Rise of the Guardians
เพราะคนเราเคยก้าวพลาด
ฮารุกิหยิบ Rise of the Guardians ขึ้นมาดูเพราะคำชักจูงจากเพื่อนคนหนึ่งครับ ถึงแม้คำชี้แนะนั้นจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความประทับใจที่เพื่อนของฮารุกิมีต่อตัวละครเอกอย่าง Jack Frost ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า แจ็ค ฟรอสต์ จะมีลักษณะที่ประทับใจเพื่อนพัมพ์คินของฮารุกิมากเพียงใด แต่ฮารุกิคงต้องขออภัยที่ต้องบอกว่า สำหรับตัวละครตัวนี้แล้ว ยังมีลักษณะและพลวัต (Dynamic) ที่ประทับใจฮารุกิได้ไม่เท่ากับโช (Sho/Shawn) จากเรื่อง Arietty นะครับ
ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า Rise of the Guardians เป็นผลงานอนิเมชั่นที่ไม่ดีแต่อย่างไร เพราะ Rise of the Guardians เป็นอนิเมชั่นที่ถึงพร้อมทั้งการวางโครงเรื่อง ภาพ และเสียง และไม่ผิดหวังที่ได้ดูได้ชมครับ
แต่เนื่องจาก เรื่องราวของ Rise of the Guardians วนเวียนอยู่รอบตัวของ Jack Frost เสียเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นเราก็จะกลับมาพูดคุยกันถึงเรื่องของ Jack Frost อยู่ดี
ก็อย่างที่คุณ Pumpkin ได้บอกไว้นั่นแหละครับว่า Jack Frost เป็นตัวละครหนึ่งในโลกการ์ตูนที่มี dynamic มาก Rise of the Guardians เริ่มต้นเรื่ิองราวตั้งแต่การถือกำเนิดของ Jack Frost ที่พบว่าตัวเองลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำแข็งหนาวเหน็บโดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่เคยมีใครเห็น และไม่มีซึ่งความทรงจำใดๆ ก่อนหน้านั้น
และเขาก็ต้องใช้ชีวิตอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาถึง 300 ปี จนกระทั่ง... (ข้อความต่อจากนี้เป็นการสปอยล์)
Pitch Black หรือ Boogeyman ปรากฏตัวขึ้น ทำลายความหวังและความฝันของเด็กๆ บนโลก รวมทั้งผู้พิทักษ์ดั้งเดิมทั้งสี่ คือ Santa Claus, Tooth fairy, Sandman, และ Easter bunny
จึงเหลือเพียง Jack ผู้ซึ่งเพิ่งจะได้รับเลือกเป็นผู้พิทักษ์คนที่ห้า ในการกอบกู้สถานการณ์กลับคืนมา
แต่ก็นั่นแหละ ในหนังเราก็จะได้เห็นว่า แท้จริงแล้ว ในตอนแรก แจ็คไม่ได้เข้าร่วมกับเหล่าผู้พิทักษ์เพราะอยากจะช่วยจริงๆ แต่เพื่อแลกกับความทรงจำในวัยเด็กของเขาที่วังของ Tooth fairy ซึ่งถูก Pitch Black ขโมยไป
ดังนั้น เมื่อแจ็คจึงตัดสินใจออกไปค้นหาความทรงจำของตัวเองในวังของ Boogeyman แทนที่จะเป็นรีบกลับไปสมทบกับพรรคพวก จนทำให้วันอีสเตอร์ถูกทำลาย
ทว่าหากจะว่าสิ่งนั้นสูญเปล่าไปก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะหากไม่ทำอย่างนั้น แจ็คก็คงไม่ได้พบกับความทรงจำในก่อนหน้านั้นของตัวเอง และไม่ได้พบกับ “Center” ของตัวเอง ที่นำไปสู่การกอบกู้สถานการณ์คืนมา
ดังนั้น บางที เราอาจจะตัดสินใจได้ยากว่าสิ่งหนึ่งๆ เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิด เพราะบนถนนของชีวิตนั้น เราเดินไปข้างหน้าได้เพียงอย่างเดียว
...ดังนั้น เราจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่า หาก “ตอนนั้น” เราเลี้ยวไปอีกทาง จะเจอกับอะไรบ้าง
เราต่างรู้เฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในทางที่เราเดินมาเท่านั้น
(
http://data.whicdn.com/images/46773109/Jack.Frost.600.1369613_large.jpg)
ทิ้งท้ายกันด้วยประโยคหล่อๆ จาก แจ็ค ฟรอสต์
“Are you telling me to stop believing in the moon when the sun comes up? Do you stop believing in the sun when the clouds block it out? We'll always be there. And now, we'll always be here.”
Rise of the Guardians เพราะคนเราเคยก้าวพลาด
เพราะคนเราเคยก้าวพลาด
ฮารุกิหยิบ Rise of the Guardians ขึ้นมาดูเพราะคำชักจูงจากเพื่อนคนหนึ่งครับ ถึงแม้คำชี้แนะนั้นจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความประทับใจที่เพื่อนของฮารุกิมีต่อตัวละครเอกอย่าง Jack Frost ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า แจ็ค ฟรอสต์ จะมีลักษณะที่ประทับใจเพื่อนพัมพ์คินของฮารุกิมากเพียงใด แต่ฮารุกิคงต้องขออภัยที่ต้องบอกว่า สำหรับตัวละครตัวนี้แล้ว ยังมีลักษณะและพลวัต (Dynamic) ที่ประทับใจฮารุกิได้ไม่เท่ากับโช (Sho/Shawn) จากเรื่อง Arietty นะครับ
ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า Rise of the Guardians เป็นผลงานอนิเมชั่นที่ไม่ดีแต่อย่างไร เพราะ Rise of the Guardians เป็นอนิเมชั่นที่ถึงพร้อมทั้งการวางโครงเรื่อง ภาพ และเสียง และไม่ผิดหวังที่ได้ดูได้ชมครับ
แต่เนื่องจาก เรื่องราวของ Rise of the Guardians วนเวียนอยู่รอบตัวของ Jack Frost เสียเป็นส่วนใหญ่ดังนั้นเราก็จะกลับมาพูดคุยกันถึงเรื่องของ Jack Frost อยู่ดี
ก็อย่างที่คุณ Pumpkin ได้บอกไว้นั่นแหละครับว่า Jack Frost เป็นตัวละครหนึ่งในโลกการ์ตูนที่มี dynamic มาก Rise of the Guardians เริ่มต้นเรื่ิองราวตั้งแต่การถือกำเนิดของ Jack Frost ที่พบว่าตัวเองลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำแข็งหนาวเหน็บโดยที่ไม่มีใครรู้ ไม่เคยมีใครเห็น และไม่มีซึ่งความทรงจำใดๆ ก่อนหน้านั้น
และเขาก็ต้องใช้ชีวิตอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาถึง 300 ปี จนกระทั่ง... (ข้อความต่อจากนี้เป็นการสปอยล์)
Pitch Black หรือ Boogeyman ปรากฏตัวขึ้น ทำลายความหวังและความฝันของเด็กๆ บนโลก รวมทั้งผู้พิทักษ์ดั้งเดิมทั้งสี่ คือ Santa Claus, Tooth fairy, Sandman, และ Easter bunny
จึงเหลือเพียง Jack ผู้ซึ่งเพิ่งจะได้รับเลือกเป็นผู้พิทักษ์คนที่ห้า ในการกอบกู้สถานการณ์กลับคืนมา
แต่ก็นั่นแหละ ในหนังเราก็จะได้เห็นว่า แท้จริงแล้ว ในตอนแรก แจ็คไม่ได้เข้าร่วมกับเหล่าผู้พิทักษ์เพราะอยากจะช่วยจริงๆ แต่เพื่อแลกกับความทรงจำในวัยเด็กของเขาที่วังของ Tooth fairy ซึ่งถูก Pitch Black ขโมยไป
ดังนั้น เมื่อแจ็คจึงตัดสินใจออกไปค้นหาความทรงจำของตัวเองในวังของ Boogeyman แทนที่จะเป็นรีบกลับไปสมทบกับพรรคพวก จนทำให้วันอีสเตอร์ถูกทำลาย
ทว่าหากจะว่าสิ่งนั้นสูญเปล่าไปก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะหากไม่ทำอย่างนั้น แจ็คก็คงไม่ได้พบกับความทรงจำในก่อนหน้านั้นของตัวเอง และไม่ได้พบกับ “Center” ของตัวเอง ที่นำไปสู่การกอบกู้สถานการณ์คืนมา
ดังนั้น บางที เราอาจจะตัดสินใจได้ยากว่าสิ่งหนึ่งๆ เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิด เพราะบนถนนของชีวิตนั้น เราเดินไปข้างหน้าได้เพียงอย่างเดียว
...ดังนั้น เราจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่า หาก “ตอนนั้น” เราเลี้ยวไปอีกทาง จะเจอกับอะไรบ้าง
เราต่างรู้เฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในทางที่เราเดินมาเท่านั้น
(http://data.whicdn.com/images/46773109/Jack.Frost.600.1369613_large.jpg)
ทิ้งท้ายกันด้วยประโยคหล่อๆ จาก แจ็ค ฟรอสต์
“Are you telling me to stop believing in the moon when the sun comes up? Do you stop believing in the sun when the clouds block it out? We'll always be there. And now, we'll always be here.”