++ เตือนผู้สูงอายุในการทำประกันชีวิต หรือ สุขภาพ ++

เตือนผู้สูงอายุในการทำประกันชีวิต หรือ สุขภาพ
เรามักจะได้ยินโฆษณาบริษัทประกันต่างๆ มักบอกว่า
ไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องตอบคำถาม ไม่ต้องโน้นนี่นั้น..

ตามกฎหมายในเรื่องการทำประกัน ผู้เอาประกันมีหน้าที่ต้องแจ้งบริษัทประกันว่า
ตนเองมีโรคอะไรบ้าง โดยที่ตนเองรู้อยู่แล้วในขณะเข้าทำประกันด้วย
หากเรารู้และเราไม่แจ้งไป กฎหมายให้อำนาจบริษัทประกันบอกล้าง(เลิก)ได้
ภายใน ๑ เดือนนับจากวันที่อาจบอกล้างได้ หรือ ภายใน ๕ ปี นับจากวันที่ทำประกัน

หากเราไม่บอกประกัน อะไรจะเกิดขึ้น เช่น เราเป็นโรคเบาหวาน หัวใจ ความดันสูง
เรารู้แล้ว แต่เราไม่บอกประกันไป หากต่อมาภายหลัง แม้ว่าเราจะตายเพราะโรคอื่น เช่นโดนรถชนตาย
บริษัทประกันก็บอกเลิกสัญญาได้ โดยให้เหตุผลว่า คุณเป็นโรคเบาหวาน ความดันสูง แล้วไม่บอกนั่นเอง..
ฟังดูมันไม่เกี่ยวกับถูกรถชนตายใช่มั้ย แต่กฎหมายก็ให้สิทธิประกันบอกเลิกคุณได้

คราวนี้หากเราบอกบริษัทประกันว่า เราเป็นโรคเหล่านี้ หากบริษัทประกันรู้และเราบอกแล้ว
ต่อมาบริษัทประกันรับทำประกันให้เรา หากเราเป็นอะไรขึ้นมา บริษัทประกันจะอ้างว่าเราเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไม่ได้
เพราะเราแจ้งประกันไปแล้วนั่นเอง

คราวนี้เราเคยได้ยินกันว่า เราก็บอกแล้ว แต่ประกันไม่จดลงในกรมธรรม์ ทำไงดี..
ผมแนะนำให้คุณๆทั้งหลาย อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด เราต้องให้มันจดลงไปว่า
เราเป็นโรคอะไรบ้าง เพราะให้มันรู้ว่าเราบอกแล้ว และมันก็รู้แล้วนั่นเอง
บริษัทประกันมันมักใช้วิธีว่า... ไม่มีปัญหา เราทราบเรื่องของคุณแล้ว
แต่ไม่มีหลักฐานตรงนั้นไง.. พอเราเป็นอะไรขึ้นมา คราวนี้แหละมันอ้างว่าเราไม่ได้บอกมัน
เพราะไม่ได้จดไว้นั่นเอง

คราวนี้อีกประการหนึ่งคือ เราไม่รู้ว่าเราเป็นความดันสูงล่ะ
เราทำประกันไป และมันก็รับทำเราแล้ว ต่อมาเรามารู้ว่าเราเป็นความดัน
มันจะเลิกสัญญาเราได้มั้ย..

ตามกฎหมายบอกว่า...ให้เราบอกในขณะที่เข้าทำประกันเท่านั้นหากเรารู้..
หากเราไม่รู้ หรือมารู้ภายหลัง ก็ไม่เข้าเงื่อนไขที่ประกันจะบอกเลิกสัญญาเราได้
สรุปว่า อะไรที่เรารู้ตอนนั้น เราต้องบอก หากไม่รู้ก็ไม่ต้องบอก
และบอกไปแล้ว ก็ให้มันจดลงไปด้วย เพราะเวลามันจะจ่ายเงินเรา
มันอ้างสารพัดที่จะไม่จ่ายเรา ซึ่งเราก็รู้กันดี..จริงมั้ย

ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่