เบาะจักรยานมี 2 ประเภทหลักๆ คือเบาะสำหรับการขี่จักรยานประเภททัวริ่งหรือครูซซิ่ง ซึ่งต้องใช้เวลานั่งอยู่บนเบาะนานๆและแนวหลังจะตั้งตรงกว่า จะใช้เบาะปีกกว้างมีความนุ่มมากมีเจลหรือระบบกันสะเทือนด้านล่าง  กับเบาะอีกประเภทสำหรับการการแข่งขันหรือความเร็วที่มีการก้มไปข้างหน้ามากจะเน้นที่ความยาวของจมูกเบาะเพื่อรองรับร่างกาย ไม่เน้นความนิ่มและกว้างของปีกเบาะ



การใช้งานเบาะแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสรีระ,เพศ,และจุดประสงค์ของการปั่นจักรยาน  โดยดูจากโมเดลกระดูกที่ธรรมชาติของคนเราจะใช้กระดูกด้านล่างส่วนที่เรียกว่า Sit Bone เป็นจุดรับน้ำหนักของร่างกายบนพื้นที่นั่งหรือเบาะซึ่งจะตรงกับตำแหน่งของปีกเบาะจักรยานพอดี  แต่ถ้าเราปั่นจักรยานในแนวแข่งขันที่ต้องก้มลงไปด้านหน้ามากๆ โครงกระดูกส่วนที่รับน้ำหนักร่างกายก็จะเลื่อนตำแหน่งไปยังส่วนด้านหน้ามากขึ้น ซึ่งส่วนนี้จะมีเส้นประสาทและเส้นเลือดใหญ่และเนื้อเยื่อบอบบางอยู่ ถ้ามีการกดทับเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการเจ็บปวดเมื่อยล้าหรือทำให้ความความดันเลือดสูงหรือต่ำได้จากการกดทับเส้นเลือด และถ้ากดทับเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดการทำงานผิดปกติได้  และส่วนความกว้างของโครงกระดูกส่วนล่างต่อจาก Sit Bone  นี้ยังแตกต่างกันระหว่างสรีระของชายกับหญิงเพราะผู้หญิงจะมีโครงสร้างส่วนนี้กว้างกว่าผู้ชายประมาณ 9% แต่มุมความกว้างของกระดูกเชิงกรานจะมากกว่าโดยธรรมชาติเพื่อการคลอดบุตร ดังนั้นโครงสร้างส่วนที่กว้างกว่านี้อาจทำให้เกิดการกดทับเส้นเลือดและเส้นประสาทและเนื้อเยื่อของผู้หญิงได้มากกว่าถ้านั่งบนเบาะจักรยานที่แคบและแข็งเกินไปเหมือนเบาะที่สำหรับผู้ชายใช้

และสำหรับนักปั่นจักรยานแบบไทม์ไทรอัลหรือนักปั่นที่ก้มไปข้างหน้ามากๆและเลื่อนตำแหน่งการนั่งไปได้ด้านหน้าของส่วนปลายจมูกของเบาะมากๆจะยิ่งมีโอกาศกดทับระบบเส้นเลือดและเส้นประสาทได้มากขึ้นไปอีก


Credit: http://thairoadbike.com/index.php?topic=882.0