นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำเสื้อแดง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ค แสดงความชื่นชมนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย กรณีปะฉะดะ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
เฟซบุ๊คของนายณัฐวุฒิ บอกว่า
“เก่ง การุณเป็นพี่น้องผม เขาเป็นลูกผู้ชาย คนพันธุ์นี้ต่อให้เจ็บเจียนตายก็ไม่ร้องไห้หรือคายเลือดให้ใครเห็น แต่ก็ไม่ควรมีใครโดยเฉพาะคู่กรณีไปแสดงท่าทีเย้ยหยันหรือสร้างสถานการณ์ให้เป็นประเด็น
คนเจ็บหนักอยู่ คุณก็ได้ประโยชน์แล้วจากการสอยเขาลงมา ใช่หรือที่จะไปเผชิญหน้าถ่ายรูปเขากลางงานทั้งที่คุณก็ปรากฏตัวและปราศรัยจนจบออกจากงานไปแล้ว อ้างว่ามีคนโทรไปบอกว่ากำลังถูกโจมตี ก็ให้คนนั้นแหละอัดเทปมาเป็นหลักฐานไว้ก็ได้ ยกเว้นแต่เจตนากลับไปให้มีเรื่อง โดยตั้งใจจะให้ได้ประโยชน์ทางการเมือง
ในคลิปมันชัดว่าเกิดอะไรขึ้น ชัดจนพอวิเคราะห์เจตนากันได้ การุณเขาจุดเดือดต่ำแต่น้ำใจสูง ผมก็ไม่นึกว่านักการเมืองรุ่นใหม่จากพรรคที่อ้างคุณธรรมมากกว่าใคร จะใช้วิธีเล่นงานกันแบบน่าอายเช่นนี้
ผมมันคนธรรมดาไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่ผมยืนยันว่าวิธีการที่คุณใช้ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
อ่านวาทะของนายณัฐวุฒิแล้ว รู้สึกได้ถึงความลำพองตน ราวกับว่าตนเองก็เป็นลูกผู้ชายเสียเต็มประดา
โอกาสนี้ จึงขอแลกเปลี่ยนกับ “เต้น เผาเลยพี่น้อง” ว่าด้วยเรื่อง “ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
1) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... ไอ้ประเภทปราศรัยหาเสียงใส่ร้ายป้ายสีคู่ต่อสู้ พูดล่วงเกินบุพการีคนอื่นเขา
ถึงขนาดว่า “ไอ้หมอนี่ ไอ้ผู้สมัครพรรคนี้ มันไม่รู้มาจากภูเขาลูกไหน มันแซ่อะไร มันเปลี่ยนแซ่ เปลี่ยนนามสกุลแล้วเนี่ย ทำให้คุณพ่อเขาตรอมใจตาย เพราะลูกรังเกียจแซ่พ่อตัวเองใช่ไหม และไอ้หมอนี่ถ่ายหนังสือลงในนิตยสารเกย์ใช่ไหม..อ่อ ที่เขาว่ามาว่า เอ็งต้องไปเปลี่ยนชื่อแซ่ เอ็งเป็นคนภูเขา เกิดมาแล้วเป็นแซ่ แล้วก็เปลี่ยนนามสกุล และพ่อตรอมใจตาย และเอ็งมาถ่ายหนังสือเกย์ แก้ผ้าถ่ายรูป ขายตัว นั้นนะ ความจริงเป็นเอ็งใช่ไหม..”
พฤติกรรมแบบนี้หรือ ที่ “เต้น เผาเลยพี่น้อง” ออกมายกหางว่าเป็นวิสัยของลูกผู้ชาย!
2) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... ไอ้ประเภทที่ยกพวกกรูเข้าไปรุมล้อมกรอบคนอื่น แถมชี้หน้าด่า ตะคอกใส่ ข่มขู่คุกคาม ยิ่งกว่านั้น ยังอาศัยเมียตัวเองถ่ายวีดีโอไป ด่าเขาไปด้วย หวังเอาคลิปมาเคลื่อนไหวเป็นประเด็นการเมืองต่อ
ในคลิปปรากฏชัดเจนว่า นายแทนคุณเข้าไปสังเกตการณ์และบันทึกภาพบรรยากาศในห้องประชุมสัมมนางบเอสเอ็มแอล อันเป็นเงินภาษีของประชาชน มิใช่งานส่วนตัวของนายการุณ เพราะงบดังกล่าวควรจะต้องถูกจัดสรรให้กับประชาชนไม่จำกัดสีเสื้อ แถมนายแทนคุณก็ยืนอยู่หลังห้อง ไม่ได้ขึ้นไปป่วนเวที ไม่ได้ไปแย่งไมค์นายการุณ หรือแม้แต่จะไปส่งเสียงดังรำคาญอะไร แต่กลับเป็นนายการุณและพวกที่โหวกเหวกโวยวาย รุมเข้ามาล้อมกรอบ ชี้หน้า ตะคอกข่มขู่นายแทนคุณ
นายการุณถึงขนาดหลุดปากว่า “อย่าให้ต้องเถื่อน”
พฤติกรรมแบบนี้หรือที่ “เต้น เผาเลยพี่น้อง” อ้างว่า “ต่อให้เจ็บเจียนตายก็ไม่ร้องไห้หรือคายเลือดให้ใครเห็น” แต่งานนี้ ใครไม่คายเลือด หรือใครสำรอกความถ่อย ก็ปรากฏเห็นๆ กันอยู่
3) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... ไอ้ประเภทจิกผม-ตบเมียเก่า กลางอาคารผู้โดยสารสนามบินดอนเมือง
ถีบ ส.ส.ต่างพรรคในอาคารรัฐสภา
ท้าสาบานว่าตนเองไม่ได้ทำ ถ้าทำผิด “ขอให้แม่ผมตาย”
อีแบบนี้ ทำไมไม่สอน “ไอ้เก่ง” บ้างว่า “ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
4) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... นายณัฐวุฒิควรจะรู้ตัวเอง รู้อยู่แก่ใจตนเอง
พฤติกรรมปลุกระดม ยุยงให้ประชาชนเผาบ้านเผาเมือง เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2553 ที่เขาสอยดาว บอกว่า
“ถ้าพวกคุณยึดอำนาจ พวกผมเผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับ ใครจะอะไรมาเอากับผมนี่ ถ้าคุณยึดอำนาจ เผา”
พฤติกรรมตีฝีปาก ยุยงปลุกปั่นประชาชน ชักจูงให้กระทำการบุกเข้าไปลักขโมยทรัพย์สินในห้างสรรพสินค้า กระทำการอย่างไร้ความรับผิดชอบ ปราศรัยที่เวทีราชประสงค์ เมื่อ 8 เม.ย.2553 บอกว่า
“สมัยผมเด็กๆ ผมเป็นคนขี้ตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาผมนั่งฟังอะไรอยู่เพลินๆ ผมเพลีย แล้วผมหลับอยู่ดีๆ แล้วมีตูมตามขึ้นมา ผมสมัยเด็กนี่ เวลาตกใจชอบวิ่งเข้าห้างครับ... นอนๆ อยู่ดีๆ ตูม เซ็นทรัลเวิลด์ ดื้อๆ เลย ตูม เกสรฯ ตูมพารากอน อย่างนั้นเลย... ส่วนใหญ่เวลาตกใจผมวิ่งเข้าหากระจก แล้วพอวิ่งเข้าหากระจกนี่ ผมไม่ใช่จะชนกระจกไปเรื่อยๆ นะครับ ผมไม่ใช่นางเอกเรื่องทวิภพนี่ครับ โดดเข้ากระจกได้ เพราะฉะนั้น ผม เวลาตกอกตกใจ มันวิ่งไปเฉยๆ ไม่ได้ครับ มีหินติดไม้ติดมือไปด้วย ผมขว้างไปเรื่อยไม่รู้เป็นอะไร...แล้วผมดูๆ คนเสื้อแดงก็ขี้ตกใจกันเป็นแสนนะ ผมว่าเนี่ย และผมดูอาการแล้วเนี่ย พฤติกรรมในการตกใจไม่เหมือนกันด้วยนะ คือมักจะบอกว่าใครอยู่ใกล้ตรงไหนก็ตกใจตรงนั้น เช่น อยู่ใกล้เซ็นทรัลเวิลด์ก็ตกใจเซ็นทรัลเวิลด์ อยู่ใกล้เกสรฯ ก็ตกใจเกสรฯ อยู่ใกล้พารากอนก็ตกใจพารากอน บางคนแปลกครับ ตกใจที่นี่ แต่วิ่งไปตั้งหลักถึงเอ็มโพเรียม ก็มีครับ...
...ทีนี้ ผมเป็นห่วงจริงๆ ครับ พอตูมๆ สมาร์ทบอมบ์ทหารเข้ามา คนหลายหมื่น คนเป็นแสน ต่างคนต่างวิ่ง ต่างคนต่างตกใจ วิ่งชนข้าวของระเนระนาดไปหมด แล้วคนเสื้อแดงตกใจวิ่งชนของแพงเท่านั้นนะครับ คนเสื้อแดงเวลาตกใจนี่ผมสังเกตนะ พฤติกรรมพวกนี้ เวลาตกใจมักจะไม่วิ่งลงไปซูเปอร์มาร์เก็ต ไปสะดุดแฟ้บ สะดุดบรีส ไม่มีครับ อย่างน้อยต้องคริสเตียนดิออร์ บางคนแปลกครับ ตกใจวิ่งเข้าร้านเครื่องทองเครื่องเพชร วิ่งเข้าร้านจิวเวลรี่...
...แล้วผมก็ไม่รู้ว่ากฎหมายจะเอาผิดคนเสื้อแดงได้ยังไง ก็เขาตกใจ”
ปรากฏว่า เมื่อแกนนำเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุม 19 พ.ค.2553 คนเสื้อแดงบางส่วนก็กรูเข้าไปลักทรัพย์ในห้างสรรพสินค้า ทั้งของแบรนด์เนมราคาแพง น้ำหอม นาฬิกาหรู เครื่องเพชร ฯลฯ และมีการเผาห้าง
พฤติกรรมของแกนนำเสื้อแดงที่ประกาศยุติการชุมนุม แล้วรีบเอาตัวเองเข้าไปซุกอยู่ใต้ปีกตำรวจ ทิ้งมวลชนที่เวทีราชประสงค์ ก็สมควรถูกประณามอย่างยิ่ง เพราะไม่ดูแลให้มวลชนของตนสลายการชุมนุมอย่างสงบและกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทั้งๆ ที่ รัฐบาลเวลานั้นพร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่
ดังนั้น ก่อนที่นายณัฐวุฒิจะออกปากเที่ยวมอบคำรับรองความเป็น “ลูกผู้ชาย” ให้กับผู้อื่น หวังว่า “เต้น เผาเลยพี่น้อง” จะประเมินระดับความเป็นลูกผู้ชายของตนเองเสียก่อน
ลูกผู้ชาย กล้าทำต้องกล้ารับ
ไม่ใช่รับผิดชอบเอง ด้วยการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเอง เสวยอำนาจเอง
ไม่ใช่สู้แล้วรวย สู้แล้วได้เป็นเสนาบดีหรืออำมาตย์
และจะต้องไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรม ล้างผิดให้กับคนก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง ฆ่าคนเสื้อแดง ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน
เพราะพฤติกรรมเยี่ยงนี้ “ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
ที่มา:
http://www.naewna.com/politic/columnist/6652
ปล.ว่างัยหล่ะ ลูกผู้ชาย...เอิ๊ก ๆ ๆ
ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน!...
เฟซบุ๊คของนายณัฐวุฒิ บอกว่า
“เก่ง การุณเป็นพี่น้องผม เขาเป็นลูกผู้ชาย คนพันธุ์นี้ต่อให้เจ็บเจียนตายก็ไม่ร้องไห้หรือคายเลือดให้ใครเห็น แต่ก็ไม่ควรมีใครโดยเฉพาะคู่กรณีไปแสดงท่าทีเย้ยหยันหรือสร้างสถานการณ์ให้เป็นประเด็น
คนเจ็บหนักอยู่ คุณก็ได้ประโยชน์แล้วจากการสอยเขาลงมา ใช่หรือที่จะไปเผชิญหน้าถ่ายรูปเขากลางงานทั้งที่คุณก็ปรากฏตัวและปราศรัยจนจบออกจากงานไปแล้ว อ้างว่ามีคนโทรไปบอกว่ากำลังถูกโจมตี ก็ให้คนนั้นแหละอัดเทปมาเป็นหลักฐานไว้ก็ได้ ยกเว้นแต่เจตนากลับไปให้มีเรื่อง โดยตั้งใจจะให้ได้ประโยชน์ทางการเมือง
ในคลิปมันชัดว่าเกิดอะไรขึ้น ชัดจนพอวิเคราะห์เจตนากันได้ การุณเขาจุดเดือดต่ำแต่น้ำใจสูง ผมก็ไม่นึกว่านักการเมืองรุ่นใหม่จากพรรคที่อ้างคุณธรรมมากกว่าใคร จะใช้วิธีเล่นงานกันแบบน่าอายเช่นนี้
ผมมันคนธรรมดาไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่ผมยืนยันว่าวิธีการที่คุณใช้ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
อ่านวาทะของนายณัฐวุฒิแล้ว รู้สึกได้ถึงความลำพองตน ราวกับว่าตนเองก็เป็นลูกผู้ชายเสียเต็มประดา
โอกาสนี้ จึงขอแลกเปลี่ยนกับ “เต้น เผาเลยพี่น้อง” ว่าด้วยเรื่อง “ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
1) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... ไอ้ประเภทปราศรัยหาเสียงใส่ร้ายป้ายสีคู่ต่อสู้ พูดล่วงเกินบุพการีคนอื่นเขา
ถึงขนาดว่า “ไอ้หมอนี่ ไอ้ผู้สมัครพรรคนี้ มันไม่รู้มาจากภูเขาลูกไหน มันแซ่อะไร มันเปลี่ยนแซ่ เปลี่ยนนามสกุลแล้วเนี่ย ทำให้คุณพ่อเขาตรอมใจตาย เพราะลูกรังเกียจแซ่พ่อตัวเองใช่ไหม และไอ้หมอนี่ถ่ายหนังสือลงในนิตยสารเกย์ใช่ไหม..อ่อ ที่เขาว่ามาว่า เอ็งต้องไปเปลี่ยนชื่อแซ่ เอ็งเป็นคนภูเขา เกิดมาแล้วเป็นแซ่ แล้วก็เปลี่ยนนามสกุล และพ่อตรอมใจตาย และเอ็งมาถ่ายหนังสือเกย์ แก้ผ้าถ่ายรูป ขายตัว นั้นนะ ความจริงเป็นเอ็งใช่ไหม..”
พฤติกรรมแบบนี้หรือ ที่ “เต้น เผาเลยพี่น้อง” ออกมายกหางว่าเป็นวิสัยของลูกผู้ชาย!
2) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... ไอ้ประเภทที่ยกพวกกรูเข้าไปรุมล้อมกรอบคนอื่น แถมชี้หน้าด่า ตะคอกใส่ ข่มขู่คุกคาม ยิ่งกว่านั้น ยังอาศัยเมียตัวเองถ่ายวีดีโอไป ด่าเขาไปด้วย หวังเอาคลิปมาเคลื่อนไหวเป็นประเด็นการเมืองต่อ
ในคลิปปรากฏชัดเจนว่า นายแทนคุณเข้าไปสังเกตการณ์และบันทึกภาพบรรยากาศในห้องประชุมสัมมนางบเอสเอ็มแอล อันเป็นเงินภาษีของประชาชน มิใช่งานส่วนตัวของนายการุณ เพราะงบดังกล่าวควรจะต้องถูกจัดสรรให้กับประชาชนไม่จำกัดสีเสื้อ แถมนายแทนคุณก็ยืนอยู่หลังห้อง ไม่ได้ขึ้นไปป่วนเวที ไม่ได้ไปแย่งไมค์นายการุณ หรือแม้แต่จะไปส่งเสียงดังรำคาญอะไร แต่กลับเป็นนายการุณและพวกที่โหวกเหวกโวยวาย รุมเข้ามาล้อมกรอบ ชี้หน้า ตะคอกข่มขู่นายแทนคุณ
นายการุณถึงขนาดหลุดปากว่า “อย่าให้ต้องเถื่อน”
พฤติกรรมแบบนี้หรือที่ “เต้น เผาเลยพี่น้อง” อ้างว่า “ต่อให้เจ็บเจียนตายก็ไม่ร้องไห้หรือคายเลือดให้ใครเห็น” แต่งานนี้ ใครไม่คายเลือด หรือใครสำรอกความถ่อย ก็ปรากฏเห็นๆ กันอยู่
3) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... ไอ้ประเภทจิกผม-ตบเมียเก่า กลางอาคารผู้โดยสารสนามบินดอนเมือง
ถีบ ส.ส.ต่างพรรคในอาคารรัฐสภา
ท้าสาบานว่าตนเองไม่ได้ทำ ถ้าทำผิด “ขอให้แม่ผมตาย”
อีแบบนี้ ทำไมไม่สอน “ไอ้เก่ง” บ้างว่า “ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
4) ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน... นายณัฐวุฒิควรจะรู้ตัวเอง รู้อยู่แก่ใจตนเอง
พฤติกรรมปลุกระดม ยุยงให้ประชาชนเผาบ้านเผาเมือง เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2553 ที่เขาสอยดาว บอกว่า
“ถ้าพวกคุณยึดอำนาจ พวกผมเผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับ ใครจะอะไรมาเอากับผมนี่ ถ้าคุณยึดอำนาจ เผา”
พฤติกรรมตีฝีปาก ยุยงปลุกปั่นประชาชน ชักจูงให้กระทำการบุกเข้าไปลักขโมยทรัพย์สินในห้างสรรพสินค้า กระทำการอย่างไร้ความรับผิดชอบ ปราศรัยที่เวทีราชประสงค์ เมื่อ 8 เม.ย.2553 บอกว่า
“สมัยผมเด็กๆ ผมเป็นคนขี้ตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาผมนั่งฟังอะไรอยู่เพลินๆ ผมเพลีย แล้วผมหลับอยู่ดีๆ แล้วมีตูมตามขึ้นมา ผมสมัยเด็กนี่ เวลาตกใจชอบวิ่งเข้าห้างครับ... นอนๆ อยู่ดีๆ ตูม เซ็นทรัลเวิลด์ ดื้อๆ เลย ตูม เกสรฯ ตูมพารากอน อย่างนั้นเลย... ส่วนใหญ่เวลาตกใจผมวิ่งเข้าหากระจก แล้วพอวิ่งเข้าหากระจกนี่ ผมไม่ใช่จะชนกระจกไปเรื่อยๆ นะครับ ผมไม่ใช่นางเอกเรื่องทวิภพนี่ครับ โดดเข้ากระจกได้ เพราะฉะนั้น ผม เวลาตกอกตกใจ มันวิ่งไปเฉยๆ ไม่ได้ครับ มีหินติดไม้ติดมือไปด้วย ผมขว้างไปเรื่อยไม่รู้เป็นอะไร...แล้วผมดูๆ คนเสื้อแดงก็ขี้ตกใจกันเป็นแสนนะ ผมว่าเนี่ย และผมดูอาการแล้วเนี่ย พฤติกรรมในการตกใจไม่เหมือนกันด้วยนะ คือมักจะบอกว่าใครอยู่ใกล้ตรงไหนก็ตกใจตรงนั้น เช่น อยู่ใกล้เซ็นทรัลเวิลด์ก็ตกใจเซ็นทรัลเวิลด์ อยู่ใกล้เกสรฯ ก็ตกใจเกสรฯ อยู่ใกล้พารากอนก็ตกใจพารากอน บางคนแปลกครับ ตกใจที่นี่ แต่วิ่งไปตั้งหลักถึงเอ็มโพเรียม ก็มีครับ...
...ทีนี้ ผมเป็นห่วงจริงๆ ครับ พอตูมๆ สมาร์ทบอมบ์ทหารเข้ามา คนหลายหมื่น คนเป็นแสน ต่างคนต่างวิ่ง ต่างคนต่างตกใจ วิ่งชนข้าวของระเนระนาดไปหมด แล้วคนเสื้อแดงตกใจวิ่งชนของแพงเท่านั้นนะครับ คนเสื้อแดงเวลาตกใจนี่ผมสังเกตนะ พฤติกรรมพวกนี้ เวลาตกใจมักจะไม่วิ่งลงไปซูเปอร์มาร์เก็ต ไปสะดุดแฟ้บ สะดุดบรีส ไม่มีครับ อย่างน้อยต้องคริสเตียนดิออร์ บางคนแปลกครับ ตกใจวิ่งเข้าร้านเครื่องทองเครื่องเพชร วิ่งเข้าร้านจิวเวลรี่...
...แล้วผมก็ไม่รู้ว่ากฎหมายจะเอาผิดคนเสื้อแดงได้ยังไง ก็เขาตกใจ”
ปรากฏว่า เมื่อแกนนำเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุม 19 พ.ค.2553 คนเสื้อแดงบางส่วนก็กรูเข้าไปลักทรัพย์ในห้างสรรพสินค้า ทั้งของแบรนด์เนมราคาแพง น้ำหอม นาฬิกาหรู เครื่องเพชร ฯลฯ และมีการเผาห้าง
พฤติกรรมของแกนนำเสื้อแดงที่ประกาศยุติการชุมนุม แล้วรีบเอาตัวเองเข้าไปซุกอยู่ใต้ปีกตำรวจ ทิ้งมวลชนที่เวทีราชประสงค์ ก็สมควรถูกประณามอย่างยิ่ง เพราะไม่ดูแลให้มวลชนของตนสลายการชุมนุมอย่างสงบและกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทั้งๆ ที่ รัฐบาลเวลานั้นพร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่
ดังนั้น ก่อนที่นายณัฐวุฒิจะออกปากเที่ยวมอบคำรับรองความเป็น “ลูกผู้ชาย” ให้กับผู้อื่น หวังว่า “เต้น เผาเลยพี่น้อง” จะประเมินระดับความเป็นลูกผู้ชายของตนเองเสียก่อน
ลูกผู้ชาย กล้าทำต้องกล้ารับ
ไม่ใช่รับผิดชอบเอง ด้วยการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเอง เสวยอำนาจเอง
ไม่ใช่สู้แล้วรวย สู้แล้วได้เป็นเสนาบดีหรืออำมาตย์
และจะต้องไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรม ล้างผิดให้กับคนก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง ฆ่าคนเสื้อแดง ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน
เพราะพฤติกรรมเยี่ยงนี้ “ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน”
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/6652
ปล.ว่างัยหล่ะ ลูกผู้ชาย...เอิ๊ก ๆ ๆ