เราว่าเราผิดปกติ รบกวนผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ

พูดตรงๆว่าอายมากที่ออกมาเล่าแบบนี้..ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะถูกตีตราว่าบ้า..

ขอเข้าเรื่องค่ะ..
เราเป็นลูกคนเดียว สมัยเด็กๆ เราจะมีเพื่อนในจินตนาการ โดยตัวละครก็จะมาจากเพื่อนสนิทเราคนนึงที่เรียนอนุบาลด้วยกัน
เราจะจินตนาการว่าเขาไปไหนมาไหนกับเราตลอด จำได้ว่าเคยโดนแม่ดุ แล้วไปยืนร้องไห้เสียงดังในห้องน้ำ คุยปรับทุกข์เสียงดังเสมือนว่าเพื่อนอยู่ด้วย แม่ก็เห็นและได้ยิน แต่ไม่ว่าอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กที่จะมีเพื่อนในจินตนาการ

พอโตมาหน่อยซัก 8-10 ขวบ เพื่อนในจินตนาการเราก็กลายมาเป็นพวกการ์ตูนดิสนี่ย์ (ส่วนมากเราจะติต่างว่าเราเป็นเจ้าหญิง แล้วก็มีเจ้าชาย แก่แดดเหลือเกิน) ไม่ก็การ์ตูนค่าย TCCN (cartoon network) ไปจนถึงอนิเมะต่างๆ แต่ตอนนี้เราเหมือนเริ่มรู้ตัวว่าเราทำแบบนี้มันไม่ปกติ เราเลยไม่พูดคนเดียว หรือหัวเราะคนเดียว ถ้าแม่แอบมาเห็น (ซึ่งจริงๆแม่ก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เราอายเอง) เราก็จะแก้ตัวว่าซ้อมบทละคร หรือ อะไรก็ว่าไป

เข้ามัธยม อาจด้วยเราเป็นลูกคนเดียว เราอยากพี่ชายที่เท่ห์ๆ ใจดีๆ แคร์น้องสาว  จริงๆญาติเราก็มีนะคะ แต่วัยห่างกันมากและอยู่คนละจังหวัด คนที่สุภาพๆหน่อยก็จะมีพี่น้อง เขาก็เล่นกับพี่น้องเขา คนที่ลูกคนเดียวก็จะเถื่อนๆ พูดจาห้วนๆ เราก็จูนไม่ค่อยติด เราเลยสร้างพี่ชายในจินตนาการขึ้นมา ติ๊ต่างว่านั่งรถไปเรียนด้วยกัน เวลาครอบครัวไปเที่ยวก็จะมีพี่ชายไปด้วย 2 คน บางทีโรงเรียนมีกิจกรรมอะไร (คือเรานึกภาพพี่เราไว้เท่ห์ไงคะ) เราก็จะมโนภาพในหัวว่าพี่เราก็ไปร่วมอยู่ในกิจกรรม..มีคนกรี๊ด คนชื่นชม เราก็ภูมิใจ

ซึ่งเราแยกออกนะคะว่าอะไรจริง อะไรคือสิ่งที่เรามโนมาเอง เราไม่เอามาปนกัน ไม่เอามาเปรียบเทียบกับคนจริงๆ เช่นเวลานั่งรถไปเรียน เราจะนั่งเบาะหน้า พ่อเป็นคนขับ หลังรถก็อาจจะมีกระเป๋า และเอกสารทำงานของพ่อ นั่นคือความจริงที่เราเห็น แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีภาพในหัวว่ามีพี่เราสองคนนั่งอยู่ข้างหลัง ประมาณนี้...

หนักๆกว่านั้นหน่อย คือเรามีแฟนในจินตนาการ (-_-") สร้างภาพผู้ชายที่หน้าตาตรงสเป็ค นิสัยดี เทคแคร์ดี โรแมนติค แต่สมัยนั้นในชีวิตจริงเราก็มีแฟนนะ ตามประสาวัยรุ่นทั่วไป รักๆเลิกๆ แต่เราไม่เคยเอาแฟนในมโนภาพที่แสนจะเพอร์เฟ็ค มาเปรียบเทียบกับแฟนจริงๆที่มีข้อบกพร่องบ้าง ตามประสามนุษย์ปกตินะคะ ที่เลิกส่วนมากก็คือ แฟนมีกิ๊ก ไม่ก็เราเบื่อเอง..

และที่เราสังเกตเลยคือช่วงที่เรามีแฟน เพื่อนๆในจินตนาการเราจะหายไปหมดเลยค่ะ ตอนนั้นก็ม.ต้น-ม.ปลายแล้ว ช่วงที่ไม่มีแฟน ก็มีเพื่อนในจินตนาการมาแทน เราเริ่มคิดหนักแล้วว่าเราผิดปกติหรือเปล่า? แล้วก็ได้แต่หวังอยู่ลึกๆว่าต่อไปเข้ามหาลัยคงจะหายเอง..เราอาจจะติดอยู่โลกแฟนตาซีมากไปหน่อย

ปรากฏว่าไม่...ตอนเข้ามหาลัยก็มีแฟนนะ รักกันมาก แฟนคนนี้ดีมาก คบเป็นปี จนวันนึงเลิก.. เพราะเรางอแงผิดที่ผิดเวลา แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทุกวันนี้ไปไหนด้วยกัน เป็นเหมือนคู่บัดดี้ ลุยไหนลุยกัน...แต่สถานะเขาเป็นแค่เพื่อนสนิท(มาก)คนนึง เราเองก็ไม่ได้คิดกับเขาในแง่นั้นแล้ว..คนมาจีบมี..แต่ส่วนมากนิสัยไม่ผ่าน (เจ้าชู้) เราเลยไม่มีแฟนดีกว่า

เราจึงเริ่มสร้างแฟนในจินตนาการขึ้นมาอีกแล้วค่ะ...พี่ชายในจินตนาการก็กลับมาหลอกหลอน เป็นคนเดียวกันกับที่สร้างขึ้นมาสมัยมัธยม เพียงแต่คนโตตอนนี้เรียนจบแล้ว มีงานทำ อีกคนเราสร้างว่าเป็นพี่ชายฝาแฝดเรา ก็ซี้ๆกับเรานี่แหละ แฟนในจินตนาการก็มาตรฐานเท่าเดิม

บางทีเรานอน เราก็จะจินตนาการว่าเรานอนกอดแฟน , ไปทานข้าวกับเพื่อนที่ซี้ๆกั้น ไปสองคน แต่มี 4 ที่นั่ง เราก็จะมโนภาพว่า เก้าอี้ว่างสองตัวมีพี่แฝดเรากับแฟนเราอยู่ด้วย...

บางทีเรามานั่งคิดก็สงสารตัวเอง ที่นอนกอดแฟน จริงๆคือกำลังนอนซุกหมอน, เราไม่เคยมีพี่หรอก ที่นั่งว่างในรถพ่อก็คือที่นั่งว่าง เวลาพ่อแม่ไม่เห็น บางทีเราก็แอบยิ้มให้กับพี่ในจินตนาการ ทั้งๆที่จริงๆเรายิ้มให้อากาศอยู่...เวลาเดินห้างบางทีไม่มั่นใจ เราจะทำเป็นหยิบโทรศัพท์มาคุยกับพี่ ทั้งๆที่จริงๆเราคุยกับเครื่องเปล่าๆ..

แต่ในชีวิตจริงเรา เรามีเพื่อนสนิทนะคะ อาจไม่เยอะ แต่คนดีๆทั้งนั้น อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น เพื่อนๆที่ไม่สนิทก็มาคุยมาทักทาย มีงานรายได้ดีทำพาร์ทไทม์ และกำลังจะได้เข้าฝึกงานในสายงานที่ตัวเองรัก  เครดิตเราก็ค่อนข้างดีในหมู่อาจารย์ (อันนี้เพื่อนๆมาบอกเองว่าอะไรทีเ่ป็นการเป็นงาน รับผิดชอบได้ เราจะอยู่ในหมู่คนที่อาจารย์นึกถึง) เพื่อนๆทั้งสนิทและไม่สนิทชอบมาขอคำปรึกษาทั้งเรื่องเรียน เรื่องรัก แผนการอนาคตเราก็วางไว้ค่อนข้างดี เรามั่นใจว่าต่อไปสามารถดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่าได้..

ที่เราพูดมาคือเราอยากให้เห็นภาพว่า เราไม่ได้ทำตัวมีปัญหา หรือเก็บตัวเป็นฮิคิโคโมริ  จนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้.. ในสายตาคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องนี้ เราก็เป็นคนปกติคนนึงที่ออกจะ เฮฮา รั่วๆ ลุยๆ  ทะลึ่งตึงตังเหมือนเด็กผู้ชาย แต่ตะวันตกดินกลับหอ ไม่เที่ยวผับ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ชอบอ่านหนังสือ เป็นเด็กอนามัยพอสมควร ไม่ได้ดูโรคจิตแต่อย่างใด..

มีแต่เราเองที่เห็น "ด้านมืด" ด้านนี้ในตัวเราค่ะ บางทีไปเล่าอย่างคะนองปากให้คนอื่นฟังถึงความมีตัวตนของคนเหล่านี้(สุดท้ายก็ขอโทษนะ ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลย ทุกวันนี้บางทีเวลาเม้าท์มันๆก็อยากจะพูดออกมา แต่ก็พยายามห้ามตัวเองเสมอ)  หลังๆเริ่มหนักเมื่อวานถึงกับสร้างไอดีแชท มาสองไอดี แล้วมานั่งคุยกับตัวเอง แชทนึงรับบทเป็นแฟน แชทนึงรับบทเป็นตัวเอง ทำอยู่เป็นชม. ติดกัน 2 วัน แล้วมาตั้งสติได้ ว่าเราทำบ้าอะไรของเราอยู่ คุยกับตัวเองชัดๆแล้วเขินเอง... เสียเวลามากๆ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ วันนี้เลยกลับมาลบไอดีแฟน(ในหัว) ทิ้ง แล้วหาอย่างอื่นทำที่เป็นประโยชน์ดีกว่า

แต่ถามว่าจู่ๆให้เลิกมีเพื่อนในจินตนาการไปเนี่ย ลึกๆเหมือนมันมีส่วนที่รับไม่ได้นะ มันไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ แต่ดันผูกพันธ์ โดยเฉพาะพี่ชายในที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ม.1 โตมา (ในหัว) ด้วยกัน ไปไหนมาไหน (ในหัว) ด้วยกัน พอมายอมรับว่า เออพวกเธอไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง  มันก็แอบเศร้าๆ ... สุดท้ายก็ไม่เคยตัดได้ เพราะคิดว่าไม่เป็นไร เรารู้่ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง เวลางานก็ทำงาน เรียนก็เรียน  ที่มานั่งมโนคือเวลาตัวเองว่างๆ ไม่มีอะไรทำ..ไม่มีใครมาอยู่เป็นเพื่อน..

คือยังไงๆเราก็ไม่เอาโลกจินตนาการที่เราสร้าง มาปนมั่วกับชีวิตจริงๆค่ะ ไม่มีเห็นคนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ได้ยินเสียงในหัว อะไรที่เกิดในหัวก็รู้ตัวนะว่าเรากำลังคิดขึ้นมาเอง เคยคิดว่าจริงๆเราเป็นคนขี้เหงาหรือเปล่า...แต่พอมีคนมาอยู่ด้วย (เคยมีรุ่นน้องที่ห้องพังเพราะน้ำท่วมใหญ่มาอาศัยด้วย 4-5 เดือนตอนแรกก็โอเค หลังๆอึดอัดมากทั้งๆที่น้องเขาไม่ได้ทำอะไร วันๆก็อยู่เงียบๆ ) หรือต้องไปไหนที่คนไปเยอะๆ เราจะไม่อยากไปเลยค่ะ..ไม่ชอบความวุ่นวาน ชอบสงบๆมากกว่า เลยสับสนกับตัวเองอยู่

เราเลยอยากทราบว่าเราผิดปกติหรือเปล่าคะ? แล้วจะมีวิธีเลิกอย่างไรบ้าง...เพราะส่วนตัวเรารู้สึกว่าเราเหมือนคนบ้าเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่