(ไม่เชิงคำถาม) แค่อยากบอกความประทับใจเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่สถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น

เพิ่งสมัครพันทิปได้ไม่กี่นาทีมานี่เอง ... เพราะอยากตั้งกระทู้ เหมือนคนอื่น คิคิ

อยากบอกเล่าเรื่องราวประทับใจสมัยมัธยม และ เผื่อบางทีจะมีใครที่ตามหา จะเข้ามาอ่านบ้าง
คือว่า ในช่วง ม.6 ซึ่งเด็กเตรียมแอดหรือโควต้า ก็ต่างมุ่งหาที่เรียน ที่ตัวเองต้องการ
และหนึ่งในนั้น ก็ฉันเอง เด็กที่สับสนตัวเองว่าต้องการคณะไหนกันแน่ ทั้งที่เวลาเหลือไม่มากแล้ว ยังวิ่งหาสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่

จะขอเล่าเรื่องตัวเองก่อน
คือว่า เป็นคนเรียนในระดับปานกลาง ที่ได้เกรดสามอัพตลอด ที่ไม่ได้เก่งระดับอัจฉริยะ และในช่วง ม.ปลาย ก็ตัดสินใจเรียนสายวิทย์
ซึ่งเพราะความฝันที่อยากเป็นฑันตแพทย์ (ฝันสูงมว๊ากกก) ซึ่งในช่วงชีวิตวัยเด็กชอบศิลปะมาก ชอบการวาดรูป เป็นตัวแทนประกวดวาดรูปหรือด้านที่เกี่ยวกับศิลปะมาตลอด จนกระทั้งมาถึงช่วงที่ต้องตัดสินใจเลือกทางเดินต่อ นั่นคือ ม.6 ด้วยความฝันฑันตะ และความชอบศิลปะ
เลยทำให้เกิดความสับสนในตัวเอง แต่ในขณะนั้น ด้วยเกรดเฉลี่ยและปริมาณความรู้ที่มี รู้สึกว่าความฝันไกลเหลือเกิน เพราะคะแนนฑันตะสูงมาก ทำให้รู้สึกว่าคงไม่สามารถไปถึงฝันแล้ว แต่ก็ยังหาโอกาสต่างๆ เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการสมัครโควต้าฑันตะ ในหลายๆ มหาลัย
เพราะคิดว่าอย่างน้อยถือว่าได้ให้โอกาสตัวเองแล้ว หากผิดหวังยังไง ค่อยตัดสินใจเลือกทางเดินรอบแอดมิดชัน

ดังนั้น จึงต้องหาคณะสำรอง ในขณะนั้นตัวเลือกเยอะมาก แน่นอนว่าสถาปัตย์ คือคณะที่อยู่ในใจ แต่การที่เรียนสายวิทย์เลยทำให้เกิดความสับสน เพราะดันแอบเผลอมีใจให้กับวิชาเคมีด้วย และสนใจวิทยาศาสตร์ด้านอื่นๆ อีก (ในขณะนั้น) จึงต้องหักดิบเลือกเอาสายใดสายหนึ่งว่า ตัวเองจะเดินทางวิทย์หรือศิลป์ ด้วยตัวเองไม่เคยเรียนเขียนแบบ หรือด้านศิลป์เลย เป็นแค่ความชอบส่วนตัว เลยติดสินใจว่าจะเรียนต่อด้านวิทย์ และตัดสินใจไม่สอบความถนัดสถาปัตย์ ทั้งที่เพื่อนต่างก็แนะว่าไม่สอบเผื่อไว้เหรอ เผื่อจะเปลี่ยนใจมาทีหลัง (เพราะวิชาความถนัด จะเปิดสอบครั้งเดียวทั่วประเทศ และใช้คะแนนในการแอดมิชชันด้วย ในตอนนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้มีการคิดคะแนนยังไง)

ต่อมา รู้สึกเสียดายที่ตัวเองไม่สมัครความถนัดสถาปัตย์ (คิดไว้แล้วว่าเหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้น)
ได้แต่คิดเสียดาย อยู่เนืองๆ ........และแล้วก็เหมือนโอกาสวิ่งมาอีกรอบ เมื่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น เปิดรับสมัครนักศึกษา
เข้าศึกษาด้วยโควต้า ที่ให้ทุนการศึกษาด้วย ชื่อทุนช้างเผือก ซึ่งระบุไว้ว่า ไม่เอาคะแนนความถนัดสถาปัตย์ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น คัดเลือกจากการสอบในคณะเท่านั้น ว้าวๆๆๆ ...โอกาสแบบนี้ พลาดได้ไง ไม่รอช้า ไม่คิดด้วย สมัครเลย ยิ้มยิ้มยิ้ม

มาถึงวันกำหนดสอบ ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ขอนแก่น
ฉันตื่นเต้นมาก เตรียมอุปกรณ์สำหรับสอบ ไม่รู้ข้อสอบเป็นแบบไหน แต่ก็จะพยายามเต็มที่ ..เป็นความรู้สึกที่บอกกับตัวเอง
พี่ที่รู้จักมาส่งฉันที่คณะแต่เช้า ประมาณ เจ็ดโมงกว่าๆ ถ้าจำไม่ผิด...ก่อนเวลาสอบ  ประมาณสองชั่วโมง เพราะพี่ต้องไปทำงาน
เวลาสอบน่าจะประมาณเก้าโมงเช้า

ที่คณะ รู้สึกว่ามีแต่พี่พนักงานจัดสอบ ยังไม่เห็นเด็ก นร. เลย ฉันเลยเดินหาห้องสอบ ดูสถานที่ไปเรื่อยๆ ฆ่าเวลา จนมาถึงหน้าห้องสอบ
เอ๊ะ!! รู้สึกว่าตัวเองมาเป็นคนแรก เงียบมาก อาคารก็แลดูมีอายุ อยู่คนเดียวด้วยสิ อืมๆๆ ยืนมองวิวไปข้างนอกล่ะกัน (ไม่รู้จะเดินไปไหนแล้ว)
มาคนเดียว ต่างสถานที่แบบนี้ ไม่ชินเลย ทำไรไม่ถูก แงๆๆๆ """"""""เฮ้ย!!! เอ๊ะ นั่นใคร น่ะ เค้ายืนอยู่คนเดียว ด้านตรงข้ามฉัน
นึกว่าตัวเองมาคนแรก ที่จริงมีคนมาก่อนเราเหรอเนี่ย เป็นเด็ก นร.ผู้ชาย เหมือนจะมาคนเดียวด้วยสิ (นร.ชาย คนนั้นยืนห่างจากฉันประมาณสิบห้าเมตร ตรงทางเดินที่มีที่นั่ง มองออกด้านนอกอาคาร) แล้วฉันก็เหม่อมองไปเรื่อย ใจลอย ได้แต่ภาวนาอยากให้ตัวเองสอบติด ฮ่าๆ อยากเรียนที่นี่ขึ้นมา รู้สึกชอบ อธิบายไม่ถูก อ่ะ...มัวแต่มองไปเรื่อยแล้ว เวลาผ่านไป นร.คนอื่นๆ เริ่มมาแล้ว โอ้โหแต่ละคนเตรียมอุปกรณ์มาเป็นกระเป๋า อลังมาก ฉันล่ะ ซองสีหนึ่งซองกับกระเป๋าดินสอแห้งๆ รู้สึกใจแป้วๆ ขึ้นมา ....อืม อืม นร.ชาย 15 เมตร คนนั้นก็เดินแถวๆ ที่ฉันยืน สงสัยเห็นคนเริ่มเยอะ คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกันล่ะสิ ยิ้ม) เอ๊ะ เหมือนจะเดินมาหาฉัน "หวัดดี" นั่นไง เค้าทักทายฉัน

หลังจากนั้น นั้นเหรอ ฉันก็ทักตอบน่ะสิ ฮ่าๆๆ ฉันจำไม่ได้หรอกว่า ต่อไปจากคำว่า "หวัดดี"เราคุยอะไรกัน เพราะฉันจำไม่ได้ มัน 5 ปีมาแล้ว ชื่อคนนั้น ฉันยังจำไม่ได้เลย จำได้แต่ว่าเราคุยกันจนถึงเวลาเข้าก้องสอบ...และจากที่เราคุยกัน ฉันรู้ว่า....
เด็ก นร.คนนั้น เป็นคน จ.น่าน //ชอบศิลปะ ชอบวาดรูป และที่สำคัญเค้าเล่าว่า เคยวาดรูปผนังโบสถ์วัดด้วย (นี่แหละที่ประทับใจ ไม่รู้สิ ขำดี เพราะตอนที่เค้าเล่าให้ฟัง ท่าทางเค้าน่าขำดี รู้สึกจริงใจ ซื่อ) //เค้าอยากเรียนสถาปัตย์ เพราะชอบวาดรูป // แต่ไม่ได้สอบความถนัดสถาปัตย์ (เหมือนฉันเลย) //เค้าติดเข้าค่าย รด. ซึ่งอยู่ในช่วงสมัครสอบ ทำให้ไม่ได้สมัคร // เค้าเดินทางจากน่านมาขอนแก่นเพื่อมาสอบ ซึ่งถึงขอนแก่นในตอนเช้าของวันสอบ // เค้าหาชื่อเค้าไม่เจอในบอร์ดผู้เข้าสอบ ตกใจมาก ซึ่งที่จริงแล้ว ใบสมัครสอบของเค้าเพิ่งมาถึงคณะตะกี้นี่เอง แต่กรรมการก็ให้เค้าสอบ เพราะถือว่าส่งในเวลาที่กำหนด (สงสัย น่าน อยู่ไกลจดหมายเลยมาถึงช้า) // ....สิ่งที่จำได้ในตัว นร. 15 เมตร นั้นมีเพียงเท่านี้ ฉันรู้สึกว่าเราคุยกันสนุกมาก ฉันรู้สึกอยากเป็นเพื่อนเค้า แต่ในตอนนั้นก็ไม่กล้าที่บอกว่าขอเบอร์หน่อย จนเข้าห้องสอบ ได้แต่คิดว่า หลังสอบเสร็จจะขอให้ได้เลย ฉันนั่งแถวแรกด้านหน้าของห้องเลย ส่วนเค้านั่งโต๊ะตัวสุดท้ายมุมสุดของห้อง

ข้อสอบยากไหม ฉันไม่รู้ เพราะฉันไม่รู้เรื่องเลย ไม่เคยเรียนเขียนแบบ ใช้ความรู้สึกจากการชอบวาดรูปตอบคำถามเท่านั้น และในส่วนข้อสอบที่ให้วาดภาพออกแบบบต่างๆ ฉันก็ปล่อยไปตามความคิดฉันตอนนั้น ฉันใช้เวลาทำข้อสอบนานมาก เกือบเป็นคนสุดท้ายของห้อง ตอนออกจากห้องสอบได้แต่คิดว่าขอให้เพื่อน นร.15 เมตร เค้ารอฉัน ....แต่พอฉันออกมา ก็แทบไม่เห็นใครแล้ว เค้าคงทำข้อสอบได้เร็วและออกมาก่อนฉัน คงกลับไปแล้วแหละ ส่วนฉันได้แต่เสียดาย ..น่าจะขอเบอร์ตอนที่เราคุยกัน

จนกระทั่ง ประกาศผลผู้ผ่านการสอบข้อเขียน ปรากฎว่า........ฉันสอบไม่ติดล่ะสิ ก็แน่ละสิ รู้สึกทำข้อสอบไม่มีทฤษฎีเขียนแบบอะไรเลย พูดแล้วก็รู้สึกขำตัวเอง แต่ก็ได้ใช้โอกาส ทำตามสิ่งที่อยากทำ เพราะฉันเองที่พลาด...ฉันดูรายชื่อผู้ที่สอบผ่านเผื่อว่าจะเจอ รายชื่อ นร. 15 เมตร คนน้ัน แต่ ก็ .... ฉันไม่รู้ชื่อจริงของเค้า ว๊าา เลยไม่รู้เลยว่า เค้าจะสอบได้ไหม

ส่วนตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ซึ่งเค้าก็น่าจะเรียนจบแล้ว ตามกำหนดมหาลัยทั่วไป เรียน 4 ปี เลยอยากรู้จังเมื่อปี 51 ใครบ้างนะที่ไปสอบสถาปัตย์ทุนช้างเผือก ม.ขอนแก่น มาช่วยแชร์ความรู้สึกกันหน่อย ว่ามีใครสมหวังบ้าง ส่วนคนที่ผิดหวังเหมือนฉันได้เรียนสถาปัตย์ที่อื่นไหม มาเล่าสู่กันฟังนะ

แค่อยากบอกว่า คิดถึงเพื่อนคนนั้น ที่เคยรู้จัก .. เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไป แม้ว่าเราจะไม่เจอกันเลย
..ยังไงก็ฝากกระทู้เพื่อนๆ ด้วยนะ ...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่