วันนี้ประมาณบ่าย 2 โรงเรียนเรามีประชุมห้องเรากลุ่มแรกขึ้นลิฟต์ไป รอดไปได้ด้วยดี
ต่อมา ตาเรากับเพื่อนๆอีก 13 คน ขึ้นไปได้สักพัก ไฟตก แล้วลิฟต์ก็ค้างทันใด
มีเสียงหวีดร้องจากผู้หญิงเล็กน้อย(เราด้วย 55) จากนั้นก็กดปุ่มฉุกเฉิน ปรากฏว่ามันใช้ไม่ได้
แต่คุณครูรู้ทัน เลยส่งคนมาดูลิฟต์ ขอบคุณสวรรค์
จากนั้นคุณครูก็ไปตามช่างของโรงเรียนมา พร้อมกับคุยปลอบใจไปสักพักว่า
"วันนี้เขาจะตัดไฟถึงบ่าย 2 รอหน่อยนะลูก"
เท่านั้นแหละ ว้าก ย้ากกก อ๊ากกก
เราบอกเพื่อนๆว่า อย่าพูดเยอะ มันให้ออกซิเจนมาก ค่อยๆหายใจ
แต่อยู่ในลิฟต์พวกเราเฮฮากันมาก ขอบคุณเพื่อนตัวโจ๊กที่พูดให้ตลก ลดความเครียดไปได้บ้าง เช่น
"อย่าตดนะเว้ยย" "ตดโดนกระทืบแน่" 555 แค่นั้นก็เรียกเสียงฮาได้อย่างครึกครื้น
ติดอยู่ประมาณ เกือบ 10 นาที ครูก็บอกให้ง้างลิฟต์ แล้วค่อยๆหย่อนตัวลงมาจากช่องแคบ
นั่นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ตระหนักได้ว่า "ออกซิเจนมีค่าแค่ไหน"
ขอบคุณคุณครูและช่างประจำโรงเรียนมากนะคะ
เล่าประสบการณ์ลิฟต์ค้าง
ต่อมา ตาเรากับเพื่อนๆอีก 13 คน ขึ้นไปได้สักพัก ไฟตก แล้วลิฟต์ก็ค้างทันใด
มีเสียงหวีดร้องจากผู้หญิงเล็กน้อย(เราด้วย 55) จากนั้นก็กดปุ่มฉุกเฉิน ปรากฏว่ามันใช้ไม่ได้
แต่คุณครูรู้ทัน เลยส่งคนมาดูลิฟต์ ขอบคุณสวรรค์
จากนั้นคุณครูก็ไปตามช่างของโรงเรียนมา พร้อมกับคุยปลอบใจไปสักพักว่า
"วันนี้เขาจะตัดไฟถึงบ่าย 2 รอหน่อยนะลูก"
เท่านั้นแหละ ว้าก ย้ากกก อ๊ากกก
เราบอกเพื่อนๆว่า อย่าพูดเยอะ มันให้ออกซิเจนมาก ค่อยๆหายใจ
แต่อยู่ในลิฟต์พวกเราเฮฮากันมาก ขอบคุณเพื่อนตัวโจ๊กที่พูดให้ตลก ลดความเครียดไปได้บ้าง เช่น
"อย่าตดนะเว้ยย" "ตดโดนกระทืบแน่" 555 แค่นั้นก็เรียกเสียงฮาได้อย่างครึกครื้น
ติดอยู่ประมาณ เกือบ 10 นาที ครูก็บอกให้ง้างลิฟต์ แล้วค่อยๆหย่อนตัวลงมาจากช่องแคบ
นั่นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ตระหนักได้ว่า "ออกซิเจนมีค่าแค่ไหน"
ขอบคุณคุณครูและช่างประจำโรงเรียนมากนะคะ