You are mine
บทที่ 1
http://ppantip.com/topic/30159853
บทที่ 2
http://ppantip.com/topic/30189406
บทที่ 3
http://ppantip.com/topic/30218583
บทที่ 4
http://ppantip.com/topic/30295292
บทที่ 5
http://ppantip.com/topic/30320658
บทที่ 6
http://ppantip.com/topic/30352517
บทที่ 7
http://ppantip.com/topic/30375049
บทที่ 8
http://ppantip.com/topic/30428212
บทที่ 9
http://ppantip.com/topic/30451112
บทที่ 10
สุธีราพนมมือไหว้ลาคนที่ตื่นแต่เช้า แล้วขับรถมาส่งถึงที่ทำงาน
“เย็นนี้จะมารับ”
เสียงห้าวบอกนุ่มๆ ดวงตาฉายแววร้ายกาจจนคนมองใจไหวสะท้าน
ถึงจะจัดเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องเรียบร้อย แต่สุธีรายังไปค้างที่บ้านคุณป้าทุกคืน จนเช้านี้ที่ปุณยนนท์ปลุกให้ตื่นเร็วกว่าปกติเพื่อที่เขาจะได้มาส่งเธอทำงานก่อน หากเย็นนี้...
“เอ่อคุณนนท์คะ”
“เลิกงานกี่โมง ห้าโมงใช่ไหม เดี๋ยวจะมารับ”
ปุณยนนท์ชะโงกมองเจ้าพ่อที่กอดอกยืนรออยู่ด้านใน ท่าทางยืนจังก้าท้าทายอย่างนั้น คงไม่ใช่ใครอื่น
“เอ่อ”
มองหน้าปุณยนนท์แล้วสุธีราก็พูดไม่ออก หากไม่รอ หรือไม่ยอมไปมีหวังเกิดเรื่องเกิดราวอย่างเย็นวันพฤหัสอีกแน่ๆ แล้ววันนี้เรื่องคงไม่จบอย่างวันนั้นในเมื่อการินอยู่
“ค่ะ”
หญิงสาวรับปากเสียงเบาก้าวลงจากรถ ทำหน้าบอกไม่ถูกกับสีหน้าของยาม และเพื่อนร่วมงานขณะที่เดินไปรูดบัตร โดยเฉพาะคนที่ยืนกอดอกพิงอยู่หน้าห้องทำงาน
“มาทำงานแล้ว”
“ค่ะ” สุธีราก้มหน้าหลังจากพนมมือไหว้เฮียดัง
การินมองหญิงสาวที่ก้มหน้านิ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ควรจะถามไหม หากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่ควร แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ
“ไม่มาทำงานไปไหนมาหรือ”
สุธีราอึกอัก หากก็เลือกตอบประเด็นใหญ่ๆ
“คุณนนท์พาไปพบคุณป้าค่ะ คุณแม่คุณนนท์เป็นป้าของหลิน”
“อ้าว”
สีหน้าของเฮียดังทำให้ลูกน้องที่เริ่มคุ้นเคยกับนิสัยใจคอต้องรีบอธิบาย
“คุณป้าเป็นพี่สาวของพ่อเลี้ยงหลินน่ะค่ะ ท่านกรุณารับหลินมาเลี้ยงตอนที่แม่หลินเสีย”
การินพยักหน้ารับรู้ แต่คิ้วเข้มยังขมวดมุ่น เพื่อตอบแทนบุญคุณหรือถึงต้องยอม ให้อมพระมาพูดว่าไม่มีอะไรกับคุณชายปุณยนนท์ คนอย่างการินที่ถึงจะไม่เห็นกับตาแต่ฟังจากเหตุการณ์มาเอาตัวสาวไป หากไม่มีอะไรในใจ ชายหนุ่มคงไม่มุ่งมั่นขนาดนั้น
“ถ้าไม่มีอะไรก็ดี อย่าลืมไปเขียนใบลามาล่ะ”
“ค่ะ” สุธีราไหว้ขอบคุณอีกครั้งก่อนหลบเข้าห้องไปสะสางงานช่วงที่เธอหยุดไป เมื่อการินยังยืนเป็นยักษ์เฝ้าประตู นายช่างหนุ่มๆ ที่จะมาถามข่าวเลขาสาวก็ได้แต่เลี่ยงหลบไปพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ
การินเงยหน้ามามองนายช่างอีกคนที่ยิ้มแหยให้ก่อนรีบเดินผ่าน นายช่างใหญ่ตวัดตามองเข้าไปในห้อง มุมปากขยับยิ้ม เพิ่งจะรู้นะนี่ว่ามีเลขาเสน่ห์แรงเหมือนกัน
เมื่อสุธีราขยับแยกตั้งเอกสารเสร็จ เห็นว่ายังมีเวลาเหลือก่อนเข้างานเลยไปขอใบลาที่ฝ่ายบุคคล ตอนไปเห็นเฮียดังยืนพิงฝาห้องก็ไม่คิดอะไร ขากลับเข้ามายังเห็นเฮียดังยืนอยู่เหมือนเดิม อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้เหมือนเธอเป็นเด็กเกเรที่โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองตามคุมความประพฤติ หญิงสาวรีบเขียนใบลาก่อนเอาไปยื่นให้หัวหน้างาน
“หือ” การินรับใบลามามองก่อนตวัดสายตากวาดมองบรรดาช่างที่ต่างหลบวูบวาบ ก่อนก้าวเข้าไปในห้อง “เอาลาอะไร ลากิจไปทำอะไรล่ะ”
สุธีราหน้าร้อนบอกได้ยังไงว่าลาไปแต่งงาน การินมองหน้าแดงของเลขาสาวแล้วก็เลยไม่ซักต่อ เซ็นชื่อส่งใบลาคืนให้
สุธีราทำตัวไม่ถูกทั้งวันเมื่อตอนกลางวันที่ไปกินข้าวกับอี๊ทิก็โดนฝ่ายนั้นมองอย่างสำรวจตรวจตรา แล้วยิ่งตอนเย็นที่ปุณยนนท์เอารถมาจอดรอรับด้วยแล้ว
“พี่นนท์เอารถมาทำหรือ” การินเดินออกไปทักทายคนที่เข้ามาอ่านหนังสือรอ
“มารับภรรยาครับ” ปุณยนนท์ตอบพร้อมรอยยิ้มที่ขยายกว้างเมื่อเห็นการินชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มยื่นมือมาจับแสดงความยินดีด้วย
“ดีใจด้วยพี่นนท์ แล้วแต่งเมื่อไรล่ะ”
“วันศุกร์ครับ ถือวันให้มีความสุข”
การินกะพริบตาอีกจังหวะอย่างตั้งตัวไม่ติด
“เอ ใครแล้วไม่...”
“มาแล้ว” ปุณยนนท์รอให้สุธีราเดินมาใกล้ก็รวบเอวมายืนข้างตัว “ขอตัวกลับก่อนนะครับ เฮียดัง”
สุธีราทำได้แค่พนมมือไหว้ ก่อนจะโดนคนข้างตัวลากออกมา ปุณยนนท์กวาดตามองไปรอบๆ เห็นพนักงานจับกลุ่มเดินออกไปด้วยกัน สิ่งที่สะดุดตาคือชุดที่คล้ายคลึงกัน เมื่อวันที่มาเอาตัวสุธีราไป เขาไม่ได้พบพนักงานหญิงคนอื่นๆ เจอแต่ผู้ชายล้วนๆ อาจจะมียกเว้นทิชากร แต่รายนั้นไม่ได้ใส่เครื่องแบบ ก่อนหันมาทางหญิงสาวข้างกาย
“แต่งเครื่องแบบหรือ”
“ค่ะ” สุธีราก้มลงมองตัวเองขณะตอบ ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร
“งั้นหอพักอยู่ที่ไหน”
“ด้านหลังค่ะ” สุธีราตอบก่อนจะทันคิดอะไร ก็รีบเกาะเบาะแน่นเมื่ออีกฝ่ายเลี้ยวรถกลับกะทันหัน
ปุณยนนท์จอดรถลงหน้าหอพักของบรรดาพนักงานที่บ้างก็ทยอยเดินกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปหาอะไรกินข้างนอก บ้างก็เตรียมตัวพักเพื่อทำงานในวันรุ่งขึ้น
“ไปเอาเสื้อผ้ามาไป คนนอกเข้าไปได้ไหม” ปุณยนนท์ถามอย่างไม่ไว้ใจเมื่อเห็นลักษณะเหมือนจะเป็นหอรวมเสียมากกว่า
“ไม่ได้ค่ะ” สุธีราตอบ ถึงลักษณะจะคล้ายอาคารที่อยู่รวมกัน แต่จริงๆ แล้ว แยกชั้นกันเอาไว้อย่างชัดเจน จากบันไดทางขึ้น
You are mine. ตอนที่ 10
บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/30159853
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/30189406
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/30218583
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/30295292
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/30320658
บทที่ 6 http://ppantip.com/topic/30352517
บทที่ 7 http://ppantip.com/topic/30375049
บทที่ 8 http://ppantip.com/topic/30428212
บทที่ 9 http://ppantip.com/topic/30451112
บทที่ 10
สุธีราพนมมือไหว้ลาคนที่ตื่นแต่เช้า แล้วขับรถมาส่งถึงที่ทำงาน
“เย็นนี้จะมารับ”
เสียงห้าวบอกนุ่มๆ ดวงตาฉายแววร้ายกาจจนคนมองใจไหวสะท้าน
ถึงจะจัดเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องเรียบร้อย แต่สุธีรายังไปค้างที่บ้านคุณป้าทุกคืน จนเช้านี้ที่ปุณยนนท์ปลุกให้ตื่นเร็วกว่าปกติเพื่อที่เขาจะได้มาส่งเธอทำงานก่อน หากเย็นนี้...
“เอ่อคุณนนท์คะ”
“เลิกงานกี่โมง ห้าโมงใช่ไหม เดี๋ยวจะมารับ”
ปุณยนนท์ชะโงกมองเจ้าพ่อที่กอดอกยืนรออยู่ด้านใน ท่าทางยืนจังก้าท้าทายอย่างนั้น คงไม่ใช่ใครอื่น
“เอ่อ”
มองหน้าปุณยนนท์แล้วสุธีราก็พูดไม่ออก หากไม่รอ หรือไม่ยอมไปมีหวังเกิดเรื่องเกิดราวอย่างเย็นวันพฤหัสอีกแน่ๆ แล้ววันนี้เรื่องคงไม่จบอย่างวันนั้นในเมื่อการินอยู่
“ค่ะ”
หญิงสาวรับปากเสียงเบาก้าวลงจากรถ ทำหน้าบอกไม่ถูกกับสีหน้าของยาม และเพื่อนร่วมงานขณะที่เดินไปรูดบัตร โดยเฉพาะคนที่ยืนกอดอกพิงอยู่หน้าห้องทำงาน
“มาทำงานแล้ว”
“ค่ะ” สุธีราก้มหน้าหลังจากพนมมือไหว้เฮียดัง
การินมองหญิงสาวที่ก้มหน้านิ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ควรจะถามไหม หากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่ควร แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ
“ไม่มาทำงานไปไหนมาหรือ”
สุธีราอึกอัก หากก็เลือกตอบประเด็นใหญ่ๆ
“คุณนนท์พาไปพบคุณป้าค่ะ คุณแม่คุณนนท์เป็นป้าของหลิน”
“อ้าว”
สีหน้าของเฮียดังทำให้ลูกน้องที่เริ่มคุ้นเคยกับนิสัยใจคอต้องรีบอธิบาย
“คุณป้าเป็นพี่สาวของพ่อเลี้ยงหลินน่ะค่ะ ท่านกรุณารับหลินมาเลี้ยงตอนที่แม่หลินเสีย”
การินพยักหน้ารับรู้ แต่คิ้วเข้มยังขมวดมุ่น เพื่อตอบแทนบุญคุณหรือถึงต้องยอม ให้อมพระมาพูดว่าไม่มีอะไรกับคุณชายปุณยนนท์ คนอย่างการินที่ถึงจะไม่เห็นกับตาแต่ฟังจากเหตุการณ์มาเอาตัวสาวไป หากไม่มีอะไรในใจ ชายหนุ่มคงไม่มุ่งมั่นขนาดนั้น
“ถ้าไม่มีอะไรก็ดี อย่าลืมไปเขียนใบลามาล่ะ”
“ค่ะ” สุธีราไหว้ขอบคุณอีกครั้งก่อนหลบเข้าห้องไปสะสางงานช่วงที่เธอหยุดไป เมื่อการินยังยืนเป็นยักษ์เฝ้าประตู นายช่างหนุ่มๆ ที่จะมาถามข่าวเลขาสาวก็ได้แต่เลี่ยงหลบไปพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ
การินเงยหน้ามามองนายช่างอีกคนที่ยิ้มแหยให้ก่อนรีบเดินผ่าน นายช่างใหญ่ตวัดตามองเข้าไปในห้อง มุมปากขยับยิ้ม เพิ่งจะรู้นะนี่ว่ามีเลขาเสน่ห์แรงเหมือนกัน
เมื่อสุธีราขยับแยกตั้งเอกสารเสร็จ เห็นว่ายังมีเวลาเหลือก่อนเข้างานเลยไปขอใบลาที่ฝ่ายบุคคล ตอนไปเห็นเฮียดังยืนพิงฝาห้องก็ไม่คิดอะไร ขากลับเข้ามายังเห็นเฮียดังยืนอยู่เหมือนเดิม อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้เหมือนเธอเป็นเด็กเกเรที่โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองตามคุมความประพฤติ หญิงสาวรีบเขียนใบลาก่อนเอาไปยื่นให้หัวหน้างาน
“หือ” การินรับใบลามามองก่อนตวัดสายตากวาดมองบรรดาช่างที่ต่างหลบวูบวาบ ก่อนก้าวเข้าไปในห้อง “เอาลาอะไร ลากิจไปทำอะไรล่ะ”
สุธีราหน้าร้อนบอกได้ยังไงว่าลาไปแต่งงาน การินมองหน้าแดงของเลขาสาวแล้วก็เลยไม่ซักต่อ เซ็นชื่อส่งใบลาคืนให้
สุธีราทำตัวไม่ถูกทั้งวันเมื่อตอนกลางวันที่ไปกินข้าวกับอี๊ทิก็โดนฝ่ายนั้นมองอย่างสำรวจตรวจตรา แล้วยิ่งตอนเย็นที่ปุณยนนท์เอารถมาจอดรอรับด้วยแล้ว
“พี่นนท์เอารถมาทำหรือ” การินเดินออกไปทักทายคนที่เข้ามาอ่านหนังสือรอ
“มารับภรรยาครับ” ปุณยนนท์ตอบพร้อมรอยยิ้มที่ขยายกว้างเมื่อเห็นการินชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มยื่นมือมาจับแสดงความยินดีด้วย
“ดีใจด้วยพี่นนท์ แล้วแต่งเมื่อไรล่ะ”
“วันศุกร์ครับ ถือวันให้มีความสุข”
การินกะพริบตาอีกจังหวะอย่างตั้งตัวไม่ติด
“เอ ใครแล้วไม่...”
“มาแล้ว” ปุณยนนท์รอให้สุธีราเดินมาใกล้ก็รวบเอวมายืนข้างตัว “ขอตัวกลับก่อนนะครับ เฮียดัง”
สุธีราทำได้แค่พนมมือไหว้ ก่อนจะโดนคนข้างตัวลากออกมา ปุณยนนท์กวาดตามองไปรอบๆ เห็นพนักงานจับกลุ่มเดินออกไปด้วยกัน สิ่งที่สะดุดตาคือชุดที่คล้ายคลึงกัน เมื่อวันที่มาเอาตัวสุธีราไป เขาไม่ได้พบพนักงานหญิงคนอื่นๆ เจอแต่ผู้ชายล้วนๆ อาจจะมียกเว้นทิชากร แต่รายนั้นไม่ได้ใส่เครื่องแบบ ก่อนหันมาทางหญิงสาวข้างกาย
“แต่งเครื่องแบบหรือ”
“ค่ะ” สุธีราก้มลงมองตัวเองขณะตอบ ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร
“งั้นหอพักอยู่ที่ไหน”
“ด้านหลังค่ะ” สุธีราตอบก่อนจะทันคิดอะไร ก็รีบเกาะเบาะแน่นเมื่ออีกฝ่ายเลี้ยวรถกลับกะทันหัน
ปุณยนนท์จอดรถลงหน้าหอพักของบรรดาพนักงานที่บ้างก็ทยอยเดินกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปหาอะไรกินข้างนอก บ้างก็เตรียมตัวพักเพื่อทำงานในวันรุ่งขึ้น
“ไปเอาเสื้อผ้ามาไป คนนอกเข้าไปได้ไหม” ปุณยนนท์ถามอย่างไม่ไว้ใจเมื่อเห็นลักษณะเหมือนจะเป็นหอรวมเสียมากกว่า
“ไม่ได้ค่ะ” สุธีราตอบ ถึงลักษณะจะคล้ายอาคารที่อยู่รวมกัน แต่จริงๆ แล้ว แยกชั้นกันเอาไว้อย่างชัดเจน จากบันไดทางขึ้น