คารวะ-อาลัยต่อการจากไปของนักกลอนอาวุโส ประสพโชค เย็นแข

คารวะ-อาลัยต่อการจากไปของนักกลอนอาวุโส ประสพโชค เย็นแข
นักเขียนรางวัลนราธิป สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ในวัย ๘๒ ปี
ซึ่งถึงแก่กรรมด้วยโรคท้องเดิน  เมื่อค่ำวันอังคารที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖

(ขอบคุณภาพจากเฟสบุ๊ค@ธนภัทร บัวเบา มา ณ โอกาสนี้ ใส่ภาพประกอบไม่เป็น...จะวานน้องมาใส่ภายหลังครับ)

ประวัติ-เกียรติคุณ ประสพโชค เย็นแข

กวีและนักแต่งเพลงผู้รักในการจัดรายการวิทยุ เขาเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๔ ณ บ้านถนนพญาไท กรุงเทพมหานคร
ประสพโชคมีพี่ชายที่หลายคนรู้จักกันดีซึ่งเป็นนักร้องมีชื่อเสียงโด่งดัง คือ ชาญ เย็นแข เจ้าของเสียงเพลงลูกทุ่ง 'ค่าน้ำนม'

สำหรับชีวิตในวัยทำงานนั้น ประสพโชคได้เข้ารับราชการที่กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เมื่อพ.ศ.๒๔๙๖
และอำลาอาชีพราชการ ในปี ๒๔๙๙ โดยได้รับยศ 'จ่าเอก' เป็นยศทหารครั้งสุดท้าย และในปีเดียวกันนั้น
เขาได้งานใหม่ที่องค์การ ร.ส.พ. (องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์) ในแผนกตรวจรายจ่ายสังกัดกองบัญชี ซึ่งระหว่างทำงานที่ ร.ส.พ. ประสพโชคใช้เวลาตอนกลางคืนหารายได้พิเศษด้วยการจัดรายการเพลงตามสถานีวิทยุกระจายเสียงต่างๆหลายแห่ง
ซึ่งเป็นงานที่เขาชื่นชอบ โดยมีรายได้จากสปอนเซอร์บ้างเป็นครั้งคราว
ทั้งนี้เขายังจัดรายการกลอนประกอบเพลงสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละครึ่งชั่วโมง ให้แก่สถานีวิทยุที่มีเวลาว่างจากโฆษณาโดยไม่คิดเงินอีกด้วย

ต่อมา ปี ๒๕๐๓ ประสพโชคออกจาก ร.ส.พ.และเข้ารับราชการอีกครั้งที่กรมการสัตว์ทหารบก เทียบยศใหม่เป็น 'สิบเอก'
และยังคงใช้เวลานอกงานราชการจัดรายการวิทยุเหมือนเคย ด้วยเหตุนี้ กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน)
โดย บก.ปค. (กองบัญชาการปราบคอมมิวนิสต์) จึงขอยืมตัวเขาจากต้นสังกัด ไปทำหน้าที่เป็นพนักงานปฏิบัติการจิตวิทยาของหน่วย
ทำให้เขาต้องเดินทางตระเวนและโยกย้ายหน่วยไปปฏิบัติงานตามท้องที่ 'สีแดง' ทั้งทางภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้
เช่น มุกดาหาร สกลนคร นครพนม นครศรีธรรมราช ยะลา นราธิวาส เชียงราย และรับหน้าที่เป็นโฆษกสถานีวิทยุ ๙๐๙ สกลนคร
สถานีวิทยุ ๙๑๒ นราธิวาส เป็นเวลาถึง ๖ เดือน จนกระทั่งเขาตัดสินใจลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓
เนื่องจากสถานีวิทยุ ปตอ. (กองพันปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน) ต้องการตัวเขาไปทำหน้าที่ฝ่ายจัดรายการ
พร้อมทั้งให้ค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม

สำหรับเส้นทางสายวรรณกรรมของประสพโชค เย็นแข อาจกล่าวได้ว่าเขาดำเนินเส้นทางชีวิตสายนี้ไม่ห่างจากพี่ชายนัก
ด้วยการอำลาเครื่องแบบทหาร มาเป็นนักแต่งเพลง นักกลอน และนักจัดรายการวิทยุ รายการ 'กลอนนึกฝัน' ของเขาโด่งดังมากในอดีต
ใช้วิธีปิดท้ายรายการด้วยการเชือดเฉือนใจคนด้วยนิทานอีสปคำกลอน ซึ่งสร้างความเร้าใจในอารมณ์และความต้องอกต้องใจให้แก่
'สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์' กวีผู้มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมยิ่งนัก ถึงขนาดบอกกับประสพโชคว่าขอให้เขียนอย่าให้ขาด
แล้วจะรวมพิมพ์เป็นเล่มให้ แต่แล้วลมก็พัดเปลี่ยนทิศ ทำให้เขาต้องอำลาสถานีเดิมไปเป็นนักวิทยุที่ต่างจังหวัดอยู่หลายปี
กลอนจากนิทานอีสปจึงต้องหยุดชะงักไป

นอกจากนี้ ประสพโชคยังเป็นนักกลอนร่วมสมัย มีความสามารถในการเล่นสักวากลอนสด
เขาตระเวนเล่นกลอนสดร่วมกับคณะมาประมาณ ๕๐ ปี เป็นวิทยากรกิจกรรมภาษาไทย
รวมไปถึงเป็นกรรมการตัดสินวรรณกรรมของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยมีผลงานบทกวีเผยแพร่ทั้งของตนเอง หรือที่ร่วมกับเพื่อน ก็มีเป็นจำนวนมาก
ผลงานรวมเล่ม ได้แก่ กวีนิพนธ์ "ฝันกลางไฟ" ได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดหนังสือดีเด่นจากกระทรวงศึกษาธิการ
อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษาของสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย และอดีตกรรมการบริหารสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
ซึ่งก่อนเสียชีวิต ประสพโชค เย็นแข ยังนิยมออกมาร่วมกิจกรรมของวงการวรรณกรรมตามวาระโอกาสต่างๆอีกด้วย

(ขอบคุณ : ประวัติข้อมูลจาก สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่