พื้นที่สำหรับคน "แน่นอก" : เบื้องหลังความสำเร็จของ "รักต้องเปิด (แน่นอก)"

ตอนนี้ใครไม่รู้จักเพลง "รักต้องเปิด (แน่นอก)" ของวง "3.2.1 กามิกาเซ่" ที่ได้ "ใบเตย อาร์สยาม-สุธีวิน ทวีสิน" มาฟีทเจอริ่งคงเชยเต็มทน

เพราะตอนนี้ไปไหนมาไหนใครๆ ก็พูดถึง ทั้งเพลงที่จังหวะตึ๊ดๆ ดี และท่าเต้นที่ตอนนี้มีคนถ่ายคลิปเต้นคัฟเวอร์อวดกันในยูทูบ ไม่รู้กี่คลิปต่อกี่คลิป ทั้งของไทย แถมยังมีที่ไกลถึงไต้หวัน

ที่ดังถล่มทลายอย่างนั้น ฟังจากเสียง "หทัย ศราวุฒิไพบูลย์" ผอ.กลุ่มงานกามิกาเซ่-ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) แล้วมีหลายเหตุผล

หนึ่งในนั้นเริ่มจากการวางคอนเซ็ปต์อัลบั้ม "มันเดย์" ให้ออกมามันส์ๆ ฮาๆ สมคาแร็กเตอร์วง จากนั้นก็อาศัย "กระแส" มาเสริมความน่าสนใจ

ซึ่งใบเตย อาร์สยาม เหมาะจะทำหน้าที่นี้ที่สุด

เพราะได้ทั้งกระแสจากชื่อเสียง แถมความเป็นลูกทุ่งของใบเตยยังน่าจะช่วยให้วง 3.2.1 ขยายฐานจากฮิพฮอพมาจับกลุ่มคนฟังลูกทุ่งได้มากขึ้น

แต่แน่นอนว่าแม้ "การมีใบเตยทำให้คนหันมามอง" แต่ "คอนเทนต์" ก็ต้องทำหน้าที่ "ไม่งั้นเขาหันมามองแล้วก็จะผ่านไป"

นั่นจึงทำให้นอกจากเนื้อเพลงสนุกๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง "เช็ดแล้วทิ้ง (รกอก)" ของใบเตย กับทำนองเพลงมันส์ๆ แล้ว เสื้อผ้า หน้าผม มิวสิกวิดีโอและท่าเต้นยังต้องจัดเต็ม

เมื่อมั่นใจแล้วก็ปล่อยซิงเกิ้ลผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก

"โซเชียลเน็ตเวิร์กมีผลมาก เป็นโจทย์สำคัญว่าถ้างานกระแทกใจคนดู ทุกคนพร้อมให้สื่อตัวเองไปช่วยโปรโมต"

ซึ่งไม่เพียงแต่เห็นผลในประเทศ แต่นอกประเทศอย่างจีน ไต้หวัน ยังสนใจอยากซื้อลิขสิทธิ์เอ็มวีเพลงนี้ไปเปิดในทีวีบ้านเขาบ้าง

แต่เห็นประสบความสำเร็จขนาดนี้ อย่าเพิ่งหวังว่าจะได้เห็นปรากฏการณ์ระหว่าง 3.2.1 กับสาวสั้นเสมอหูบ่อยๆ

เพราะคนทำเขาว่า "ถ้าเซอร์ไพรส์ใช้บ่อยๆ ก็ไม่เซอร์ไพรส์"

"เลยต้องแบบนานๆ มาทีแต่ดังเปรี้ยง"

สำหรับ "ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย" นักการตลาดคนดังจากรายการ "เอสเอ็มอีตีแตก" มองเรื่อง "รักต้องเปิด (แน่นอก)" ว่า นี่เป็นเรื่องของความลงตัว

ทั้งในแง่เพลงที่ผสมผสานระหว่างลูกทุ่งและฮิพฮอพแล้ว ในแง่การตลาดก็ด้วย

"มันเป็นแผนที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน"

"คือใช้แบรนด์ใบเตยที่ขายได้อยู่แล้ว มาดัน 3.2.1 ให้ดังขึ้น หากขณะเดียวกันก็เอา 3.2.1 มาทำให้ใบเตยเป็นสากลมากขึ้น"

ประเด็นแรกนั้นเขามองว่าเพราะนักร้องฮิพฮอพวงนี้ถึงจะเก่ง แต่ยังอยู่ในวงแคบ จึงต้องอาศัยใบเตย

ใบเตยที่ก่อนหน้านี้ก็อาศัย "การตกเป็นข่าว" เป็นตัวช่วยเช่นกัน

"ดาราต้องเป็นข่าว ต่อให้เป็นข่าวไม่ดีก็ดีกว่าไม่เป็นข่าว"

จึงช่วยไม่ได้ที่ข่าวฉาวกับสารพัดหนุ่มก่อนหน้านี้ ถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์

เช่นเดียวกับคาแร็กเตอร์ "ไม่สั้นเสมอหู อย่าเรียกหนูใบเตย"

"ผมว่าตอนนั้นใบเตยคงทดลองดูว่าแต่งแล้วสื่อพูดถึงไหม คนรู้จักมากขึ้นไหม

"ส่วนอาร์สยามคงไม่ได้สั่ง แต่ก็ไม่ได้ห้าม เพราะสื่อพูดถึงเยอะก็ปล่อย ถ้าทำให้ค่ายดังขึ้น ไม่ผิดกฎหมายก็โอเค

"เพราะเวลาหากินในวงการนี้มีไม่มาก ต้องเอ็กซ์ตรีม ทำสุดสุด ไม่กั๊ก

"แต่ต้องให้คนส่วนใหญ่รับได้"

ส่วนพอดังแล้ว เป้าหมายต่อไปคือต้องอยู่ให้นาน ซึ่งทำได้ด้วยการโชว์ฝีมือ

พูดง่ายๆ คือถ้าอยากดังก็โชว์ส่วนสัด จากนั้นถ้าไม่มีฝีมือ ก็จะอยู่ได้แค่ระดับหนึ่ง

"รักต้องเปิด (แน่นอก)" จึงเหมือนจุดร่วมระหว่าง 2 ศิลปิน ก่อนจะแยกไปสู่เป้าหมายของใครของมัน

"แล้วเขายังเอาจุดเด่นหลายอันมารวมกัน"

ทั้งวิธีแบทเทิลกัน 2 วง จับ 2 คนมาชนกัน ที่ดูแล้วสนุก

ต่อมาคือขายความเซ็กซี่ แบบที่คนทำเอ็มวีทั่วโลกเขาทำกัน

"ผู้หญิงหน้าตาดี หุ่นดีต้องโชว์กันเต็มที่"

แต่ "ระดับโลกถ้าเน้นล่างจะดูน่าเกลียด ขึ้นตลาดบนดินไม่ได้"

เราเลยเห็นจุดขายในท่ายกอก ที่ถือเป็น "ท่อนบน"

ทว่าสำคัญสุดในยุคออนไลน์ ถ้าไม่อยากอยู่แค่ในไทยก็ต้องออกแนวสากลอย่าง "กังนัมสไตล์"

"กังนัมเราไม่รู้จักภาษา แต่ทำนองเร้าตลอด มิวสิกวิดีโอสนุก ท่าเต้นง่าย ใครก็ทำได้ แล้วนักร้องหน้าตาธรรมดา ถ้าเต้นดีๆ ก็ไม่มีคนสนใจ ก็เต้นให้ตลกไปเลย"

"นี่เองเพลงถึงได้ดังจน 2 ศิลปินฟินไปตามๆ กัน"

"เพราะ "รัก" จึงต้อง "คัฟเวอร์"

คลิปวิดีโอคัฟเวอร์เพลงนี้ตอนนี้มีเท่าไหร่ อย่าได้ถาม เพราะนับไม่ได้จริงๆ

ทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่ แม้แต่หมู่คณะก็ยังมี

แบบเต้นท่าเป๊ะ มีอาทิ เวอร์ชั่นโคโยตี้ชานเมือง โพสต์โดย "freakycoyote" ที่สาวประเภทสองนางนี้มีสถานที่เต้นสุดแซ่บอย่างหน้าพารากอน เกาะกลางถนน หรือแม้แต่ทางเดินเชื่อมสถานีรถไฟฟ้า


ฝั่งคลิปของ "ใบหนาด อาร์สยอง ตอนจบอย่างฮา" ไม่เพียงหนุ่มหน้าสวยจะเต้นแรง ท่าเป๊ะ ยังแอบขำตรงที่มีคุณยายมาร่วมเฟรมแบบไม่ได้ตั้งใจ


แต่ที่ตอกย้ำความแรงต้องคลิปคัฟเวอร์โดยแฟนเพลงชาวไต้หวันที่โพสต์โดย "mydiary0407" ทั้ง 2 คลิป

อันแรกเป็นเวอร์ชั่น "Kenny j. Kuo From Taiwan" ที่นอกจากท่าเต้นสวยงาม แข็งแรงตามประสาผู้ชาย 2 หนุ่มในคลิปยังลิปซิงค์ตามเสียด้วย


ส่วนอีกคลิปหนุ่มสาวกว่า 10 คน ในสถานที่คล้ายห้องเรียนมาโชว์สเต็ป "แน่นอก" อย่างพร้อมเพรียง


ขณะพวกท่าไม่เป๊ะเท่าพวกแรก แต่ใช้ลีลาเซ็กซี่เข้าสู้ก็มีทั้งคลิป "รักต้องเปิด (แน่นอก) Cover By เพียว" หรือ 2 สาวเวอร์ชั่น "#Beautmiko"


แต่เด็ดสุดก็ต้องของ "aoffy maxim" ไอดอลในแอพพลิเคชั่นโซเชียลแคม


"นี่ขนาดยังไม่นับคลิปตัดต่อที่เอาบรรดาคนดัง นักร้องเกาหลี ตัวละครในเกมออนไลน์มาเต้นแน่นอกนะเนี่ย"



-++++++++


ท่ายกอก

เชื่อไหมว่าร้อยทั้งร้อยของคนชอบเพลงนี้ ต้องติดใจท่าเต้น ที่ "เจด้า-อภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง" จากบริษัท "Harlem Shake" เป็นคนคิด

"ตกใจว่ามันดังได้ไง" เธอบอก

ด้วยใจจริงนั้น "อยากเห็นงานที่ดูมีสกิลแล้วดัง แต่อันนี้ท่าเต้นตลก ขำแล้วดัง"

อย่างไรก็ตาม ลึกๆ แล้ว "ก็ภูมิใจเหมือนกัน"

ก่อนย้อนให้ฟังว่า โจทย์ที่ได้รับมานั้น คือให้คิดท่าเต้นสนุก ง่าย ไม่ซับซ้อน คนดูแล้วทำตามได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาตัวศิลปินคือ 3.2.1.

ที่ต้องคงความสนุก กวนๆ แต่ยังเท่ กับใบเตยที่เป็นคนแรง กล้า ท่าอาจไม่ต้องดูดีเท่าไหร่ แต่ให้แรงๆ เต็มที่ไป เธอก็คิดท่าเต้นนี้ได้หลังใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง

ส่วนที่ท่าเต้นออกมาฮิตนัก เจด้าก็ว่าต้องขอบคุณบรรดานักเต้นคัฟเวอร์ทั้งหลาย โดยเฉพาะสาวประเภทสอง

"เพราะถ้าคนทำตามเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็จะสนุกประมาณหนึ่ง พอเป็นสาวประเภทสองที่ใส่สีหน้าท่าทาง คนจะยิ่งชอบเลยส่งให้เพลงยิ่งดัง"

ดังจนคนคิดท่าต้องมานั่งทบทวนตัวเองใหม่ "ท่ายากๆ ที่ต้องใช้สกิล มันท้าทายก็จริง แต่พอเห็นอย่างนี้ทำให้เรารู้ว่าคนไทยต้องการอะไรสนุกๆ ง่ายๆ หลุดๆ"

"อาจเพราะคนที่เต้นไม่ได้มีเยอะกว่าคนที่เต้นได้ จึงไม่อยากทำตามอะไรที่ยากๆ ซับซ้อน

"และตอนนี้ก็เริ่มมีค่ายอื่นติดต่อมา อยากให้ช่วยคิดท่าเต้นง่ายๆ ให้ ต่างจากแต่ก่อนที่ขอท่ายากๆ"

"ซึ่งอาจเป็นผลพวงจากเพลงนี้"

หน้า 24,มติชนรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่