ก่อนอื่นเลยคือ หมู่เกาะซีซา หรือ พาราเซล ที่จีนกำลังมีข้อพิพาทกับเวียดนามครับ

กรณีพิพาทของหมู่เกาะซีซา หรือพาราเซล นั้น จริงๆน่าจะถูกนิยามอย่างง่ายๆ ด้วยสนธิสัญญาสันติภาพระหว่าง ต้าชิง-สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในปี 1887 แล้วครับ
โดยในสนธิสัญญานี้มีใจความที่ระบุชัดเจนว่า "หมู่เกาะในทะเลที่อยู่ทางตะวันออกของเส้นแวงที่ 108 องศา 3 ลิปดา ตะวันออก ถือว่าอยู่ในอำนาจอธิปไตยของต้าชิง ส่วนหมู่เกาะที่อยู่ทางตะวันตกให้ถือว่าเป็นของแคว้นตังเกี๋ย" โดยหมู่เกาะซีซานั้นตั้งอยู่ในเส้นแวงที่  110-113 องศาตะวันออก ครับ จึงเป็นที่แน่ชัดว่า ฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าอาณานิคมของเวียดนามก็ยังถือว่า หมู่เกาะนี้เป็นดินแดนของต้าชิง
แม้เวียดนามจะต่อสู้ว่า เวียดนามเคยครอบครองหรือใช้ประโยชน์ในหมู่เกาะดังกล่าวมาแต่โบราณ หรือหลังตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสก็ตาม แต่ในเมื่อสนธิสัญญาในปี 1887 นั้น ฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าอาณานิคมของเวียดนามได้สละกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะนี้แก่ต้าชิงแล้ว เวียดนามที่ตอนนั้นไม่มีเอกราชหรืออำนาจอธิปไตยในตังเกี๋ย จะยังอ้างสิทธิ์ได้อีกหรือไม่ ?

นอกจากนี้ ในช่วงสงครามโลกที่ญี่ปุ่นเข้าครอบครองเกาะนี้ ทางรัฐบาลวิชชี่อินโดจีน ที่ปกครองเวียดนามก็มิได้ทักท้วงแต่อย่างใด มีเพียงสาธารณรัฐจีนที่ดำเนินการประท้วงไปทางญี่ปุ่น (ที่ตอนนั้นมีภาวะสงครามกันอยู่) และตอนประกาศพอร์ทดัมในปี 1945 ฝรั่งเศสหรืออังกฤษก็มิได้อ้างสิทธิในเกาะนี้แต่อย่างใด รวมไปถึงสนธิสัญญาซานฟรานซิสโกปี 1951  ก็มิได้ระบุว่า ฝรั่งเศสหรืออังกฤษ จะเข้าครอบครองเกาะนี้
มีแต่เพียงฝ่ายรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ปักกิ่ง ที่ออกมาทักท้วงสัญญาซานฟรานซิสโก ที่ต้องการให้ระบุว่าจะมอบอำนาจอธิปไตยของเกาะซีซาและหนานซาให้แก่จีน ในขณะที่เวียดนามกลับเงียบเฉย (เพราะตอนนั้นไม่มีเอกราชหรืออำนาจอธิปไตย)

ทีนี้ ในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่าง สาธารณรัฐจีน-ญี่ปุ่น ปี 1952 นั้น มีการระบุชัดเจนว่า ญี่ปุ่นจะสละอำนาจอธิปไตยเหนือ เกาะไต้หวันและหมู่เกาะบริวาร, เกาะเผิงหู, เกาะซีซา และ เกาะหนานซา ครับ ตรงนี้ยิ่งเป็นการยืนยันแน่ชัดว่า ญี่ปุ่นได้โอนการครอบครองเกาะดังกล่าวแก่สาธารณรัฐจีนแล้ว

ด้วยกฎหมายและหลักฐานต่างๆ ได้ระบุตรงกันว่า จีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะนี้ โดยมีนานาชาติอย่าง ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น ลงนามยอมรับ ผ่านสนธิสัญญาต่างๆนั่นเอง