้าจะยืนด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตแบบโสดๆ แต่พอพี่เค้าเข้ามาพูดจาเหมือนจะเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขได้ เราก็เลยคาดหวังไป มันเลยรู้สึกผิดหวังนิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไป แต่พี่เค้าก็ถามมาว่า "เสียใจไหมที่ไม่ให้ยืมเงิน" เราก็ฝืนยิ้มตอบไปว่า "ไม่ ไม่เกี่ยวเกี่ยวกับพี่เลย มันเป็นปัญหาของเรา เราก็ต้องแก้เอง เราสิ เพิ่งคบกันเองก็มายืมเงินพี่แล้ว" เราก็เลยนั่งโทรหาเพื่อน ให้หาเงินให้ยืม พี่เค้าก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก (หรืออาจจะคิดในใจก็ไม่รู้) พอตกอีกวันเค้าก็โทรมาคุยปกติเหมือนไม่มีปัญหานั้นเกิดขึ้น ทั้งที่เรายังนั่งแบกปัญหาอยู่ เราก็แอบคิดในใจว่าถ้าพี่เค้าไม่มีเงินเก็บทั้งที่ทำงานมานานแล้ว แค่ 8 พันยังไม่มีให้ หรือพี่เค้ายังไม่ไว้ใจเรากันแน่ แล้วที่เค้าวางแพลนจะมีลูกก่อน 2 ปีที่จะแต่งงาน เค้ารู้ไหมว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะ...เรากับเค้าก็อายุห่างกันรอบกว่า เราเห็นว่าเค้าโตแล้ว น่าจะเข้าใจอะไรๆได้ แบบนี้เพื่อนๆหรือผู้ชายท่านใคิดว่าถ้าเจอเคสผู้หญิงแบบเรา จะรุ้สึกยังไงคะ

เพิ่มเติม** เรื่องที่บอกจะแต่งอีก 2 ปี เราก็เออ ออ ตามเค้าไปก่อนในตอนแรก เพราะคิดเองว่าเอาปีแรกให้รอดก่อนค่อยคิดเรื่องวางแผนครอบครัว เพราะเราก็คิดว่า 3 เดือนมันเร็วมากที่จะพูดเรื่องพวกนี้หรือป่าว แต่เราเห็นพี่เค้าทำงานน่าจะมีเงินเก็บบ้าง ก็เลยตัดสินใจยืมไป แล้วเราก็เพิ่งทำงานได้เงินเมื่อไม่ถึง 5 เดือน เป็นธุรกิจส่วนตัว แค่คิดว่าในอนาคตถ้ามันมีปัญหาอะไรที่ใหญ่กว่านี้ พี่เค้าจะช่วยเราได้ไหม


-----------
จากทุกความเห็นที่ผ่านมา ขอดูเค้าต่อไปสักพักก่อนดีไหมคะ  เพราะเค้าดีกับเรามากในเรื่องอื่นๆ ไปรับไปส่ง ไม่เคยบ่น ไม่เที่ยว ไม่สูบ ไม่ดื่ม ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆเราก็คงต้องใช้ความพยายามสูงมากๆในการที่จะบอกเลิกเค้า ตอนนี้เราก็ยังรักเค้าอยู่ เราต้องการคนที่ดูแลเราได้ แต่ไม่ใช่แค่ให้เค้าดูแลเราแค่ฝายเดียว แต่หมายถึงช่วยกันประคับประคองชีวิตไปด้วยกัน ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่ให้เรามานั่งแก้คนเดียว พอมาเจอเรื่องนี้เราก็เหวอไปนิด ทั้งๆที่รู้ว่าคบกันแค่ 3 เดือนมันยังไม่ควรยืม แต่เค้ากลับตั้งเป้าหมายชีวิตอนาคตไว้แล้ว ขอดูต่อไปอีกสักปีดีไหม...เวลาคงพิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง

ขนาดเรานั่งโทรยืมเงินเพื่อนจนหัวฟู เค้ายังนั่งเฉยๆเงียบๆ แต่เหมือนคิอะไรในใจ แต่ไม่พูดออกมา เฮ้อ...เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนี้สับสน เพราะเราก็มองเห็นส่วนดีของเค้าอยู่มาก เน้นนะคะ ว่าตอนนี้ไม่ได้ต้องการเงินเค้าขนาดนั้น ไม่มีก็ไม่เอา  แค่รู้สึกว่าเค้าไม่สนใจปัญหาของเรามากกว่าน่ะคะ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปปัญหาแล้วคะ รวบรวมความกล้าถามไปแล้ว ปรากฏว่า เค้ายังไม่ไว้ใจเราคะ เค้ากลัวโดนหลอก อันนี้เค้าไม่ผิด เราบอกเค้าไปแล้วว่าพี่คิดถูกแล้ว แต่พอพี่เงียบ มันทำให้เราคิดไปเอง ทุกอย่าง เราผิดเองที่ไปยืมเงินเค้า ฮ่าๆ มันเร็วเกินไป แต่ก็แอบน้อยใจนิดๆว่า จะแต่งงานกับเรา แต่ยังไม่กล้าไว้ใจเรา แถมยังเงียบไปอีก แต่ก็อย่างว่าแหละ ความรักมันมีอะไรซับซ้อนมากกว่านี้ ขอบคุณทุกๆความเห็นมากๆคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่