ตัวหนังผมไม่ขอพูดอะไรมากเพราะทำได้สุดยอดมากจริงๆ ภาคนี้มีการเชื่อมต่อกับภาคเก่าอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
ส่วนกระทู้นี้ผมจะขอเล่าถึงความสงสัยของหลายคนถึงความเป็นมาของ2ตัวละครหน้าใหม่ (แต่ไม่ใหม่สำหรับซีรี่ย์Star Trek)+ความเชื่อต่อหลายๆอย่างที่อาขขะโดนมองข้ามไป เพราะโดนความหล่อของพี่Benedict Cumberbatchบังตา (อิจฉา แต่ไม่เป็นไร พี่Kirkเราจัดการไปหลายดอกให้ละ555+)
ตลอดที่ผมทราบข่าวเรื่องภาคต่อหลังจากการรีบูทครั้งใหญ่ใน2009 ผมก็เริ่มตะหงิดๆตัวอย่างภาคต่อของหนังเรื่องนี้
เพราะจริงๆผมเห็นภาคต่อทำออกมามันค่อนข้างหลุดคอนเซ็ปของStar Trekเดิมที่ต้องเป็นการค้นหาสิ่งใหม่ๆ จากตัวอย่างหนังมันแทบจะกลายเป็นหนังบู๊ล้างผลาญธรรมดาไปซะแล้ว
พอดูได้ดูหนังจริงๆ แรกๆยังเริ่มติดใจว่า หนังสำรวจอวกาศกลายเป็นหนังตำรวจอวกาศไปซะแล้ว แต่ภาคนี้กลับมีการเชื่อมต่อกลับStar Trekภาคเก่าอย่างเหลือเชื่อ
ตัวละครแรก John Harrison (Benedict Cumberbatch)
ตัวร้ายโนเนม (โนเนมจริงๆเพราะในตัวอย่างเล่นไม่บอกชื่อพี่แกเลย) มาพร้อมกับความเก่งกาจของเขาที่หล่อกระชากใจสาวๆเฉลิมไทย
มาภาคนี้พร้อมกับความหนุ่ม เพรียบพร้อมไปด้วยพลังดั่งSuperman บู๊แบบRamboหรือChuck Norrisก็ไม่ปาน
ในภาคดังเดิมเขาคือคู่ปรับของKirkที่โหดร้ายที่สุด เก่งกาจที่สุด ถ้าเทียบกับซีรี่ย์อื่นคงเป็นเหมือน BatmanเจอJoker+BaneหรือSupermanเจอDarkside+Lex Luther
เขาสามารถวางแผนต้อนกับตันKirkให้จนมุมได้หลายครั้งหลายครา และครั้งสุดท้ายนั่นเขาสามารถ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำความเสียหายยานEnterpriseอย่างหนัก จนSpockเสียสละตัวเองเพื่อให้คนอื่นรอดตามตรรกะของเขา "The need of the many outweight the need of a few or one"
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผกก.ถึงได้ใส่พลังเลือดฟินิกให้พี่เขา ชุบชีวิตหรือรักษาใครก็ได้หลายขาดยิ่งกว่ายารักษาโรคใดๆเสียอีก จริงๆแล้วตามความคิดผมผกก.แกอาจจะต้องการเชื่อมความสามารถนี้กับภาคเก่าStar Trek IIก็เป็นได้
ในภาค2ของดั้งเดิมนั้น Khanต้องการขโมยโปรเจ็คของStar Fleetที่ชื่อว่าProject Genesis โครงการนี้เป็นโครงการที่ให้งบนักวิทยาศาสตร์ทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตจาก0 เหมือนกับที่พระเจ้าสร้างโลกใน6วัน แต่เราสามารถทำได้ใน6นาที (คำพูดนี้Dr. McCoyพูดไว้ ตัวดร.เองแกเป็นคนเชื่อในศาสนามาก ซึ่งเป็นเรื่องแปลกในยุคอวกาศ)
หัวหน้าทดลองก็ไม่ใช่ใครคนไกลที่ไหนครับ Dr. Markusสาวสวยในชุดชั้นในอ่อยกับตันของเรานั่นเอง โดยตัวโปรเจ็คนี้สามารถเอาไปใช้ทางอื่นได้นอกจากการ"สร้าง" ถ้ายิงใส่ดาวที่มีสิ่งมาชีวิตหรือชั้นบรรยากาศอยู่แล้ว มันจะทำลายระบบนิเวศน์นั้นแล้วค่อยสร้างขึ้นใหม่ เหมือนความว่า มันง่ายที่จะทำลายแล้วค่อยสร้างขึ้นใหม่นี่เอง
เริ่มเห็นความเชื่อมโยงกันรึยังครับกับความสามารถพี่Benedict CumberbatchเรากับโครงการGenesisที่สามารถสร้าง(ในกรณีนี้คือรักษา)อะไรจาก0ได้
ตัวละครที่สอง Dr. Carrol Markus (Alice Eve)
http://www.cinemablend.com/images/news/37224/_1367190121.jpg
ในภาคนี้เธอคือนักวิทยาศาสตร์การทหาร แต่ถ้าเป็นภาคดั้งเดิม เธอคือนักวิทยาศาสตร์ผู้รักสันติ เธอต้องการที่จะใช้Genesisสร้างดาวร้างให้เป็นดาวที่สิ่งมีชีวิตสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ โดยไม่รู้ถึงภัยของสิ่งที่เธอสร้างว่ามันสามารถเอาไปใช้ในด้านการทหารได้เช่นกัน
บทของเธอไม่ค่อยจะมีให้เด่นสักเท่าไรนอกจากฉากFan Serviceที่มีมาตั้งแต่ภาคที่แล้ว จนหลายคนสงสัยว่าจะใส่ตัวละครนี้มาทำไม บทแทบจะไม่เด่นเลยเป็นตัวประกอบประจำภาคชัดๆ
http://cdn-media.hollywood.com/images/638x425/1788079.jpg
ฉากกระชากใจชายหลายๆคน
แม่ยกแม่จิ้นหลายๆคนอาจจะใจสลายถ้าได้อ่านกระทู้นี้ เธออาจจะมีบทหลังจากนี้ในภาคต่อๆไปเพราะจริงๆแล้วเธอคือ ภรรยาของกับตันKirkนั่นเอง!!
[Spoiledถี่ยิบ] Star Trek Into the Darkness จากใจแฟนTrekkersที่ไม่ใช่Trekkies เปิดเผยตัวละคร2ตัวในเรื่อง
ส่วนกระทู้นี้ผมจะขอเล่าถึงความสงสัยของหลายคนถึงความเป็นมาของ2ตัวละครหน้าใหม่ (แต่ไม่ใหม่สำหรับซีรี่ย์Star Trek)+ความเชื่อต่อหลายๆอย่างที่อาขขะโดนมองข้ามไป เพราะโดนความหล่อของพี่Benedict Cumberbatchบังตา (อิจฉา แต่ไม่เป็นไร พี่Kirkเราจัดการไปหลายดอกให้ละ555+)
ตลอดที่ผมทราบข่าวเรื่องภาคต่อหลังจากการรีบูทครั้งใหญ่ใน2009 ผมก็เริ่มตะหงิดๆตัวอย่างภาคต่อของหนังเรื่องนี้
เพราะจริงๆผมเห็นภาคต่อทำออกมามันค่อนข้างหลุดคอนเซ็ปของStar Trekเดิมที่ต้องเป็นการค้นหาสิ่งใหม่ๆ จากตัวอย่างหนังมันแทบจะกลายเป็นหนังบู๊ล้างผลาญธรรมดาไปซะแล้ว
พอดูได้ดูหนังจริงๆ แรกๆยังเริ่มติดใจว่า หนังสำรวจอวกาศกลายเป็นหนังตำรวจอวกาศไปซะแล้ว แต่ภาคนี้กลับมีการเชื่อมต่อกลับStar Trekภาคเก่าอย่างเหลือเชื่อ
ตัวละครแรก John Harrison (Benedict Cumberbatch)
ตัวร้ายโนเนม (โนเนมจริงๆเพราะในตัวอย่างเล่นไม่บอกชื่อพี่แกเลย) มาพร้อมกับความเก่งกาจของเขาที่หล่อกระชากใจสาวๆเฉลิมไทย
มาภาคนี้พร้อมกับความหนุ่ม เพรียบพร้อมไปด้วยพลังดั่งSuperman บู๊แบบRamboหรือChuck Norrisก็ไม่ปาน
ในภาคดังเดิมเขาคือคู่ปรับของKirkที่โหดร้ายที่สุด เก่งกาจที่สุด ถ้าเทียบกับซีรี่ย์อื่นคงเป็นเหมือน BatmanเจอJoker+BaneหรือSupermanเจอDarkside+Lex Luther
เขาสามารถวางแผนต้อนกับตันKirkให้จนมุมได้หลายครั้งหลายครา และครั้งสุดท้ายนั่นเขาสามารถ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผกก.ถึงได้ใส่พลังเลือดฟินิกให้พี่เขา ชุบชีวิตหรือรักษาใครก็ได้หลายขาดยิ่งกว่ายารักษาโรคใดๆเสียอีก จริงๆแล้วตามความคิดผมผกก.แกอาจจะต้องการเชื่อมความสามารถนี้กับภาคเก่าStar Trek IIก็เป็นได้
ในภาค2ของดั้งเดิมนั้น Khanต้องการขโมยโปรเจ็คของStar Fleetที่ชื่อว่าProject Genesis โครงการนี้เป็นโครงการที่ให้งบนักวิทยาศาสตร์ทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตจาก0 เหมือนกับที่พระเจ้าสร้างโลกใน6วัน แต่เราสามารถทำได้ใน6นาที (คำพูดนี้Dr. McCoyพูดไว้ ตัวดร.เองแกเป็นคนเชื่อในศาสนามาก ซึ่งเป็นเรื่องแปลกในยุคอวกาศ)
หัวหน้าทดลองก็ไม่ใช่ใครคนไกลที่ไหนครับ Dr. Markusสาวสวยในชุดชั้นในอ่อยกับตันของเรานั่นเอง โดยตัวโปรเจ็คนี้สามารถเอาไปใช้ทางอื่นได้นอกจากการ"สร้าง" ถ้ายิงใส่ดาวที่มีสิ่งมาชีวิตหรือชั้นบรรยากาศอยู่แล้ว มันจะทำลายระบบนิเวศน์นั้นแล้วค่อยสร้างขึ้นใหม่ เหมือนความว่า มันง่ายที่จะทำลายแล้วค่อยสร้างขึ้นใหม่นี่เอง
เริ่มเห็นความเชื่อมโยงกันรึยังครับกับความสามารถพี่Benedict CumberbatchเรากับโครงการGenesisที่สามารถสร้าง(ในกรณีนี้คือรักษา)อะไรจาก0ได้
ตัวละครที่สอง Dr. Carrol Markus (Alice Eve)
http://www.cinemablend.com/images/news/37224/_1367190121.jpg
ในภาคนี้เธอคือนักวิทยาศาสตร์การทหาร แต่ถ้าเป็นภาคดั้งเดิม เธอคือนักวิทยาศาสตร์ผู้รักสันติ เธอต้องการที่จะใช้Genesisสร้างดาวร้างให้เป็นดาวที่สิ่งมีชีวิตสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ โดยไม่รู้ถึงภัยของสิ่งที่เธอสร้างว่ามันสามารถเอาไปใช้ในด้านการทหารได้เช่นกัน
บทของเธอไม่ค่อยจะมีให้เด่นสักเท่าไรนอกจากฉากFan Serviceที่มีมาตั้งแต่ภาคที่แล้ว จนหลายคนสงสัยว่าจะใส่ตัวละครนี้มาทำไม บทแทบจะไม่เด่นเลยเป็นตัวประกอบประจำภาคชัดๆ
http://cdn-media.hollywood.com/images/638x425/1788079.jpg
ฉากกระชากใจชายหลายๆคน
แม่ยกแม่จิ้นหลายๆคนอาจจะใจสลายถ้าได้อ่านกระทู้นี้ เธออาจจะมีบทหลังจากนี้ในภาคต่อๆไปเพราะจริงๆแล้วเธอคือ ภรรยาของกับตันKirkนั่นเอง!!