จากข่าวที่ออกมาโดยเว็บไซต์ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000058031
ผมขอออกมาทำการปกป้องโรงหนังอันเป็นที่รักยิ่งอย่าง เ้มเจอร์ซีนีเพลกซ์ และ เอสเอฟซีนิม่าซิตี้ ดังนี้
1. โรงหนังเค้าบอกว่า เค้าลดราคาตั๋วหนังไม่ได้จริงๆ เพราะต้นทุนในการบริหารจัดการของเค้าสูงมาก ไหนจะต้องแบ่งรายได้อันน้อยนิดจากการขายบัตร 50% ไปให้ค่ายหนัง เหลือติดกระเป๋าอยู่อีกเพียง 50% เป็นค่าบริหารจัดการภายในทั้งหลายทั้งปวง และที่สำคัญ ที่โรงหนังจำใจขึ้นค่าตั๋วอย่างเสียมิได้ มันเป็นเพราะนโยบายค่าแรง 300 ของรัฐบาลต่างหาก เค้าถึงต้องขึ้นราคาตั๋ว โรงหนังเค้าก็ต้องเลี้ยงดูลูกจ้างของเค้า ได้โปรดเห็นใจกันด้วย สรุปว่า รัฐบาลต่างหากที่เป็นคนผิด ออกนโยบายค่าแรง 300 มา ทำให้โรงหนังต้องขานรับ โรงหนังไม่ผิดเพราะได้ทำการสนองนโยบาลรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย และจะบอกให้ ว่าจริงๆ คนที่ผิดที่สุด คือที่ทำงานของพวกคุณต่างหาก ที่ไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้มาดูหนัง ให้มาผ่อนคลายกับครอบครัวในวันหยุดพักผ่อนอันแสนสบาย
2. การที่ป๊อบคอร์นที่มันแพงน่ะ เพราะวัตถุดิบเค้านำเข้ามาไกลจากสหรัฐอเมริกาเชียวนะ โปรดสำนึกไว้ว่าพวกคุณกำลังกินป๊อบคอร์นเมืองนอกเชียวนะ เข้าใจไว้ซะด้วย (สูตรที่ปรุงป๊อบคอร์นก็น่าจะได้รับการรับรองสามดาวมิชลินนะ) ไอ้ที่โรงหนังจำใจขายขนมแพงกว่าตั๋วหนังทุกวันนี้เนี่ยมันจำเป็นจริงๆ กระดาษที่ใช้พิมพ์ตั๋วหนังน่ะ พวกเค้าใช้กระดาษผลิตในไทย เลยขายในราคาถูก สัมผัสได้ ในราคาเพียงใบละ 180-200 บาท แต่ป๊อบคอร์นของพวกเค้าน่ะมันเป็นของนำเข้า พวกคุณก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าต้นทุนของนำเข้ามาแพงขนาดไหน ไหนจะค่าขนส่ง ค่าเรือ ค่าเครื่อง ค่าภาษี ค่าขนย้าย ค่าแพ็ค ค่าเก็บรักษา ฯลฯ และจะบอกให้อีกอย่างนะครับ เผลอๆ หัวเชื้อน้ำอัดลมนั่นก็คงนำเข้ามาด้วยเช่นกัน เป็นบุญของพวกคุณแล้วที่ได้กินน้ำอัดลมคุณภาพจากต่างแดน ผมยืนยันว่าต้องเป็นคนละรสชาติคนละสูตรกับน้ำเซเว่นแน่นอน น้ำเซเว่นหัวเชื้อไทย ขาย 20 บาท ถูกอย่างอุนจิ รสชาติก็คงเหมือนอุนจิด้วย แต่หัวเชื้อของโรงหนังน่าจะมาเมืองนอก ถึงขายแก้วละ 80 หรูกว่ากันเยอะ กินแล้วอา่จจะบินได้ก็ได้นะ
3. เวลาในการโฆษณาเนี่ย โรงหนังเค้ายืนยันมาแล้วว่าอยู่ที่ 5-6 นาทีต่อหนัง 1 เรื่องเท่านั้น เพราะฉะนั้น โรงหนังไม่ผิด มันผิดที่นาฬิกาข้อมือของพวกคุณนั่นแหละ ทีเ่ดินเร็วเกินไป เวลาโรงหนัง 5 นาที แต่เวลาในนาฬิกาข้อมือพวกคุณมันไหลไป 20 นาทีได้ยังไง นาฬิกาได้มาตรฐานรึเปล่า ผ่าน QC ผ่าน มอก. ผ่าน ISO ผ่าน อ.ย. มาหรือไม่ แทนที่จะเอาเวลามาโวยโรงหนัง คุณต้องหันกลับไปไปด่าโรงงานนาฬิกาต่างหาก
หายข้องใจแล้วนะ เคลียร์แล้วนะ แต่ถ้าไม่หายข้องใจ จะปันใจหันไปดูโรงหนังอื่น ผมก็ไม่ง้อคุณหรอกนะ พวก ลิโด้ สกาล่า เฮาส์ ร้อยเดียว ทุกรอบ ทุกวัน ทุกที่นั่ง ดู 10 แถม 1 โปรโมชั่นอะไรก็ไม่รู้ เอาเปรียบกันชัดๆ ขนมก็ถูกๆ แต่ดูไปไม่รู้จะเหงาไปหรือเปล่านะ เพราะคงไม่มีเพื่อนคอยคุยโทรศัพท์ เปิดไฟแยงตามานั่งแชทเป็นเพื่อนคุณในโรงหนังให้หายเหงาหรอก ดูหนังเงียบๆ มืดๆ น่ากลัวจะตาย บรื๋อออออออ
หยุดต่อว่าโรงหนังเมเจอร์และเอสเอฟอันเป็นที่รักของพวกเราได้แล้วนะ !!!
ผมขอออกมาทำการปกป้องโรงหนังอันเป็นที่รักยิ่งอย่าง เ้มเจอร์ซีนีเพลกซ์ และ เอสเอฟซีนิม่าซิตี้ ดังนี้
1. โรงหนังเค้าบอกว่า เค้าลดราคาตั๋วหนังไม่ได้จริงๆ เพราะต้นทุนในการบริหารจัดการของเค้าสูงมาก ไหนจะต้องแบ่งรายได้อันน้อยนิดจากการขายบัตร 50% ไปให้ค่ายหนัง เหลือติดกระเป๋าอยู่อีกเพียง 50% เป็นค่าบริหารจัดการภายในทั้งหลายทั้งปวง และที่สำคัญ ที่โรงหนังจำใจขึ้นค่าตั๋วอย่างเสียมิได้ มันเป็นเพราะนโยบายค่าแรง 300 ของรัฐบาลต่างหาก เค้าถึงต้องขึ้นราคาตั๋ว โรงหนังเค้าก็ต้องเลี้ยงดูลูกจ้างของเค้า ได้โปรดเห็นใจกันด้วย สรุปว่า รัฐบาลต่างหากที่เป็นคนผิด ออกนโยบายค่าแรง 300 มา ทำให้โรงหนังต้องขานรับ โรงหนังไม่ผิดเพราะได้ทำการสนองนโยบาลรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย และจะบอกให้ ว่าจริงๆ คนที่ผิดที่สุด คือที่ทำงานของพวกคุณต่างหาก ที่ไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้มาดูหนัง ให้มาผ่อนคลายกับครอบครัวในวันหยุดพักผ่อนอันแสนสบาย
2. การที่ป๊อบคอร์นที่มันแพงน่ะ เพราะวัตถุดิบเค้านำเข้ามาไกลจากสหรัฐอเมริกาเชียวนะ โปรดสำนึกไว้ว่าพวกคุณกำลังกินป๊อบคอร์นเมืองนอกเชียวนะ เข้าใจไว้ซะด้วย (สูตรที่ปรุงป๊อบคอร์นก็น่าจะได้รับการรับรองสามดาวมิชลินนะ) ไอ้ที่โรงหนังจำใจขายขนมแพงกว่าตั๋วหนังทุกวันนี้เนี่ยมันจำเป็นจริงๆ กระดาษที่ใช้พิมพ์ตั๋วหนังน่ะ พวกเค้าใช้กระดาษผลิตในไทย เลยขายในราคาถูก สัมผัสได้ ในราคาเพียงใบละ 180-200 บาท แต่ป๊อบคอร์นของพวกเค้าน่ะมันเป็นของนำเข้า พวกคุณก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าต้นทุนของนำเข้ามาแพงขนาดไหน ไหนจะค่าขนส่ง ค่าเรือ ค่าเครื่อง ค่าภาษี ค่าขนย้าย ค่าแพ็ค ค่าเก็บรักษา ฯลฯ และจะบอกให้อีกอย่างนะครับ เผลอๆ หัวเชื้อน้ำอัดลมนั่นก็คงนำเข้ามาด้วยเช่นกัน เป็นบุญของพวกคุณแล้วที่ได้กินน้ำอัดลมคุณภาพจากต่างแดน ผมยืนยันว่าต้องเป็นคนละรสชาติคนละสูตรกับน้ำเซเว่นแน่นอน น้ำเซเว่นหัวเชื้อไทย ขาย 20 บาท ถูกอย่างอุนจิ รสชาติก็คงเหมือนอุนจิด้วย แต่หัวเชื้อของโรงหนังน่าจะมาเมืองนอก ถึงขายแก้วละ 80 หรูกว่ากันเยอะ กินแล้วอา่จจะบินได้ก็ได้นะ
3. เวลาในการโฆษณาเนี่ย โรงหนังเค้ายืนยันมาแล้วว่าอยู่ที่ 5-6 นาทีต่อหนัง 1 เรื่องเท่านั้น เพราะฉะนั้น โรงหนังไม่ผิด มันผิดที่นาฬิกาข้อมือของพวกคุณนั่นแหละ ทีเ่ดินเร็วเกินไป เวลาโรงหนัง 5 นาที แต่เวลาในนาฬิกาข้อมือพวกคุณมันไหลไป 20 นาทีได้ยังไง นาฬิกาได้มาตรฐานรึเปล่า ผ่าน QC ผ่าน มอก. ผ่าน ISO ผ่าน อ.ย. มาหรือไม่ แทนที่จะเอาเวลามาโวยโรงหนัง คุณต้องหันกลับไปไปด่าโรงงานนาฬิกาต่างหาก
หายข้องใจแล้วนะ เคลียร์แล้วนะ แต่ถ้าไม่หายข้องใจ จะปันใจหันไปดูโรงหนังอื่น ผมก็ไม่ง้อคุณหรอกนะ พวก ลิโด้ สกาล่า เฮาส์ ร้อยเดียว ทุกรอบ ทุกวัน ทุกที่นั่ง ดู 10 แถม 1 โปรโมชั่นอะไรก็ไม่รู้ เอาเปรียบกันชัดๆ ขนมก็ถูกๆ แต่ดูไปไม่รู้จะเหงาไปหรือเปล่านะ เพราะคงไม่มีเพื่อนคอยคุยโทรศัพท์ เปิดไฟแยงตามานั่งแชทเป็นเพื่อนคุณในโรงหนังให้หายเหงาหรอก ดูหนังเงียบๆ มืดๆ น่ากลัวจะตาย บรื๋อออออออ